หมอเจี๊ยบ ลลนา ยอมรับอดีตเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่ปัจจุบันขอมีรักเดียว

5 พ.ค. 64

เป็นสาวหล่อที่ฮอตติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ หมอเจี๊ยบ ลลนา ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เคลียร์ชัดกับข่าวเมาท์ว่าตัวเองเป็นสายหื่น แต่ก็ยืดอกยอมรับตรงๆ ว่าเจ้าชู้หนักมากเมื่ออดีต ก่อนจะเจอรักแท้ที่หยุดไว้ที่ น้องเดียร์ คนเดียว ตอนนี้พร้อมเดินหน้าทำมูลนิธิช่วยเหลือสังคม

s__71467708

ถาม เจี๊ยบเป็นหมอทางด้านไหน

หมอเจี๊ยบ : เจี๊ยบเป็นหมอฉุกเฉิน แต่คนชอบเข้าใจผิดคิดว่าเจี๊ยบมาเล่นเป็นหมอ ซึ่งเราเป็นหมอจริงๆ แล้ว เจี๊ยบจบเฉพาะทางด้วย ที่เลือกด้านนี้เพราะเจี๊ยบรู้สึกว่าการทำงานในฉุกเฉิน สมัยก่อนเขาคิดว่าเอาใครมาอยู่ที่ห้องฉุกเฉินก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราต้องเอาหมอที่มีคุณภาพมาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เพื่อที่จะได้คัดกรองโรคให้ถูกต้อง รักษาให้ถูกต้อง แล้วมันเป็นช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้ เปลี่ยนคุณภาพชีวิตคนไข้ ถ้าเราไปผิดทาง คนไข้ก็ไปผิดทางกับเรา ถ้าเราไปถูก คนไข้ก็มีโอกาสในการรอดชีวิตที่จะกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม


ถาม แล้วภาวะฉุกเฉินที่บอกว่าถ้ามันอันตรายแล้ว มันมีขั้นตอนอะไรบ้าง

หมอเจี๊ยบ : อะไรก็ตามที่เป็นอันตรายต่อชีวิต คือเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินหมดใช่ไหม ถูกงูกัด ตบตี กระทืบ เลือดออกในสมองก็ต้องมาห้องฉุกเฉิน หรือว่าอะไรก็ตาม อย่างคนไข้มีสภาวะเป็น Stroke เส้นเลือดอุดตันในสมอง ก็ต้องมาห้องฉุกเฉิน ซึ่งถ้าเกิดเจี๊ยบไม่ได้เรียนต่อ ไม่เชี่ยวชาญพอ ก็อาจจะวินิจฉัยว่าสงสัยจะตกหมอน นอนไม่พอ ปากเลยเบี้ยว อาจจะเกิดการวินิจฉัยโรคผิดไปได้ คนไข้ก็จะกลับไปแล้วกลายเป็นอัมพาตไปเลย แต่ถ้ามาถึงวินิจฉัยโรคถูก แล้วให้ทานยา ร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติได้


ถาม เพราะฉะนั้นเวลาที่หมอเจี๊ยบอยู่ในห้องฉุกเฉิน เคยเจออะไรที่เราหนักที่สุดไหม

หมอเจี๊ยบ : เจี๊ยบทำงานในห้องฉุกเฉิน เราจะอยู่กับความเป็นความตายในหลายๆ รูปแบบ แต่สิ่งที่ถามว่าหนักที่สุด เจี๊ยบว่าทำงานมาตรงนี้ เจี๊ยบเชื่อว่าหมอทุกคนจะมีการปรับตัว จะเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งเลยที่ยังไงเจี๊ยบก็ไม่ชิน คือญาติที่มาหา คนที่ยังอยู่ทรมานกว่าคนที่เขาเสียชีวิต บางทีการเสียชีวิตไปแล้ว เป็นการหมดความทุกข์ของเขา แล้วก็เป็นสัจธรรมของชีวิตเพราะเราได้ทำเต็มที่แล้ว แต่เราก็ฟื้นสัจธรรมตรงนั้นไม่ได้ แล้วคนที่ยังอยู่ เขาทำใจไม่ได้ มาไหว้เรา หมอช่วยเถอะค่ะ ขอร้อง แล้วเรารู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเกินไปที่เราจะทำได้ แล้วบางทีเขาทำใจไม่ได้ เขาก็จะมาแบบตื่นสิ อย่าทิ้งกัน แล้วมีเคสหนึ่ง เจี๊ยบ จำได้เลย ก่อนที่เจี๊ยบจะไปเรียนต่อ เป็นผู้ชายถูกไฟฟ้าช็อตมา เราก็ปั้มๆ แล้วเราก็ต้องออกมาคุยกับญาติว่าหัวใจเขาหยุดเต้นอยู่นะ แต่หมอกำลังช่วยอยู่ ซึ่งเราก็ออกมาบอกเขาเป็นระยะๆ แล้ววันนั้นที่เราออกมาบอก เป็นผู้หญิงอุ้มท้องมา เราก็แบบเราจะบอกเขายังไง วิธีการออกมาบอกญาติของผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งในวิชาที่ต้องเรียน อย่างที่คนถามว่าเจี๊ยบอยู่ในวงการกับทำงานหมอมันดูต่างแตกกันมาก แต่เจี๊ยบจะบอกเลยว่ามันไม่แตกต่างกันนะ เพราะว่ามันเป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่ง หมอมีใบประกอบโรคศิลป์ในการรักษาคนไข้ ก็จะต้องรู้ว่าเราต้องมาบอกกับเขายังไงให้มันอ่อนโยนที่สุด หรือการซักประวัติร่างกาย ถ้าเราถามตรงๆ เขาก็ไม่กล้าบอก เวลาที่เราจะซักประวัติหรือถามเรื่องข้อมูลส่วนตัวของคนไข้ เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขาได้พูด


ถาม แต่เห็นหมอเจี๊ยบแบบนี้ ต้องบอกเลยว่าเขาบอกว่าคือสายหื่นของวงการ

หมอเจี๊ยบ : ไม่จริงเลยค่ะ ก็รู้ๆ กันอยู่ การแสดงทั้งหมดในการทำงาน จริงๆ เป็นคนเรียบร้อย แต่เพื่อความสนุกสนานของคนที่อยู่รอบตัวของเรา เขาเลยมองว่าเราเป็นแบบนั้น แต่ถ้าถามว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ไหม ยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ (สมัยก่อน) สมัยก่อนเราก็เป็นคนจิ๊จ๊ะ เวลาไปเที่ยวเราก็จะเดินตั้งแต่หน้าร้านยันท้ายร้านจริงๆ แต่ตั้งแต่เจอน้องเดียร์ เราก็เปลี่ยนไป เขาทำให้เรารู้ว่าไม่มีใครที่จะเพอร์เฟกต์หรอก น้องเดียร์เป็นคนน่ารักสุภาพ


ถาม คบกันมากี่ปีแล้ว

หมอเจี๊ยบ : คบกันมา 5 ปีแล้วค่ะ แต่เป็นแฟนกันมา 4 ปีแล้ว ที่เปลี่ยนเพื่อเขา อาจจะเป็นเพราะที่ไปคลับฟรายเดย์โชว์ เราเคยเป็นคนเลวมาก่อน ทำให้คนอื่นเสียใจแล้วสุดท้ายเราก็เสียใจเอง มันรู้ว่าความเสียใจอย่างนั้นมันเจ็บปวดมาก ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากทำให้ใครเสียใจอีก รวมทั้งตัวของเราด้วย เราเคยทำให้คนอื่นเสียใจมาแล้ว พอเรามาเสียใจเอง โทรศัพท์หาตั้งแต่แฟนคนแรกจนกิ๊กคนสุดท้าย ขอโทษ ให้เขาอโหสิกรรมให้เรา ซึ่งทุกคนก็ยอมให้เราขอโทษและอโหสิกรรมให้ ทุกคนที่เราเลิกก็เลิกด้วยดี แล้วเราก็รู้สึกว่าของพวกนี้กรรมมันตามทันจริงๆ เราไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเราต้องมาเจ็บปวดเรื่องความรัก ขนาดเราเป็นหมอ เรายังรู้สึกว่าถ้าเราไม่สบาย เรากินตัวไหน เราหายได้ แต่เรื่องใจมันไม่มีนะ เจ็บ เศร้า นอนไม่หลับ เอายาตัวนี้มากิน มันไม่มีมัน ต้องใช้เวลาจริงๆ เราเลยรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ทรมานมาก การป่วยใจเป็นอะไรที่ทรมานที่สุด เราเลยตั้งเป้าว่าถ้าเกิดจะมีแฟนคนถัดไป เราจะต้องมั่นใจมากๆ ว่าจะไม่มีคนอื่นอีก จะมีเขาเป็นคนสุดท้าย วางเป้าหมายไว้เลยว่าเราต้องเป็นคนดีเรื่องนี้แล้ว เพราะเมื่อก่อนเราเป็นคนดีในเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องความรักตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นคนดีที่แท้จริง แต่ว่าวันนี้น้องเดียร์ทำให้เราเป็นคนได้ครบทุกด้าน

s__71467710

ถาม ต้องถามการใช้ชีวิตคู่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ต้องมีการทะเลาะกัน กับน้องเดียร์ทะเลาะกันแรงที่สุดเรื่องอะไร

หมอเจี๊ยบ : เป็นช่วงแรกๆ มากกว่าเรื่องทะเลาะ คิดว่าทุกคู่มันต้องทะเลาะอยู่แล้ว ด้วยความที่เราเป็นเด็กงอแง แล้วอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่าย ถ้ารักฉันฉันต้องสำคัญที่สุด ต้องเลือกฉัน ซึ่งคนที่จะมาเป็นแฟนสมัยก่อนคือเจี๊ยบ ไม่ให้ทำงานเลย เราอยากให้เขาอยู่กับเราเพราะเราสามารถดูแลเขาได้ แต่พอเขาจะไปทำงาน เราก็งี่เง่า จะทำก็ต้องมีเวลาให้เรา ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นกับน้องเดียร์ในตอนแรกๆ เรียกว่างอแงเลย เพราะว่าน้องเดียร์บ้างานมาก แต่สุดท้ายแล้วก็คือปรับตัวเข้าหากัน แล้วเราคบกับน้องเดียร์ เราก็โตขึ้น เพราะเขาทำให้เรามั่นใจว่าเขาจะไม่ไปไหน แต่เขาจะไปไหนทำอะไร เราก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตเขาเต็มที่ เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำกับคนที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ผิด เราก็ได้ขอโทษกับทุกคนๆ ขอโทษอีกรอบนะคะ


ถาม อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องถามเลย เพราะน้องเดียร์แหละที่ทำให้ หมอเจี๊ยบเปลี่ยนในหลายๆ เรื่อง ซึ่งตอนนี้ก็เปลี่ยนในเรื่องการใช้เงินด้วย

หมอเจี๊ยบ : เขาทำให้เราเปลี่ยนเยอะมาก เพราะเมื่อก่อนเรามีก็ใช้ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหน เห็นอะไรที่ชอบ เราก็ซื้อหมด แล้วพอเราเจอคนที่เรารัก เราก็ต้องวางแผนว่าเราจะใช้ชีวิตคู่กับเขายังไง เพราะเขาคือคู่ชีวิตของเรา และเราก็อยากใช้ชีวิตกับเขาไปจนแก่ เราไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวที่จะใช้อะไรก็ได้ ไม่สนคนอื่น แต่ตอนนี้เรามีครอบครัว มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ เรามองการณ์ไกลมากขึ้น น้องเดียร์เขาเป็นคนที่ใช้เงินเขาจะคิด เราเลยต้องเปลี่ยนชีวิต หนึ่งเรื่องการใช้เงินคือใช้น้อยลง คิดมากขึ้น สองทำบ้าน ตอนแรกที่เราทำบ้าน เพราะเราอยากหาที่เก็บของเยอะๆ แล้วคือช่วงที่เราทำบ้าน ก็ได้ไปดูสารคดีเกี่ยวกับการใช้เงิน อยู่ดีๆ เราดูแล้วเราคลิกกับแนวคิดนั้นจริงๆ เขาได้สื่อให้เราเห็นว่าการที่เราไปซื้อสิ่งของตลอดเวลา คุณคิดว่าคุณมีสิ่งของที่ซื้อมาแล้วมันทำให้คุณมีความสุขจริงๆ เหรอ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ถาวร เพราะสุดท้ายเราก็อยากได้สิ่งใหม่ๆ อะไรใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เมื่อเราอยากได้ของ เราก็จะเป็นทาสของการทำงานแบบนี้ตลอดไป เพื่อที่จะได้มีเงินไปซื้อ เพื่อที่จะมาบำบัดความต้องการของเรา มันก็ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วประกอบกับว่า เจี๊ยบทำงานเป็นหมอฉุกเฉินด้วย การที่จะมีเงินทองมีชื่อเสียงอะไรก็ตาม มันซื้อเวลาไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหน ซึ่งบางทีเราซื้อๆ เราก็จะกลายเป็นทาสของเงิน และเราก็ต้องทำงานเพื่อให้ได้เงินมา แต่ถ้าเราลดความต้องการให้น้อยลง แล้วมีความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่การที่เราทำงานหนักแบบนั้นก็จะลดลง เป้าหมายของเจี๊ยบคืออยากปลดเกษียณแล้ว เจี๊ยบอยากทำงานเพราะว่าเราอยากไปช่วยคนจริงๆ

s__71467716

ถาม ซึ่ง เจี๊ยบ พูดเสมอว่าอยากทำคลินิกของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ เจี๊ยบ ก็ทำเป็นมูลนิธิ

หมอเจี๊ยบ : ซึ่งคนถามเมื่อก่อนว่าอยากเป็นหมอทำไม เป็นนางงามทำไม เพราะว่าเราอยากมีฟรีคลินิก เมื่อเราโตขึ้น เราไม่ได้เห็นว่ามีแค่คนแล้วที่ต้องการความช่วยเหลือ มันมีทั้งสัตว์ เจี๊ยบเลยได้รวมรวบไอเดียกับเพื่อนๆ เปิดเป็นมูลนิธิ Let’s Be HEROES ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ เราไม่จำกัดด้วยว่าเราจะช่วยแต่คนหรืออะไร แต่เราช่วยทุกคนที่เราเห็นว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถ้ามูลนิธิของเราถ้ามีศักยภาพในการช่วยเหลือมากพอเราก็จะเข้าไปช่วย ดูข้อมูลของมูลนิธิได้ในเฟสบุ๊ค และ IG : Let’s be heroes foundation

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส