พ่อหนุ่มบิ๊กไบค์คาใจ รถล้มตายแต่ไม้สนุกปักอก ซิ่ง 200 พิรุธภาพถูกลบ - เพื่อนปัดขัดแย้ง (คลิป)

จากกรณีนางณัฐธยาน์ สิทธิชัยเบญกุล แม่ของนาย ปพน ขาวเจริญ หรือ พีม อายุ 27 ปี ติดใจหลังเผาศพลูกชายไปแล้ว ว่า เสียชีวิตอย่างไร หลังไปกินเหล้ากับเพื่อนที่เมืองชลบุรี และขับรถบิ๊กไบค์กลับบ้านที่ อ.ศรีราชา แต่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างทาง เมื่อผ่าศพพิสูจน์พบไม้สนุกเกอร์หักคาที่ไหปลาร้าถึงปอดซ้ายยาวกว่า 17 ซม.อยู่ในร่างกาย

วันที่ 2 ส.ค. 61 ทีมข่าวลงพื้นที่ แยกเฉลิมไทย ภายในตัวเมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านขายขนมจีนน้ำยา เป็นจุดสังสรรค์ระหว่างนายปพน หรือพีม (ผู้ตาย) ซึ่งในคืนวันเกิดเหตุ ผู้ตายและเพื่อนรวม 4 คน นั่งกันอยู่บริเวณหน้าร้านขายขนมจีน โดยคืนเกิดเหตุ ตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 02.00 น. ก่อนนายพีมจะขอกลับบ้านก่อน ซึ่งหลังผู้ตายกลับไปแล้ว ทุกคนยังนั่งดื่มต่อ

ด้าน นายอภิสิทธิ์ แก้วดวงดี หรือแจ๊ค อายุ 29 ปี  เปิดเผยว่า ในวันคืนเกิดเหตุตนได้พบกับพีมครั้งแรก ที่เดินทางมาพร้อมกับโจ๊คน้องชายของตัวเอง ซึ่งมารอที่ร้านโดยขณะนั้นตนกำลังปิดร้านขนมจีนซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว หลังปิดร้านเสร็จ ประมาณเวลา 20.00 น. ก็ได้เริ่มนั่งดื่มสังสรรค์กัน จากนั้นก็นั่งดื่มกันจนถึงประมาณเวลา 02.00 น. พีมก็ขอตัวกลัวบ้าน ซึ่งก่อนกลับก็ยังพูดคุยแะลยกมือไหว้ปกติ และในคืนนั้นไม่ได้มีการทะเลาะหรือมีปากเสียอะไรกันแต่อย่างใด มีแต่เพียงคุยเรื่องสาวๆและเรื่องของรถบิ๊กไบค์ท้่วไป และก่อนที่นายพีมจะกลับบ้าน ตนก็ได้ถามว่า “นอนที่นี้ไหม เพราะดึกแล้ว รวมถึงนายพีมมีอาการมึนเมามาก” ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธ และขอเดินทางกลับบ้านตามปกติ ตนยอมรับว่าผู้ตายเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว วันเกิดเหตุตนก็ยังบอกให้นายพีมขับรถระมัดระวัง ส่วนกรณีการเสียชีวิตของพีมนั้น ยอมรับว่าเสียใจ เพราะมาทราบข่าวในเช้าวันต่อมา จากน้องชายของตัวเองว่านายพีมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จนกระทั่งภายหลังมาทราบว่า ในร่างของผู้ตาย มีไม้สนุกเกอร์ปักอยู่ที่อก ส่วนตัวก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่ทราบว่ามาจากไหน อีกทั้งระหว่างทางกลับบ้านของนายพีม ก็ไม่มีร้านโต๊ะสนุกเกอร์ให้แวะ แต่ทั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และให้เป็นไปตามรูปคดี เพราะทุกคนคือเพื่อนกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ส่วนบริเวณหน้าร้านขายขนมจีน พบว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของร้านเสริมสวย เมื่อขอเข้าไปดูภาพเหตุการณ์ในคืนดังกล่าว พบว่ากล้องจำนวนสองตัวไม่สามารถย้อนหลังกลับไปวันเกิดเหตุได้ เนื่องกล้องมีพื้นที่เก็บภาพได้เพียงห้าวัน โดยจุดประสบอุบัติเหตุ เป็นเนินเขา อยู่ทางเข้าโกดังจัดเก็บสินค้า ซึ่งแม้ว่าช่วงที่ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่จะเป็นช่วงเวลา 17.00น. และเป็นช่วงที่ยังมีรถผ่านไปมาจำนวนมากก็ตาม แต่จากการสอบถามกับชาวบ้าน บอกว่า หลังจากเวลา 21.00น. ถนนจะค่อนข้างเงียบและมีเพียงรถบรรทุกเท่านั้นที่จะใช้ทาง ดังนั้นถ้ายิ่งดึกถนนยิ่งโล่งมากกว่านี้ ประกอบกับมีไฟส่องสว่างเป็นบางช่วง อีกทั้งจุดที่นายปพน ประสบอุบัติเหตุคือเลนขวาสุดชิดกับขอบทาง และมีจุดที่เจ้าหน้าที่ทำเครื่องหมายสเปรย์สีขาวเอาไว้บนพื้น ส่วนร่างของผู้ตายกระเด็นห่างออกไปประมาณ 7-10 เมตร

ด้าน นายดรัณภพ เห่งแจ้ง หรือเต้ อาสาสมัครกู้ภัยสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา ผู้เข้าไปช่วยเหลือนายพีมทีมแรก เล่าว่า ในคืนนั้น ตัวเองกลับมาจากเที่ยวที่บางแสน มาเจอกับรถเก๋งพลเมืองดี ที่จอดรถอยู่ท้ายรถบิ๊กไบค์ที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ ซึ่งขณะนั้นตนเห็นว่า มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่กลางถนน ห่างไปประมาณ 7-10 เมตร มีผู้ได้รับบัตรเจ็บตอนอยู่ ซึ่งพลเมืองดีบอกกับตัวเองว่า รถจักรยานยนต์ ขับพุ่งชนรถนิสสันสีดำ จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ขับรถหนีไป ขณะนั้นได้สังเกตอาการว่าตามตัวมีแผล แขนขวาผิดรูป หัวเข่าทั้งสองมีแผลฉีกขาด และเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ก็ได้ตัดเสื้อของผู้ได้รับบาดเจ็บออก ก็พบว่าบริเวณหน้าอกฝั่งขวา มีของแทงเข้าไปเป็นรู สังเกตว่าเป็นลักษณะเหมือนเศษไม้ และขณะนั้นไม่มีเลือดไหลออกมาได้อย่างไร แต่ได้มีการปฐมพยาบาลโดยการนำผ้าพันแผลมาปิดแผลเอาไว้ ตนเองจึงได้แจ้งกับทีมงานว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลตรงหน้าอก แล้วก็ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนทราบว่า เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายวิทูล ขาวเจริญ บิดาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ส่วนตัวครอบครัวยังติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากมีไม้สนุกเกอร์เข้าไปอยู่ในร่างของลูกได้อย่างไร ซึ่งตนคิดว่า ลูกชายอาจโดนทำร้ายมาก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากภาพจากกล้องติดหมวกกันน็อกของลูกชาย พบว่ามีความเร็วสูงถึง 220 กม.ต่อ ชั่วโมง ตนมองว่าลูกชายอาจจะกำลังหนีอะไรใครบางคน เพราะคนปกติหากจะขับรถกลับบ้านก็คงไม่ขับเร็วเช่นนี้ นายวิทูล ยังบอกอีกว่า จุดที่ลูกชายเกิดอุบัติเหตุกับจุดที่ลูกชายออกมาจากที่อยู่กับกลุ่มเพื่อนประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งตนคิดว่าลูกอาจจะอยู่ระหว่างรีบขับรถไปโรงพยาบาล ส่วนตัวลูกชายไม่ได้เป็นคนเล่นสนุกเกอร์ยู่แล้ว ไม่มีไม้สนุกเกอร์เป็นของส่วนตัว อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุตนได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนลูกชายที่อยู่ด้วยก่อนเกิดเหตุเพียง 1 คน โดยระบุว่ามีเพื่อนนั่งสังสรรค์ประมาณ 4 คน และยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับใคร ไม่มีปัญหากับใครก่อนขับรถออกมา ทั้งนี้ร่างกายลูกชายก็ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายอะไรและลูกไม่ใช่เด็กเกเร เป็นคนรักเพื่อน ตอนนี้ครอบครัวสงสัยเพียงว่าไม้สนุกเกอร์เข้าไปอยู่ในร่างลูกชายได้อย่างไร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกกลุ่มเพื่อนที่อยู่กับผู้ตายเข้ามาสอบปากคำด้วย

ด้าน นางณัธฐยาน์ สิทธิชัยเบญกุล มารดาผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้า เปิดเผยว่า ส่วนตัวครอบครัวไม่ได้เจาะจงใครว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เรียกกลุ่มเพื่อนผู้ตายที่อยู่ด้วยก่อนเกิดเหตุ เข้ามาสอบปากคำให้รอบครอบได้หรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยเงียบไปเช่นนี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของอุบัติเหตุแน่นอน ตอนนี้อยากรู้ว่าใครทำร้ายลูกชาย และดูจากลักษณะแผลที่ลูกชายโดนทำร้าย เชื่อว่าผู้ก่อเหตุหวังเอาชีวิตลูกชาย ตนอยากถามคนที่ทำว่ามันเกินไปหรือไม่ ทั้งนี้หากเลือกได้ ตนจะขอเจ็บแทนลูก เพราะเชื่อว่าลูกจะต้องทรมานมาก ด้าน พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผู้กำกับการ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเรียกสอบพยาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง คนสนิท และเพื่อนที่นั่งอยู่ในกันก่อนแยกย้ายในคืนเกิดเหตุ มาให้ปากคำเพิ่มเติมถึงมูลเหตุที่จะสื่อไปถึงตัวคนร้าย ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดตามจากกล้องววจรปิดสาธารณะตามเส้นทางที่คาดว่านาย ปพน ขาวเจริญ หรือ พีม อายุ 27 ปีจะขับรถผ่าน ซึ่งล่าสุดได้ประสานขอภาพจากกล้องของกรมทางหลวงพิเศษ แต่ก็ยังไม่สามารถเห็นภาพได้ทั้งหมด ส่วนกรณีเพื่อนร่วมสังสรรค์ด้วยกันในคือเกิดเหตุ ได้แจ้งกับพนักงานสอบสวน จะเดินทางมาพร้อมกันทั้ง 3 คนในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ เผยอีกว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และทางญาติเกิดความสะบายใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเร่งช่วยเหลือในคดี และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ยังคงต้องสืบสวนต่อไปจนกว่าจะได้ข้อเท็จจริง