จากกรณีนายทวน ใจเร็ว อายุ 68 ปี ใช้อาวุธปืนยิงนายจำลอง เภาหงส์ทอง อายุ 44 ปี บริเวณบ้าน หมู่ 14 ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เป็นเพื่อนบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียชีวิต หลังจากเพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์ว่าช่วงเกิดเหตุ ขณะกำลังไล่ไก่ของตัวเองกลับบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพยายามยิงใส่เพื่อนบ้านด้วย เบื้องต้นตำรวจ สภ.ตะคร้อ ได้คุมตัวผู้ต้องหาไว้เป็นที่เรียบร้อย
วันที่ 29 เม.ย. 64 ร.ต.อ.เอกพจน์ ทับอินทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตะคร้อ อ.ไพศาลี ได้มีการควบคุมตัวนายทวน ใจเร็ว อายุ 68 ปี พาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักของนายทวน
จุดแรก อยู่บริเวณด้านหลังห้องนอน ซึ่งเป็นจังหวะที่นายทวนเห็นว่ามีคนแอบเข้ามาทางด้านหลังบ้าน จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว เดินออกมาจากห้องนอนก่อนจะเล็งปืนส่องในระยะ 3 เมตร ยิงเข้ากลางอกของนายจำลองจนล้มลงบริเวณด้านน้ายุ้งฉาง
จากนั้น นายจำลองจึงเดินตามเข้าไปดู และพบเห็นว่ามีนายแชมป์ เพื่อนข้างบ้านยืนมองอยู่ จึงพยายามจะยิงนายแชมป์ต่อ แต่โชคดีที่กระสุนเกิดด้าน จึงทำให้นายแชมป์รีบก้มหลบลงข้างกำแพง แล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีไปแจ้งความ กระทั่งต่อมา เมื่อนายทวนเห็นว่าคนที่ถูกยิงคือ นายจำลอง เพื่อนบ้าน ที่ไม่ถูกกันอยู่แล้ว นอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จึงได้รีบเปลี่ยนกระสุนปืนก่อนยิงซ้ำเข้าไปที่หน้าของนายจำลองจนเสียชีวิต แล้วเดินถือปืนกลับเข้าห้องนอนไป จนมาถูกตำรวจบุกเข้ามาจับกุมที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเหตุผลที่ยิงซ้ำ นายทวนบอกแต่เพียงว่า “ก็เคยเตือนมันไปแล้วหลายครั้ง จะให้ไปขอโทษอะไรมัน”
ด้าน ร.ต.อ.เอกพจน์ เปิดเผยว่า นายทวนกับผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะกันมาหลายครั้งแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ เป็ดไก่ที่นายทวนเลี้ยงไว้เกิดหายบ่อย และเจ้าตัวคิดไปว่านายจำลองน่าจะเป็นคนขโมยไป ประกอบกับเมื่อช่วงเย็นวาน เห็นนายจำลองแอบเข้ามาจับไก่ที่บริเวณหลังบ้านอีก จึงสบโอกาสรีบใช้อาวุธปืนไปยิงนายจำลองจนล้มลง ก่อนตามเข้าไปยิงซ้ำจนตายคาที่
สำหรับไก่ที่นายจำลองผู้ตาย เข้าไปจับในบริเวณหลังบ้านของนายทวนนั้น เป็นไก่ของนายแชมป์ ได้ยกให้กับนายจำลอง แต่ต้องให้นายจำลองไปจับไล่จับเอาเอง และเมื่อนายจำลองเข้าไปไล่ต้อนไล่จับ ไก่ดันกระโดดหนีเข้าไปในบ้านของนายทวน จึงทำให้นายจำลองได้แอบเข้าไปในบริเวณหลังบ้านของมือปืน จนมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายแชมป์ มีบ้านพักอาศัยติดอยู่กับนายทวน และก็เคยมีปัญหาทะเลาะกับนายทวนอยู่บ่อยครั้งด้วยเช่นกัน
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายทวน 3 ข้อหา ฐานฆ่านายจำลองตายโดยเจตนา พยายามฆ่านายแชมป์ รวมถึง พ.ร.บ.อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในที่สาธารณะ ส่วนอาวุธปืนลูกซองยาวของนายทวนตรวจสอบแล้ว เป็นปืนมีทะเบียน จึงนำตัวพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นางปอ ใจเร็ว ภรรยาคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติตนเองจะอยู่บ้านกับนายทวน 2 คน ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วง 15.00-16.00 น. ตนเองอยู่ที่ห้องครัวของบ้าน ส่วนนายทวนนอนอยู่ในห้องนอนชั้น 1 ระหว่างนั้นนายจำลอง และนายแชมป์ เข้ามาในบ้าน ซึ่งตนเองไม่แน่ใจว่าเข้ามาอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะเข้าบริเวณสวนหลังบ้าน เข้ามาไล่จับไก่หลังบ้าน เนื่องจากไก่ของนายแชมป์ มักเข้ามาที่บ้านตน มากินอยู่บ้านตน ทำให้นายแชมป์กับนายจำลองมาไล่จับเพื่อนำไปทำอาหาร
โดยระหว่างที่ทั้ง 2 คนกำลังไล่จับไก่ ค่อนข้างเสียงดังโวยวาย ไม่นานสามีตนเองไม่ทราบว่าออกมาจากห้องตอนนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดัง 2 ครั้ง ซึ่งตนไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ตนไม่กล้าออกไปดู สามีตนก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอน นอนรอจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ตนไม่ได้คุยอะไรกับสามี ไม่ได้สอบถามว่าทำไมถึงก่อเหตุ แต่ก่อนจะยิงไม่มีเสียงคนทะเลาะกันแต่อย่างใด ตนไปเยี่ยมสามีมาเมื่อเช้า สามีไม่ได้พูดอะไร บอกแค่ว่ารับสารภาพ และไม่ให้ครอบครัวประกันตัว ยอมรับว่าครอบครัวตนเคยมีปัญหาเรื่องที่ดินกับคนตาย แต่ก็นานมาแล้ว
นายพิชิต หรือ แชมป์ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนเองยืนยันข้อแรกก่อนว่า ตนเองไม่ได้เข้าไปขโมยไก่ และไม่ได้เข้าไปในยามวิกาล ตอนเกิดเหตุยังสว่าง ประมาณ 17.00 น. ตนเองกับผู้ตายมาไล่จับไก่ของตน ซึ่งเป็นไก่ชนที่เคยชนแพ้ และตนเองเห็นว่าชอบเข้าบ้านของผู้ก่อเหตุ จึงตั้งใจไปจับเพื่อมอบให้ผู้ตายนำไปกิน ตอนที่ตนไล่กับผู้ตาย ก็ไล่กันอยู่นาน มีช่วงหนึ่งได่วิ่งเข้าไปในบ้านของคนก่อเหตุ ซึ่งตอนนั้นคนก่อเหตุนั่งอยู่หน้าบ้าน คนก่อเหตุยังโบกมือไล่ ไก่ก็วิ่งออกมา
ตนเองและผู้ตายก็ไล่กันต่อ ไล่ไก่อยู่นานพอสมควร ไก่ได้เข้าไปในบ้านคนก่อเหตุอีก ซึ่งตนกับผู้ตายยืนคุยกันว่าไม่อยากเข้าบ้านชองผู้ก่อเหตุ ทำให้ตนกับผู้ตายแยกกัน โดยผู้ตายเข้าข้างบ้านฝั่งขวา ตนเดินเลาะกำแพงฝั่งซ้ายในเขตบ้านตนเอง
เมื่อตนไปถึง ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ซึ่งไม่รู้ว่านายจำลองถูกยิง ตนเองยืนมองไปตามเสียง เห็นคนก่อเหตุชูปืน ลักษณะหักลำกล้องขึ้นฟ้า ตนยังคิดว่าผู้ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า จากนั้นผู้ก่อเหตุหันมาหาตน ”มึงอีกคน” และเล็งปืนมาที่ตน แต่ตนเองหลบ และรีบวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ไปแจ้งความ ตอนนั้นตนได้ยินเสียงปืนแค่ 1 นัด ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุเรื่องเกี่ยวกับเขตที่ดิน เนื่องจากที่ดินตนยกสูงกว่าของผู้ตาย ทำให้เวลาฝนตกน้ำไหลไปที่ดินก็สร้างความไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุไม่เคยเอาปืนออกมาเช่นนี้ ส่วนตัวก็กลัว และเดินทางไปที่ศาลจังหวัดมาเมื่อเช้าเพื่อขอตัดต้านประกันตัว เนื่องจากกลัวว่าหากผู้ก่อเหตุออกมาตนเองจะไม่ปลอดภัย
