แก๊งฆ่าเสี่ยโกสนเปิดปาก จับศพผูกเสาเข็มทิ้งเกาะอ่างทอง บุกค้นเรือ 3 ลำช่วยอำพราง (คลิป)

กรณีเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อย vplus" โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความระบุว่า ภรรยา"ผู้สูญหาย" ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วย

ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าตำรวจได้คุมตัวพยานที่คาดว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมนำศพ "เสี่ยโกสน" หรือ นายโกศล เรืองดุก หรือ ตุ้ม อายุ 45 ปี จากจุดฝังในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ทุ่งใสไช หมู่ 5 ต.พุมเรียง อ.ไชยา มาทิ้งถ่วงทะเล ชี้จุดบริเวณท่าเรือสวนสน อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎ์ธานี

โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่มาเก็บรวมรวมข้อมูล ภายในเรือประมงพื้นบ้านที่คาดว่าใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 3 ลำ คือ เรือรุ่งอรวรรณ์, เรือ ก.ฉัตรมงคล และเรือ ส.เศวตศิลป์ 5

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วน พร้อมชุดนักประดาน้ำแบ่งกำลังออกเรือค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต ที่บริเวณกลางทะเล ภายในต.ละแม อ.ละแม เป็นเขตเชื่อมต่อ จ.สุราษฎ์ธานี และจ.ชุมพร ตามที่คาดว่าได้รับข้อมูลมากจากพยาน โดยได้ออกค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ต่อมาก็ได้มีกลุ่มของกำนัน และภรรยาผู้เสียชีวิตออกเรือร่วมค้นหาไปกับทางเจ้าหน้าที่

ทีมข่าวได้พบกับ นายทองคำ (นามสมมติ) ชาวประมงในพื้นที่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นชายคนหนึ่ง และลูกน้องลงเรือทำการประมงเหมือนตามปกติ แต่พอหลังเกิดเรื่อง (วันที่ 3 พ.ค.64) ตนก็ยังไม่เห็นหน้าชายคนนี้และพวกอีกเลย ส่วนตัวแล้วชายคนนี้ถือเป็นบุคคลที่ชาวบ้านเกรงกลัว และรู้จักในฐานะบุคคลที่เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงไม่มีคนอยากยุ่ง ตนก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย และมีความรู้สึกเฉย ๆ ต่างคนต่างอยู่

สำหรับก่อนหน้านี้ประวัติคน 2 ตระกูล เคยทะเลาะกันเรื่องธุรกิจ ตนก็พอทราบมาบ้าง แต่เท่าที่ผ่านมาก็เห็นท่าลงเรือของทั้ง 2 ตระกูลอยู่ฝั่งตรงข้ามกันมาตลอด ซึ่งห่างกันเพียงแค่ 50 เมตร และไม่เคยเห็นมีใครทะเลาะกันให้ตนเห็นสักครั้ง นอกจากจะได้ยินคนอื่นพูดต่อ ๆ กันมา แต่พอมาทราบจากไลฟ์สดภรรยาเสี่ยโกสน ตนก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ ฆ่าโยนทิ้งทะเลดังกล่าว

เพราะวันที่ผ่าน ๆ มา ตนก็ทำงานแถวท่าเรือ ก็ไม่มีรถขับเข้าออกท่าเรือให้เห็นว่ามีพิรุธ หรือมีคนนำศพขึ้นเรือไปทิ้งทะเล หรืออาจเป็นเพราะตนไม่ได้สังเหต โดยในช่วงเช้าวันนี้ตนเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 10-20 คน เดินทางมาที่บริเวณดังกล่าวเพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับคดี บุคคลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมานั้น ถึงแม้จะปิดหน้าแต่ตนมั่นใจว่า น่าจะเป็นลูกน้องของผู้ชายคนที่ตนกล่าวถึง ตนก็สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดได้เพียงเท่านี้ เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลอะไรที่แน่ชัด

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายโอม (นามสมมติ) ลูกน้องเสียโกสนที่ดำน้ำค้นหา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความคืบหน้ากับนางจินดาหรา ภรรยาของเสี่ยโกสนว่า พยานที่รู้เหตุการณ์ได้สารภาพว่า นำศพของเสี่ยโกสน ไปโยนทิ้งทะเลจริง แต่รายละเอียดเชิงลึกก็ยังไม่ทราบว่าอยู่ตรงจุดไหน ทุกคนเลยล่องเรือสุ่มดำน้ำทะเลค้นหา ซึ่งตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่ลงไปดำน้ำค้นหา แต่ก็ไม่พบ เนื่องจากอุปสรรคในวันนี้น้ำทะเลค่อนข้างขุ่น จึงมองเห็นอะไรได้ไม่ค่อยชัดเวลาอยู้ใต้น้ำ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกคนก็กำลังเร่งค้นหากันอย่างเต็มที่ เพราะมีความหวังว่า จะเจอร่างของเสี่ยโกสน มากกว่า 90% ส่วนตนเป็นชุดที่ต้องกลับเข้าฝั่งมาก่อน เพราะน้ำมันเรือจะหมด จึงต้องรอฟังความคืบหน้าจากภรรยาเสียโกสนอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ครีม (นามสมมติ) ลูกสะใภ้เสี่ยโกสน เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนและคนในครอบครัวรวมถึงนางจินดาหรา ภรรยาเสี่ยโกสน ได้เดินทางออกค้นหาร่างของเสี่ยโกสน ตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาได้มีการค้นหาทางบก แต่ก็ยังคงหาร่างของเสี่ยโกสนไม่พบ คนในครอบครัวจึงเดินทางออกทะเลค้นหา เพราะเชื่อว่าเป็นจุดที่น่าจะเป็นไปได้

ทั้งนี้ตนก็ออกไปกับนางจินดาหรา ตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงเวลาประมาณ 13.00 น. ก็ยังค้นหาไม่พบ ตนจึงเดินทางกลับมาที่บ้านเพื่อทำกับข้าวรอผู้ที่ไปร่วมค้นหา ซึ่งหลังจากที่นางจินดาหรา ได้ตั้งรางวัลจำนวน 1 แสนบาท ให้กับบุคคลที่แจ้งเบาะแส จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครแจ้งเบาะแสให้ทางครอบครัวได้ทราบ

ในวันนี้ตนก็ยังคงรอฟังความคืบหน้าว่าจะเจอร่างของเสี่ยโกสนหรือไม่ แต่ส่วนตัวอยากให้เจอโดยเร็ว เพื่อจะได้นำกลับมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามความตั้งใจของคนในครอบครัว อีกทั้งตนสงสารนางจินดาหรา ที่เหนื่อยล้ากับการค้นหาร่างของสามี จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ และแอบไปร้องไห้คนเดียว เพราะไม่อยากให้ใครรู้

อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้ ก็อยากจะให้กำลังใจนางจินดาหรา ให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ พร้อมทั้งอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะได้เจอร่างของเสี่ยโกสน เนื่องจากผ่านมาแล้ว 7 วัน และนำตัวคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว