ช็อก! คดีพ่อโดดตึกศาล พบอริบุกฆ่าก๊วนลูกในงานศพ เพื่อนชี้หนอนบ่อนไส้ทำคดีพลิก (คลิป)

25 ก.ค. 61
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ค.61 ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องจำเลยในคดีที่นายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตที่ซอยประชาสงเคราะห์ 1 กรุงเทพฯ  เป็นเหตุให้นายศุภชัย ทัฬหสุนทร ผู้เป็นพ่อเกิดความเครียดและผิดหวัง จนตัดสินใจกระโดดจากชั้น 8 ของศาลอาญา ตกลงมาร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต ล่าสุดวันที่ 24 ก.ค. 61 เวลา 17.00 น. ที่วัดกุนนทีรุทธาราม เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ บรรยากาศรดน้ำศพนายศุภชัยเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
บรรยากาศงานศพของนายศุภชัย
โดยนายแมน (นามสมมติ) เพื่อนของเต้ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ (15 เม.ย.59) ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ทราบมาว่าเต้จะไปเล่นกับเพื่อนสมัยเด็กก็ไม่ได้แปลกใจ จนช่วงประมาณ 23.00 น. แม่ของเต้ได้โทรศัพท์มาบอกว่าเต้ถูกแทงจนเสียชีวิต ตนเองได้ฟังก็รู้สึกตกใจและรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้เข้าไปดูศพ
นายแมน (นามสมมติ) เพื่อนของนายธนิต
นายแมน บอกว่า ส่วนตัวไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ที่แทงเพื่อนมาก่อน แต่อุปนิสัยของเต้ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน จนมาวันสวดศพนายเต้คืนแรก (16 เม.ย.59) มีคนมาบอกตนภายในงานศพว่ามีรุ่นน้อง 2 คนถูกยิงบริเวณหน้าวัดกุนนทีรุทธาราม โดยหนึ่งในนั้นคือคนที่กำลังเดินออกจากวัดไปซื้อของด้านนอก ส่วนอีกคนกำลังเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งคนที่กำลังไปซื้อของถูกยิงเข้าที่ขั้วหัวใจเสียชีวิต คาดว่าโดนยิงประมาณ 3 นัด แต่ไม่แน่ใจว่าคนที่รอดชีวิตถูกยิงกี่นัด และทันทีที่ทราบก็ได้ไปจุดเกิดเหตุและพาน้องส่งโรงพยาบาลทันที และพ่อของนายเต้คอยห้ามไม่ให้พวกตนทำอะไรที่รุนแรง เพราะพ่อจะดำเนินการทางกฎหมายเอง ทั้งนี้ นายแมน อยากบอกคนที่ทำร้ายเพื่อนว่า ทำสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก ที่มารุมเพื่อนตนเพียงคนเดียวและทำถึงตาย ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าเพื่อนที่เต้ไปด้วยจะมีส่วนเกี่ยวข้องถึงการตายในครั้งนี้หรือไม่ แต่ครอบครัวเต้มั่นใจว่าคนที่พาเต้ไปเขาล่อเต้ไปหรือไม่ เพราะเพื่อนเต้รู้จักกับอีกฝั่งหนึ่ง แต่ก็ชวนเต้ไปทั้งที่รู้ว่าสองสถาบันไม่ถูกกัน จึงคาดว่าเมื่อไปเจอกันก็คงเกิดเรื่อง
น.ส.ตาล อดีตแฟนของนายเต้
ด้าน น.ส.ตาล อดีตแฟนของนายเต้ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนายตง นายตี๋ นายโฟล์ค และนายฟลุ๊กไปเที่ยวด้วยกัน แต่ในวันรดน้ำศพของเต้ กลุ่มเพื่อนที่ไปกับเต้ก็มาร่วมงานและรดน้ำศพด้วยอาการมือสั่น ท่าทางมีพิรุธ เมื่อถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครตอบ แต่นายโฟล์คได้กลับไปโพสต์เฟซบุ๊กแบบมีนัยว่า เป็นบาปติดตัวไปตลอดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาร่วมงานนายเต้อีกเลยจนกระทั่งวันเผาศพ นอกจากนี้ ในวันงานศพนายเต้คืนที่ 2 มีรุ่นน้องร่วมสถาบันเดียวกับนายเต้ถูกยิงเสียชีวิตหน้าวัดขณะมาร่วมงาน แต่ตนไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของนายเต้หรือไม่ ส่วนนายตงกับนายตี๋ สองพี่น้องก็ไม่ยอมไปเป็นพยานให้นายเต้ โดยนายตงอ้างว่าป่วยทางจิตมีการนำใบแพทย์มาให้ดู ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจแทนนายเต้ เพราะนายตงกับนายเต้เคยกรีดเลือดสาบานว่าจะเป็นเพื่อนรักและสามารถตายแทนกันได้ แต่วันที่นายเต้ตายกลับไม่มางานศพ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตนเองจะไปดูสำนวนเก่าว่ามีความเป็นมาอย่างไร เราให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็รับปากแล้วว่าจะไปดูสำนวนเก่า ส่วนกรณีนี้จำเป็นต้องตรวจสอบพนักงานสอบสวนชุดที่เคยทำคดีอย่างแน่นอน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมว่าการทำสำนวนเป็นอย่างไร รอบคอบทุกอย่างหรือไม่ หากมีตรงไหนบกพร่องทางสำนวนก็ค่อยว่ากัน
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีดังกล่าวขณะนี้ศาลชั้นต้นได้มีการพิพากษาแล้ว ซึ่งถือว่ากระบวนการในขั้นนี้ยุติแล้ว ซึ่งกระบวนการต่อไปจึงเป็นการพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งคดีนี้มีอัยการเป็นโจทก์ โดยครอบครัวได้แต่งตั้งทนายความเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ในลำดับต่อไปพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนก็จะเข้าไปขอคัดคำพิพากษา เพื่อรวบรวมถ้อยคำสำนวนเสนอให้กับพนักงานอัยการศาลสูงเพื่อพิจารณาว่าจะอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่ เมื่อถามว่าในขั้นตอนนี้ครอบครัวสามารถทำอะไรได้บ้าง นายโกศลวัฒน์เปิดเผยว่า ครอบครัวสามารถยื่นอุทธรณ์ได้เช่นเดียวกัน โดยศาลจะมีการพิจารณาหลักฐานที่เคยให้ไว้ในศาลชั้นต้นอีกครั้ง ส่วนกรณีที่หลังจากนี้หากพบเจอหลักฐานใหม่นั้น โดยปกติแล้วหลักฐานใดที่ไม่นำเข้าสู่การสืบพยานหรือหลักฐานในชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จะไม่รับฟัง แต่อาจจะสามารถทำเป็นคำแถลงเรียนให้ศาลทราบ ซึ่งแล้วแต่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร โดยคาดว่าศาลน่าจะไม่นำมาประกอบเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินคดีเนื่องจากไม่ใช่หลักฐานที่สืบมาตั้งแต่ในศาลชั้นต้น อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของศาลในการตัดสินคดีจะต้องพิจารณาว่าหลักฐานพอฟังลงโทษ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เหนือกว่าอัยการที่ใช้คำว่าหลักฐานพอส่งฟ้อง โดยไม่ว่าจะเป็นศาล อัยการ หรือโจทก์ร่วมเองก็ทำไปตามหลักฐานที่ปรากฎ โดยเมื่อวานนี้ศาลก็ได้มีการแถลงการณ์ออกมาแล้ว โดยตนเชื่อว่าทุกฝ่ายต่างก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ