จากกรณีที่ นายณัฐพงษ์ หรือ โจ้ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังศาลยกฟ้องตนในคดีแทงนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือเต้ จนเสียชีวิต และในระหว่างการแถลงข่าว นายโจ้ได้ซัดทอดว่า นายเบนซ์ เป็นคนแทงนายธนิต แต่นายไผ่ (นามสมมติ) พ่อของเบนซ์ ผู้ร่วมก่อเหตุฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในคดีของน้องเต้ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า น้องเบนซ์ ยอมรับในชั้นศาลว่าตัวเองก่อเหตุลงมือทำร้ายนายเต้จริง แต่ขณะที่เกิดเหตุแทงกัน ลูกชายตนไม่ทันเห็นว่าใครเป็นคนแทง แต่ยืนยันได้ว่าลูกชายตนไม่มีอาวุธ และก่อเหตุด้วยมือเปล่า ส่วนที่นายโจ้และแฟนสาวออกมาแถลงข่าว ตนก็รู้สึกว่ากำลังปรักปรำลูกตนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว :
พ่อ “เบนซ์” ยันลูกไม่ใช่มือแทงเด็กอุเทนฯ ขนาดชายโดดตึกศาลยังเชื่อ – ฉะ “โจ้” รู้ดี กลับโยนบาป)
ล่าสุด วันที่ 28 ก.ค.61 ทีมข่าวเดินไปที่บ้านพักของนายโฟล์ค ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเต้ พบว่าแตกต่างจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจาก ไม่พบป้ายบ้านเลขที่ที่มีชื่อ "โฟล์ค" แต่ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของห้อง เผยว่า ภายในห้องไม่มีญาติของนายโฟล์คอยู่ด้านใน
ต่อมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับ
นายณัฐพงษ์ หรือ โจ้ เผยว่า วันเกิดเหตุตนขับรถจักรยานยนต์ไปกับน.ส.หมู เพียง 2 คน แต่ไปเจอเพื่อนที่รู้จักภายในงาน 2 คน รวมถึงเจอกับนายโฟล์คและนายฟลุ๊คซึ่งได้ทักทายตามประสาคนรู้จัก แต่ไม่ได้เล่นน้ำด้วยกัน โดยช่วงที่เกิดเหตุ หลังตนได้ชกกับนายเต้ ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 1 อาแหม่ม ญาติของนายโฟล์คได้เข้ามาดึงตนออก ก่อนที่จะมีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนวิ่งมาจากหน้าปากซอยเข้ามาทำร้ายเต้ แต่ตอนนั้นอาแหม่มดึงตนให้เดินไปทางด้านหลังซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 เมตร ทำให้ไม่ได้หันไปมองว่ามีใครเข้าไปทำร้ายเต้บ้าง
นายโจ้ บอกว่า ไม่ได้สังเกตว่า นายอารีย์ชัย หรือ นายเบนซ์ ผู้ต้องหา วิ่งเข้าไปด้วยหรือไม่ เพราะไม่ได้รู้จักกัน โดยเมื่อออกมาจากจุดเกิดเหตุ แฟนของตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับออกทางด้านหลังซอย และไปกินหมูกระทะที่บ้านเพื่อน ย่านรัชดา โดยนั่งกินกัน 4 คน มี ตน แฟนสาว และเพื่อนอีก 2 คน นั่งกินประมาณ 3-4 ชั่วโมง มีตำรวจมาถามหาตน ก่อนพูดว่า “มันตายแล้ว” ตอนนั้นตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจจึงถามว่าตนไปทำอะไรที่ประชาสงเคราะห์ ก่อนที่จะตอบว่า ไปเล่นน้ำสงกรานต์ ตำรวจบอกว่า "เต้ตายแล้ว" ตนจึงยอมรับว่าชกต่อยกับเต้จริง แต่ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกว่านั้น
จากนั้นตำรวจได้เชิญตนและเพื่อนรวมถึงแฟนสาวไปที่ สน.ดินแดง พร้อมให้ดูรูปเบนซ์ และบอกว่าเบนซ์เป็นคนลงมือ เพราะมีเลือดของผู้ตายติดตามตัว ตำรวจชุดสืบสวนบอกว่าให้ชี้รูปเบนซ์ และจะกันตนไว้เป็นพยาน เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำ จากนั้นพอช่วงเช้าตำรวจเรียกสอบอีกรอบ ตนกลายเป็นผู้ต้องหา ถูกนำส่งศาลฝากขัง ยอมรับว่า ตกใจทำอะไรไม่ถูก ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า เจ้าหน้าที่ใช้อะไรเป็นหลักฐาน เพราะไม่มีการตรวจดีเอ็นเอบนเสื้อผ้าตน แต่มีการเก็บมีดปอกผลไม้ในบ้านเพื่อนที่ไปนั่งกินหมูกระทะออกมาด้วย ส่วนอาแหม่มตนก็ให้การว่าเป็นคนดึงตนออกมา แต่ไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่เรียกมาสอบหรือไม่ แต่ตนยืนยันว่า ไม่รู้จักกับนายตง เพื่อนของเต้ ซึ่งมีข่าวว่าเป็นคนชี้ว่าตนแทง ส่วนนายโฟล์ค รู้จักกับตนจริง และได้ไปให้การในชั้นศาลในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ โดยยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ เรื่องนี้นายโฟล์คก็พูดไปตามที่เห็นไม่ได้เข้าข้างหรือมีการนัดแนะกับตนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม
นายโจ้ เล่าต่อว่า น.ส.หมู แฟนของตน ก็ยืนยันว่า เบนซ์ เป็นคนบอกว่า ตัวเองลงมือแทงนายโจ้ และหมูได้ให้การไปในชั้นศาล ส่วนตัวเชื่อว่าเบนซ์เป็นคนทำ ยืนยันว่า ไม่มีการโยนความผิดให้เบนซ์ เพราะเห็นว่าเป็นเยาวชนโทษน้อยตามที่เป็นข่าว ตนไม่ได้รู้จักเบนซ์มาก่อน และปัญหาที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบัน เพราะตอนมีเรื่องกับเต้ ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเรียนอุเทนถวาย โดยเพิ่งมาทราบข่าวว่ามีการยิงรุ่นน้องเต้ในงานศพ เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลังมีข่าว และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับตน อย่างไรก็ตาม นายโจ้ พร้อมต่อสู้คดี หากอีกฝ่ายยื่นอุทธรณ์ เพราะตัวเองก็อยากให้มีความชัดเจนเช่นกันโดยไม่ได้กังวลใดๆ เพราะตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์