ทาสยาคลั่งขวานจามหัวพี่สะใภ้ดับ ญาติวอนบำบัด อึ้งเพิ่งออกคุกฆ่าศพสอง (คลิป)

จากกรณีวันที่ 30 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย ด้วยอาวุธขวาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว ในพื้นที่บ้านลำช้าง ม.1 ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คือนางบิน รามเดช อายุ 66 ปี

ทางญาติพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลห้วยยอดทันที เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณศีรษะถูกจามด้วยขวาน จนแผลเหวอะ แต่เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาลห้วยยอด แพทย์ พยาบาลได้เร่งรีบทำการรักษาในเบื้องต้น เพื่อยื้อชีวิตอย่างเต็มที่
ก่อนรีบนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตรัง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมตัวนายนพดล คนก่อเหตุ ที่พูดจาไม่รู้เรื่อง และพยายามถ่มน้ำลายใส่ตลอดเวลา ตรวจสอบพบประวัติฆ่าคนตาย เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 28 เม.ย. 64 และก่อเหตุล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.64 เนื่องจากมีอาการหลอนยาเสพติด

วันที่ 1 พ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนหมู่บ้านลำช้าง ม.1 ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง จุดเกิดเหตุยังคงมีร่องรอยคาบเลือดของผู้เสียชีวิต อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว ชาวบ้านได้นำทรายมาเทกลบรอยคาบเลือดไว้

นายประสิทธิ์ รามเดช อายุ 62 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้เสียชีวิตคือ นางบิน รามเดช อายุ 66 ปี ภรรยา ผู้ก่อเหตุ คือ นายนพดล รามเดช อายุ 52 ปี น้องชาย เหตุเกิดวานนี้ เวลา 09.00-10.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาส่งลูกไปโรงเรียน ได้มีเพื่อนบ้านโทรมาแจ้งข่าวว่า น้องชายของตนเกิดอาการคลั่งยาเสพติด ใช้ขวานฟันไปที่บริเวณศีรษะของภรรยา หลังจากที่ภรรยาเข้าไปห้าม เพราะน้องชายเกิดอาการคุ้มคลั่งเดินถือขวานจะไปฟันเด็กในหมู่บ้าน ที่นั่งเล่นกันอยู่ใกล้บ้าน จนทำให้ภรรยาเสียชีวิต

ก่อนชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านจะเข้าช่วยกันเข้าระงับเหตุ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมตัวน้องชายไปสอบสวนที่ สภ.รัษฎา ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวน้องชายไปน้องชายก็ยังคงพูดจาให้การไม่รู้เรื่องเสมือนคนไม่มีสติ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าว จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และไม่คิดว่าน้องชายจะก่อเหตุดังกล่าวได้ลงคอ เนื่องจากก่อนหน้านี้น้องชายเคยติดคุก ในคดีฆ่าคนตายมานานหลายปี ที่เรือนจำจ.สงขลา เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่ถึงเดือนก็เดินทางกลับมาอยู่บ้านกับตน ได้ 2 วันแล้วไปก่อเหตุ ตนอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีเอาผิดน้องชายตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะมีความกังวลว่าหากน้องชายหลุดคดีออกมา จะต้องมาก่อเหตุดังกล่าวซ้ำอีก

ญาติ ๆ และเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. บันทึกคลิปที่ผู้ก่อเหตุเดินถือขวานออกมา วนเวียนอยู่บริเวณถนนหน้าบ้าน

ด้านนางหนูผ้วน รอดแก้ว อายุ 72 ปี ป้าของผู้ก่อเหตุ เผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนในฐานะป้าของผู้ก่อเหตุ ก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตเป็นคนจิตใจดี ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ไม่น่าต้องมาจากไปอย่างกะทันหัน กับการกระทำของหลานชายแบบนี้ ตนยอมรับว่าหลานชายเสพยาเสพติดมานาน อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยติดคุกคดีฆ่าคนตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เพิ่งพ้นโทษออกมา ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าวซ้ำ เชื่อว่าคลั่งยาเสพติดจนขาดสติ

ในฐานะคนเป็นป้าก็รู้สึกโกรธกับการกระทำของหลานชาย พร้อมทั้งอยากกล่าวคำขอโทษ และแสดงความเสียใจกับทางผู้เสียชีวิต แต่ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะก่อนที่จะติดคุกไป เจ้าตัวเคยก่อเหตุจะทำร้ายร่างกาย และเคยจะขับรถจักรยานยนต์ชนผู้เสียชีวิตมาแล้ว ด้วยอาการคลั่งยาในลักษณะเดียวกัน ก็ไม่คิดว่าในครั้งนี้จะถึงขั้นใช้อาวุธทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ตนก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาผิดหลานชายของตนให้ถึงที่สุด