กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ไล่เช็กกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุจุดไฟเผารถยนต์ รถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านหลายครั้ง หลายหน รวมเกือบ 10 คัน ภายในซอยสถาพร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังบุกเข้าไปจับกุม นายวีรยุทธ์ โพธิ์พระยา หรือ ฉ่อย อายุ 20 ปี
ล่าสุดวันที่ 27 เม.ย.64 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผกก.สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้น ยึดรองเท้า และเสื้อผ้าของนายวีรยุทธ์ ที่ใช้ก่อเหตุเผารถตามภาพกล้องวงจรปิด จึงผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า กระทำไป 8 ครั้งจริง จึงนำตัวมาลงบันทึกข้อกล่าวหาในความผิด วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นไว้ก่อน
จากนั้นพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านและประชาชนในละแวกใกล้เคียง ต่างรู้สึกดีใจและโล่งอก หลังจากขวัญผวากับคนร้ายรายนี้มานาน นายวีรยุทธ์ อ้างว่าเครียดตกงานและทะเลาะกับภรรยา จึงเดินมาจากบ้านพัก
จากนั้นใช้ไฟแช็กจุดผ้าคลุมรถเก๋งของนายธนกฤษฏิ์ แสนดี อายุ 56 ปี ราคาคันละ 4.3 แสนบาท ทำให้ไฟลุกไหม้รถวอดทั้งคัน นอกจากนี้ ยังพาไปชี้จุดใช้ไฟแช็กเผารถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ รวม 8 คัน โดยทั้งหมดกระทำต่างกรรมต่างวาระ
จากนั้นทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับน.ส.ยุพา ธรรมชิโร อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตอนแรกตนมั่นใจว่าไม่ใช่สามี เพราะวันเกิดเหตุตนก็ยังนอนอยู่กับสามีปกติ แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีปากเสียงกันเรื่องของการหึงหวง เนื่องจากนายวีรยุทธ์ มักจะคอยสอบถามว่ามีใครมาจีบหรือไม่ ซึ่งตนก็บอกไปตามตรงว่าไม่มี แต่สามีก็ยังไม่เชื่อใจตน
ทั้งนี้ตนได้สอบถามสามีจนเขายอมรับว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะเครียด ตกงาน กลัวลูกและภรรยาไม่รัก และสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ แต่กลับแอบสูบบุหรี่ใกล้กับจุดเกิดเหตุที่เผารถยนต์ ซึ่งห่างจากบ้านไม่มากนัก แต่สะเก็ดไฟจากบุหรี่ไปโดนผ้าใบที่คลุมรถ จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ แต่สามีก็พยายามหาน้ำมาดับ และเข้าใจว่าไฟดับแล้ว จึงเดินกลับบ้านเข้ามานอนกับตนปกติ
ส่วนการเผารถคันอื่น ๆ ตนมั่นใจว่าสามีของตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุอย่างแน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีประวัติการเผาบ้านของเพื่อนบ้านที่ อ.พานทอง ซึ่งทะเลาะกันเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ได้มีไกล่เกลี่ยและเจรจาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้สามีของตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และก็น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความเครียด เคยคิดสั้นผูกคอตายเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ตนช่วยไว้ทัน ตนคิดจะพาไปรักษาแต่ไม่มีเงิน ซึ่งมีหลายคนใส่ร้ายว่าสามีตนเสพยาเสพติด เจ้าที่ตำรวจก็เข้ามาตรวจปัสสาวะแล้ว แต่ก็ไม่พบว่ามีสารเสพติด
อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีเงินประกันตัว คงต้องปล่อยให้สามีติดคุก ซึ่งเท่าที่ได้คุยกับสามีก่อนฝากขัง สีหน้าแววตาค่อนข้างเครียด บอกกับตนว่าให้ดูแลตัวเองและลูกให้ดี ที่สำคัญอย่ามีคนใหม่ พร้อมขอให้พริ้นท์รูปครอบครัวเพื่อจะเก็บไว้ดูในเรือนจำ
นอกจากนี้ ตำรวจสภ.เสม็ด ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าทำไปเพราะมีความเครียดและทะเลาะกับภรรยา ซึ่งก่อเหตุเพียงแค่คันเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่นด้วยการวางเพลิง และได้ฝากขังที่ศาลจังหวัดชลบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นที่พักอาศัยแบบห้องแถวไม่มีชื่อ อยู่ในซอยสถาพรล่าง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี บ้านผู้ต้องหาเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งห่างจากบ้านผู้เสียหายเพียง 50 เมตร
จากนั้นทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนายธนกฤษฏิ์ แสนดี อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋ง ทะเบียน กฉ 3582 ชลบุรี บอกว่า หลังทราบข่าวว่าจับตัวคนร้ายได้ ก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังคงความสงสัยว่านายวีรยุทธ์ ทำลงไปทำไม ในเมื่อตนไม่เคยไปมีปัญหาอะไรด้วย ซึ่งรถของตนก็เคยถูกเผามาแล้ว 1 ครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงวันที่ 12 เม.ย.63 แล้วก็มาโดนเผาทั้งคันอีกครั้งวันที่ 20 เม.ย.64
ส่วนตัวอยากให้ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบเรื่องความเสียหาย ประมาณ 200,000 บาท เพราะหลังเกิดเหตุไม่มีทางญาติผู้ต้องหาเข้ามาขอโทษ โดยสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุ ตนทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไปเพราะเครียด ทะเลาะกับภรรยา ตนมองว่าไม่สมเหตุสมผล
