ศรัทธาแรง! ศิษย์ภาวนาพุทโธเชื่อไม่เคยขืนใจเด็ก เณรแอเผยหญิงหาอื้อหวิดชกในคุก (คลิป)

จากกรณี นายจำลอง คนซื่อ หรือ อดีตพระภาวนาพุทโธ วัย 72 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพราน จ.นครปฐม เคยต้องเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กและเยาวชน ระหว่างปี 2531-2538 ก่อนตกเป็นข่าวถูกฟ้องร้องเอาผิดจนตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อปี 2552 ต้องโทษจริงราว 20 ปี ก่อนพ่นโทษออกมาและกลับมาอยู่ที่วัด แต่มีภาพแต่งกายแปลกต่ หลากสี นั่งให้พระสงฆ์กราบไหว้ จึงเกิดข้อสงสัยถึงความเหมาะสมและความถูกต้อง

จากคดีดังกล่าว ช่วงที่ได้รับโทษก็มีสาวกเข้าเยบี่ยมหาตลอด จนมีการรวมเงินบริจาคเข้าบัญชีได้มากถึง 14 ล้านบาทด้วยนั้น

ทีมข่าวสอบถามผู้ปฏิบัติธรรม ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นแค่เรื่องคนที่เคยต้องโทษมาเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องอะไรใหญ่โต และส่วนตัวยังไม่เคยได้เจออดีตพระภาวนาพุทโธ ถึงแม้จะมาปฏิบัติธรรมที่นี่ประจำก็ตาม

ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านของอดีตพระภาวนาพุทโธที่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ นางกรกนก แสงสว่าง ญาติธรรมของอดีตพระภาวนาพุทโธ  เปิดใจว่า ดีใจที่อดีตพระภาวนาพ้นโทษออกมา อดีตพระภาวนาพุทโธสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาดี อยู่ในเรื่องจำยังบ่มสอนนักโทษในเรือนจำอีกด้วย ส่วนเรื่องที่เพจทางโซเชียลออกมาโพสต์เรื่องอดีตพระภาวนาพุทโธ ตนเองยังไม่เห็น แต่ตนเองเชื่อในคำสอนของอดีตพระภาวนาพุทโธ เชื่อ 90 เปอร์เซ็นต์ เชื่อเพราะปฏิบัติแล้วได้เห็นว่าชีวิตดีขึ้น ตามคำสอนที่ชี้แนะ

ตอนออกจากเรือนจำ อดีตพระภาวนาพุทโธ กลับบ้านประมาณ 5 วัน แล้วก็กลับไปที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่หลังจากนั้นก็โทรมาหาบ่อย ล่าสุดมาการปฏิบัติก็สวดมนต์แผ่เมตตาเหมือนเดิม ชาวบ้านในหมู่บ้าน แต่ละคนก็ดีใจ และยินดีต้องรับ ชาวบ้านก็มากราบไหว้บางครั้ง เรื่องใส่ชุดคลุมลูกศิษย์ตัดให้หลากสี สีแดง สีเหลือง มีทุกสี ไม่ได้มีความหมาย ลูกศิษย์ตัดให้ก็ใส่เท่านั้น ไม่ได้ห่มจีวร

ช่วงที่อยู่ในเรือนจำ ได้ไปเยี่ยมในวันอังคาร กับวันพฤหัสบดี เมื่อไปแล้ว อดีตพระภาวนาพุทโธก็จะคอยสอนธรรมะ สอนให้อดทน เพราะติดคุกโดนด่าทั้งประเทศ อดีตพระภาวนาพุทโธก็ยังไม่น้อยใจ

นางรวมรอง คนซื่อ น้องสาวของอดีตพระภาวนาพุทโธ เปิดใจว่า ตนดีใจที่สุดในโลก รอคอยการกลับมาของอดีตพระภาวนาพุทโธ เรื่องที่สังคมกำลังพูดถึง มองว่าความคิดแต่ละคนห้ามกันไม่ได้ ตอนโดนจับคิดว่ามีส่วนที่โดนกลั่นแกล้งมากกว่า เพราะตอนที่ปฏิบัติธรรมกับอดีตพระภาวนาพุทโธก็ปกติ รู้สึกดี หลังจากพ้นโทษออกมา อดีตพระภาวนาพุทโธกลับบ้านเป็นที่แรก มากราบแม่ คนดีใจกันทั้งหมู่บ้าน แค่ได้ข่าวมาก็ดีใจทั้งตำบลและอำเภอ แม่ดีใจจนน้ำตาไหล โผเข้ากอดกัน

ทั้งนี้ ช่วงพี่ชายเข้าเรื่อนจำ ไม่ได้เป็นห่วงอะไรมาก อยู่ที่ไหนพี่ชายก็ปฏิบัติธรรม ต่างกันแค่สถานที่ ตนเองยังเชื่อมั่นศรัทธาในตัวพี่ชายเหมือนเดิม ส่วนการติดต่อกันจะโทรหา และติดต่อทางไลน์ ส่วนใหญ่พี่ชายจะโทรหา ตนเองไม่ค่อยโทรเพราะกลัวรบกวนการปฏิบัติธรรม

นอกจากคดีของนายจำลอง คนซื่อ หรือ อดีตพระภาวนาพุทโธ วัย 72 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพราน จ.นครปฐม ยังมีคดีที่เกี่ยวกับพระในอดีตอีกหลายเคสที่ถูกเปิดเผย รวมถึงเณรแอ หรือ นายหาญ รักษาจิตร์ ด้วยนั้น

เณรแอ หรือ นายหาญ รักษาจิตร์ จอมขมังเวทย์ เปิดใจว่า ตนเพิ่งมาทราบข่าวว่าภาวนาพุทโธ ออกจากเรือนจำมาแล้วก็ตอนที่ออกข่าว แสดงความยินดีด้วย ซึ่งหลังจากที่ออกจากเรือนจำแล้วก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย ภาวนาพุทโธก็ไม่เคยติดต่อมาเช่นกัน

ตนเคยรู้จักกับกับภาวนาพุทโธก็ตอนที่อยู่ในเรือนจำด้วยกัน ขณะนั้นภาวนาพุทโธได้ช่วยเหลือตนหลายอย่าง ในเรื่องของเงิน ซึ่งก็มีลูกศิษย์นุ่งขาวห่มขาว เข้ามาสวดมนต์ภาวนาและติดต่อขอเยี่ยมภาวนาพุทโธเป็นจำนวนมาก ซึ่งภาวนาพุทโธ ให้แต่คนสาว ๆ เข้าเยี่ยมตัวเอง แต่เอาคนแก่มาให้เยี่ยมตนเอง จนรู้สึกเกือบจะต่อยภาวนาพุทโธไปแล้ว แต่มาคิดได้ทีหลังว่า คนแก่ ๆ ที่มาเยี่ยมตนนั้นมีแต่คนมีเงิน คนสาว ๆ ไม่ค่อยมีเงิน

ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่ามีลูกศิษย์ไปกราบไหว้ภาวนาพุทโธนั้น ตนว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนเราอยู่บนโลกทุกวันนี้มีความเชื่อกันทั้งนั้น และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วย แต่เรื่องพระสงฆ์ไปกราบไหว้ฆราวาสนั้น ตนว่าอันนี้แปลกเพราะท่านผู้ทรงศีล 227 ข้อ อยู่เหนือกว่าฆราวาสจะไปก้มกราบได้อย่างไร ในเมื่อภาวนาพุทโธไม่ได้เป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว

เรื่องการแต่งกาย ตนมองว่าภาวนาพุทโธจะแต่งกายอย่างไรก็ได้ เพราะเป็นแค่เครื่องแต่งกาย เหมือนกับตนเองก็แต่งกายแบบนี้เพื่อเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ซึ่งจะมองว่าเป็นการสร้างลัทธิใหม่ก็อาจจะเป็นไปได้ จนถึงอยากฝากขอเตือนสติว่า คนเราทุกคนมีความเชื่อได้แต่ต้องเชื่ออย่างมีสติ ถ้าอยากฉลาดให้มาหาเณรแอ

พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มองว่า กรณีดังกล่าวกรณีที่ภาวนาพุทโธ มีพฤติกรรมใช้คำสอนของพระพุทธศาสนามาสอนประชาชนคนทั่วไปนั้น ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะหากบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีการแต่งคล้ายเลียนแบบพระ หรืออ้างตัวเป็นพระ ไม่มีใครห้าม เพราะตามปกติก็มีบุคคลประชาชนคนทั่วไปก็มีการนำคำสอนของพระพุทธเจ้าไปเผยแพร่ เพียงแต่ว่าเรื่องดังกล่าวมันอยู่ที่ความรู้สึกมากกว่าว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีภาพพระสงฆ์บางรูป เข้าไปกราบไหว้นั้น ไม่ได้ว่าผิดหรือถูก เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ หรือความศรัทธาของแต่ละคน ไปห้ามหรือว่ากล่าวไม่ได้ เพราะเป็นความพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าอาจจะขัดต่อความรู้สึกในทางปฎิบัติ ส่วนการแต่งกายคล้ายจีวรพระหลากสีนั้น ก็ไม่สามารถเอาผิดได้

ส่วนที่กรณีการตั้งลัทธิใหม่นั้น ต้องบอกว่ายุคนี้เกลื่อนกลาดศาสดา หลายคนตั้งภาวนาตนแอบอ้างกันเยอะแยะ ตามข่าวที่ได้เห็น บางคนหลงตัวและแอบอ้างอรหันต์ให้คนหลงเชื่อ ก็ค่อนข้างพูดยาก ส่วนถามว่าทำไมคนยังหลงเชื่อและศรัทธา ต้องบอกว่าเป็นการหลับใหลงมงายเชื่อกันโดยขาดสติ

อย่างไรก็ตาม ส่วนของคำเรียกที่คนศรัทธาได้เรียกว่า "พ่อมังกรหรือหลวงพ่อ" ตามความจริงแล้วเขาเองพ้นสภาพจากความเป็นพระแล้ว จึงไม่เหมาะสมที่จะไปสถาปนาหรือใช้คำสรรพนามเรียกว่า "หลวงพ่อ" แต่ก็อย่างว่า แม้จะผิดในหลักปฎิบัติ แต่ก็ไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ ทำได้แค่การปรามจากพระผู้ใหญ่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มองทุกอย่างคือวัฎจักรแห่งความเชื่อถือและศรัทธา แนะอีกฝ่ายควรชั่งใจและให้คิดสักหน่อยในฐานะที่อยากสอนธรรมแล้ว ก็ควรจะปฎิบัติตนให้เหมาะสมกับสิ่งที่ปฎิบัติ