แฉเด็กปั๊มสุดแสบ แอบจดเลขบัตรเดบิตลูกค้า ซื้อไอเทมเกม

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเตือนผู้ใช้บัตร เครดิต และ เดบิต หลังจากถูกพนักงาน ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งโจรกรรมข้อมูลเลขบัตร 16 หลักและรหัสรักษาความปลอดภัยด้านหลังบัตรจำนวน 3 หลักไปใช้เติมเงินเกมออนไลน์ สูญเงินกว่า 7,000 บาท  เบื้องต้นสามารถดำเนินการตามตัวผู้กระทำผิดมาชดใช้ค่าเสียหาย และปล่อยตัวไป รวมทั้งยังกล่าวว่า อยากให้เรื่องดังกล่าว เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ใช้บัตรทุกท่านให้ระมัดระวัง

วันที่ 31 ก.ค. 61 นายโอ (นามสมมติ) น้องเขยของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันที่ 29 ก.ค. 61 เวลาประมาณ 12.15 น ได้เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งในย่านพุทธมณฑล โดยใช้บัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารแห่งหนึ่ง จ่ายค่าเติมน้ำมันยอดเงิน 680 บาท

หลังจากนั้นเดินทางไปซื้อของต่อที่จตุจักร ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น มีข้อความ SMS ในโทรศัพท์ของนางใจ (นามสมมติ) พี่สะใภ้ แจ้งว่ามียอดการใช้จ่ายเป็นจำนวน 8 ครั้งติดกัน และทางธนาคารโทรมาแจ้งว่า ได้มีการกดเงินซื้อไอเท็มในเกมส์ออนไลน์ จากเลขบัตรดังกล่าวจริงหรือไม่ จึงแจ้งกับทางธนาคารว่า ไม่เคยเล่นเกมส์นี้ และโทรศัพท์ก็อยู่กับตัวเอง จะไปกดเล่นซื้อไอเท็มเกมส์ได้อย่างไร เมื่อตนได้แจ้งกับธนาคารว่า ล่าสุดมีการใช้บัตรเติมน้ำมัน ทางธนาคารจึงถามกลับว่า ใช่ เด็กปั๊มหรือเปล่า นายโอ กล่าวต่อว่า ธนาคารบอกว่าการโจรกรรมสามารถทำได้เพียงแค่จดหมายเลขบัตรด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้าซื้อไอเท็มเกมได้แล้ว ระหว่างนั้นจึงได้บอกให้ธนาคารระงับการจ่ายและอายัดบัตรใบดังกล่าว ทางธนาคารแนะนำให้ไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อทำบัตรใหม่ ตนจึงเดินทางกลับไปที่ สภ.โพธิ์แก้ว และลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้น ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว เข้าไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ปั๊มดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูกล้องวงจรปิดที่ปั๊ม พบว่าคนร้าย คือ พนักงานที่นำบัตรไปคิดเงิน โดยพฤติกรรมของคนร้าย คือ เมื่อรับบัตรเสร็จแล้วก็เดินอ้อมรถไปอยู่ด้านหลังของหัวจ่ายน้ำมัน และนั่งดูบัตร ก่อนที่จะนำบัตรดังกล่าวไปคิดเงินที่แคชเชียร์ เสร็จแล้วก็ได้มีการจดข้อมูลเลขด้านหน้าบัตรทั้ง 16 หลักและเลข CVV หรือรหัสรักษาความปลอดภัยด้านหลังบัตร 3 หลัก และจึงนำบัตรกลับมาให้ที่รถ หลังจากนั้นประมาณ 5 - 10 นาทีจึงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรแจ้งมาที่พี่สะใภ้ของตนจำนวน 7,335 บาท สำหรับเรื่องของคดีความ ตนได้ให้ทางผู้จัดการปั๊มดังกล่าว ได้เรียก คนก่อเหตุ มาพูดคุยเพื่อให้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้น คนก่อเหตุยินยอมจ่ายค่าเสียหาย ซึ่งคนก่อเหตุก็ยังคงเป็นเยาวชนอยู่ด้วยตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความ หลังจากได้รับค่าเสียหายครบก็จบเรื่อง

นายโอ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากเตือน ผู้ที่ใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ว่าในการใช้จ่ายแต่ละครั้งให้ระมัดระวัง เพราะผู้ใช้บัตรไม่รู้ว่าการ ให้บัตรกับผู้อื่นไปจะถูกโจรกรรมข้อมูลหรือไม่ หากเป็นไปได้ให้เดินตามพนักงานที่ถือบัตรไปขณะที่ทำการชำระเงิน หรือหากมีเงินสดก็ควรที่จะกดเงินสดให้กับพนักงานดีกว่า เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากบัตรสามารถถูกโจรกรรมข้อมูลได้ง่าย เพียงแค่การถ่ายภาพหรือจดเลขบัตร ก็สามารถนำไปกดเงินได้