ตายแปลก หนุ่มผ้าคลุมหัวจับมือไพล่หลังผูกคอ ญาติทำใจเชื่อหนีโรครุมเร้า (คลิป)

กรณีกู้ภัยร่วมใจนากลาง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หลังจากนั้น ร.ต.อ.วีระยุทธ ทิพย์ลม พนักงานสอบสวน สภ.นากลาง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบชายทราบชื่อภายหลัง นายสมัย กุลดวงจันทร์ อายุ 53 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อผูกคอเสียชีวิต มีเชือกสีขาวคล้ายสายสิญจน์มัดข้อมือทั้งสองข้างไพล่หลังไว้ และบริเวณศีรษะมีผ้าเช็ดตัวคลุมอยู่

สภาพศพสูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร ด้านข้างมีม้าหินอ่อน และใกล้ ๆ กันมีถังน้ำสีดำล้มตะแคงอยู่ โดยทางญาติได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงได้นำร่างส่งไปชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น

ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุไม่ใช่บ้านของผู้ตาย แต่เป็นบ้านของน้องเขยพ่อ โดยจุดที่ผูกคอ คือ ต้นหมากน้ำนม มีความสูงประมาณ 4 เมตร ทางครอบครัวได้ตัดต้นไม้ดังกล่าวทิ้งแล้ว ส่วนผ้าที่คลุมหัวเป็นผ้าเช็ดตัวของผู้ตาย 

จากการสอบถาม น.ส.สายสมร สุภกรรม อายุ 41 ปี ลูกสาวของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันที่ 30 เม.ย.64 ก่อนเกิดเรื่อง นายสุนทรไม่ยอมกินข้าวทั้งวัน กระทั่งเวลา 16.00 น. ญาติพี่น้องโทรศัพท์มาชวนไปกินข้าว ตนเลยพานายสุนทร อาเขยของผู้ตาย ออกไปกินข้าวนอกหมู่บ้าน

เวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้กลับมาที่บ้าน แต่ไม่เห็นนายสมัย เมื่อตนเข้ามาในบ้านก็พบว่านายสมัยไม่ยอมหุงข้าว ทั้งที่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว เลยบ่นกับพ่อว่า “ถ้าขี้เกียจแบบนี้ ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้นะ” ก่อนจะเดินไปเปิดไฟหน้าบ้าน ขณะนั้นแฟนของตนอยู่แถวหน้าบ้านพอดี และเรียกชื่อ นายสุนทรให้ไปดู เมื่อตนตามไปดู ก็พบร่างของนายสมัย ผูกคอเสียชีวิต ใกล้ ๆ กันพบว่าถังพลาสติกสีดำล้มลงอยู่ที่พื้น แต่คนไม่ทราบว่า ทำไมต้องเอาเชือกไปมัดมือไพล่หลัง

หลังเกิดเรื่อง นายสุนทร อาเขยของผู้ตาย ออกไปจากบ้าน เพราะมีปัญหากับญาติพี่น้องของผู้ตาย แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่นายสมัย เสียชีวิต โดยสาเหตุของการฆ่าตัวตาย อาจจะเป็นเพราะว่านายสมัย คิดมากเพราะเป็นป่วยเบาหวาน จนขาข้างซ้ายเปลื่อย และต้องเอาผ้าพันกันแมลงวันตอม ทำให้เดินไม่ค่อยถนัด และอาจจะต้องถูกตัดขาทิ้ง

ทั้งนี้ นายสมัยเพิ่งจะออกมาจากคุก และมาขออยู่ที่บ้านของตนได้ประมาณ 2 คืนแล้ว และคืนที่ 3 ก็มาฆ่าตัวตาย ผู้ตายไม่ค่อยพูดและนอนอย่างเดียว คาดว่าอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าด้วย ผู้ตายออกมาจากคุกได้ เพราะนายสุนทร ไปทำเรื่องขอเอาตัวมากจากคุก เพราะสงสารเรื่องที่ป่วยโรคเบาหวาน ด้วยเหตุนี้ตนจึงขอยืนยันว่าถึงแม้จะเคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่นายสุนทร ไม่ได้เกี่ยวข้องกันการตาย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอิ๊ด กุลดวงจันทร์ อายุ 48 ปี น้องชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 เวลาประมาณ 20.00 น. ตนทราบเรื่องว่าพี่ชายผูกคอเสียชีวิต แต่ตนดูจากรูปภาพพบว่าผู้ตายเอามือไพล่หลัง แล้วเอาเชือกมามัดไว้หลวม ๆ ตอนแรกตนรู้สึกติดใจว่าทำไมทำแบบนั้น แต่ตอนนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่ได้ติดใจแล้ว แต่ถ้ามีคนมาทำร้ายเขาจริง ๆ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรม 

เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เวลาประมาณ 15.00 น. ญาติพี่น้องได้ทำการเผาศพ เพราะตามความเชื่อผู้ที่เสียชีวิตแบบผิดปกติ ห้ามเก็บศพไว้เกิน 24 ชั่วโมง และเมื่อเช้านี้ได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของผู้ตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเกรงจะเป็นอาถรรพ์

ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าผู้ตายมีปัญหาส่วนตัวกับใคร แต่ผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเมื่อปี 2556 นายสมัย และนายสุนทร อาเขย (เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ) ดื่มเหล้าเมาแล้วมีปากเสียงกัน ผู้ตายไปทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย จึงแจ้งความจนเป็นคดีความกระทั่งเดือน ส.ค.63 เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันนี้อาเขยให้อภัย และถอนแจ้งความแล้ว และอยู่ด้วยกันตามปกติ

เวลาประมาณ 16.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวน แต่จากผลชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่อยรอยการทำร้ายร่างกาย

นายสุนทร สุภกรรม อาเขยของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า เมื่อปี 55-56 ผู้ตายมีอาการเมา และตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกไปกับหลาน ขณะนั้นผู้ตายได้เอามีดมาฟัน แต่ตนหลบทัน เลยไปเฉี่ยวถูกแก้มของหลานสาว ตนเลยแจ้งความเอาเรื่อง และมาถอนแจ้งความในภายหลัง เพราะรู้สึกสงสาร

อย่างไรก็ตาม ตำรวจสภ.นากลาง ให้ข้อมูลว่า คาดว่านายสมัย น่าจะเสียชีวิตช่วงเวลาประมาณ 18.30-20.00 น. โดยครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็น คือ เวลาประมาณ 18.00 น. คนแรกญาติแถวนั้น แต่คนที่ศพคนแรก 20.00 น. เบื้องต้นทางญาติพี่น้องติดใจการตายจึงนำศพไปผ่าชันสูตร และผลการผ่าชันสูตรพลิกศพทราบว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย ไม่มีรอยฟกช้ำ ไม่ร่องรอยกระดูกหัก หรือเคล็ด และเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

สำหรับเชือกที่มัดไพล่หลังนั้น ปมเชือกที่มัดมืออยู่ในลักษณะพันม้วนไว้เฉย ๆ ไม่ได้เหมือนกับมีคนมาผูกไว้ เบื้องต้น สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจจะมาจากผู้ตายป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทำให้รู้สึกทรมานจากอาการป่วย และผู้ตายมีอาการทางจิตอ่อน ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยติดคุกในข้อหาทำร้ายร่างกายกับญาติพี่น้อง ก่อนศาลจะตัดสินได้เรียกญาติพี่น้องว่าติดใจเอาความหรือไม่ แต่ญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจ จึงติดคุกได้ไม่นานและกลับออกมา