เมื่อวันที่ 2 พ.ค.64 เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุม REDEM เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาถึงศาลอาญา รัชดา โดยส่วนใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์และบีบแตรมาตลอดทาง ผู้ชุมนุมบางส่วนช่วยกันเคลื่อนย้ายแท่งแบริเออร์ปูนที่ปิดทางกลับรถด้านหน้าศาลอาญาออก เพื่อให้ผู้ชุมนุมสามารถขี่รถผ่านมาเข้าในเส้นทางดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องขี่รถอ้อม
ขณะที่นายเจษฎา ศรีปลั่ง กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มกิจกรรม ระบุว่า การชุมนุมในวันนี้เพื่อแสดงออกว่าพวกเราไม่พอใจกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิการประกันตัวนักโทษทางการเมือง ซึ่งวันนี้รูปแบบกิจกรรมไม่มีแกนนำ ตนก็ไม่ใช่แกนนำ เพียงแต่มาสนับสนุนเรื่องน้ำดื่มเท่านั้น
ส่วนการตั้งคำถามเรื่องการคุกคามผู้พิพากษา ตนยืนยันว่าไม่มีใครอยากจะคุกคาม แต่มาเพื่อแสดงให้ผู้พิพากษาและกระบวนการยุติธรรม ได้เห็นถึงความเจ็บปวดของแม่ที่ถูกพรากลูกไปด้วยความอยุติธรรม
หากอีกฝ่ายโดนคุกคามโดยไร้สิทธิเสรีภาพบ้างจะเป็นอย่างไร วันนี้พวกตนจึงออกมาส่งเสียงเรียกร้องในฐานะประชาชน ถึงเวลาคืนเสรีภาพ คืนลูกให้แม่เขาได้แล้ว และหวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะมีผลในวันที่ 6 พ.ค.64 ซึ่งมีการนัดคำร้องไต่สวนขอปล่อยตัวชั่วคราว ของนักโทษทางการเมือง
นายรัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกกลุ่มวีโว่ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่มารวมตัวเพื่อแสดงออกว่าไม่พอใจกระบวนการยุติธรรม ส่วนรูปแบบการชุมนุมวันนี้ถือเป็นรูปแบบใหม่ ทำให้นึกถึงการชุมนุมสมัยอดีตที่กลุ่มผู้ชุมนุมขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ส่วนเรื่องมือที่สามนั้นก็รู้สึกกังวลเล้กน้อย แต่เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากมีเหตุการณ์ผิดปกติทุกคนจะสามารถแยกย้ายได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมนำภาพผู้พิพากษารายหนึ่ง ที่สั่งไม่ให้ประกันตัวนักโทษทางการเมือง ติดไว้ที่บริเวณป้ายศาลอาญา กระทั่งเวลา 17.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มขว้างปาข้าวของ ทั้งมะเขือเทศ ไข่ สีดำและสีแดง เข้าไปด้านในศาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่ประจำการอยู่ด้านในศาลอาญา ต้องเกาะกลุ่มและยกโล่ขึ้นมากำบัง
ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ประกาศขอให้ผู้ชุมนุมยุติการปาข้าวของเข้าไปด้านใน รวมถึงขอให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากผิดกฎหมายตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในการควบคุมโรคโควิด-19 โดยระบุว่าหากผู้ชุมนุมไม่หยุดการกระทำดังกล่าวเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การทำร้ายประชาชน
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้สีแดงสาดใส่ป้ายศาลอาญา และรูปผู้พิพากษา ก่อนร่วมกันตะโกน ปล่อยนักโทษทางการเมือง จากนั้นในเวลา 18.00 น. จึงประกาศยุติการชุมนุม
เวลา 19.00 น. หน้าศาลอาญารัชดา กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังปักหลักด้านหน้าพร้อมขว้างปาสิ่งของเข้าไปด้านในศาล ทั้งที่มีการประกาศยุติกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศขอให้ยุติและเดินทางกลับ ไม่เช่นนั้นจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ โดยให้เวลา 10 นาที
จากนั้นเวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เดินเท้าเข้ามาประจำจุดบริเวณสะพานลอยฝั่งตรงข้ามศาลอาญารัชดา ทำให้ผู้ชุมนุมถอยเข้าไปด้านในซอยรัชดาภิเษก 32 แต่มีชายฉกรรจ์ไม่ทราบกลุ่มขว้างปาวัตถุที่ทำให้เกิดเสียงดัง ลักษณะคล้ายประทัดยักษ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงตอบโต้ด้วยการยิงกระสุนยาง และกระชับแนวมาถึงหน้าปากซอยรัชดาภิเษก 32 มีการเสริมกำลังด้านหน้าศาลอาญารัชดา ระหว่างนั้นกลุ่มฉกรรจ์ดังกล่าวยังได้ขว้างพลุใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงกระชับแนวเข้าไปด้านในซอยรัชดา 32
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นยังมีเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ โดยอยู่ระหว่างการเข้าควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ จึงมีการเตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงจำนวน 2 คันไว้ด้านหน้าศาลอาญา และปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง
