วันที่ 24 ก.ค. 61
ครูวิภา บานเย็น ครูโรงเรียนมัธยมในจังหวัดกำแพงเพชร เผยว่า หลังจากต้องมารับภาระหนี้สินจากการไปทำการค้ำประกันให้นักเรียนกว่า 60 คน กู้ยืมเงินเรียนจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. โดยตนเองต้องไปกู้เงินจากที่อื่นมาเพิ่มอีกประมาณ 92,000 บาท มีดอกเบี้ยอีกร้อยละ 5.75 บาทต่อปี เพื่อนำมาใช้หนี้แทนเด็ก 4 คน ทำให้เป็นหนี้ซ้ำซ้อนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยครูวิภายอมรับว่า มีความกังวลมากเพราะไม่รู้อนาคตว่าจะมีหมายจากกรมบังคับคดีจ่อมาถึงบ้านเพิ่มอีกกี่ราย เพราะไม่สามารถทราบข้อมูลว่า มีเด็กคนใดบ้างที่ขึ้นศาลไปไกล่เกลี่ยหรือชำระหนี้ครบทุกเดือนหรือไม่ เนื่องจาก กยศ. ไม่เคยแจ้งข้อมูลอะไรมา จนมารู้เรื่องอีกทีคือ ได้รับหมายศาลให้เข้าไกล่เกลี่ยของเด็ก 2 รายแรก เป็นจำนวนเงินประมาณ 45,000 บาท ซึ่งต้องไปกู้เพื่อนำมาใช้หนี้แทน และการไกล่เกลี่ยจากกรมบังคับคดีของเด็ก 2 รายหลังที่นำหนังสือมาปิดหน้าบ้าน ส่วนทรัพย์สินที่พอมีอยู่ ตอนนี้เป็นมรดกที่ได้รับมาจากพ่อแม่ แต่ต้องนำมาใช้หนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า วันต่อไปจะมีหมายศาลของเด็กคนไหนมาติดหน้าบ้านอีก
ส่วนเหตุผลที่ได้เด็กๆ ไม่ชำระหนี้ เนื่องจากมีภาระทางครอบครัว และไม่มีเงินก้อนไปจ่ายมากขนาดนั้น ส่วนครอบครัวของเด็กไม่เคยมีการติดต่อมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ หากไม่โทรไปหาก็ไม่เคยได้รับการติดต่อ
ครูวิภายืนยันว่า หลังจากนี้คงไม่กล้าค้ำประกันให้กับใครอีก ทั้งที่ทำไปด้วยความหวังดี แต่สุดท้ายแล้วกลับได้ผลตอบแทนแบบนี้ สุดท้ายฝากไปถึงลูกศิษย์ที่เห็นข่าว ให้รีบไปปิดบัญชีชำระหนี้ให้เป็นยอดปัจจุบัน จะได้ไม่ต้องเป็นภาระต่อไปในอนาคตที่ไม่รู้จบ รวมถึงดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกวัน พร้อมฝากถึงครู ผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็กทุกๆ วัน เพื่อให้เด็กๆ มีความรับผิดชอบมากขึ้น
ด้าน
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ. ไม่นิ่งนอนใจ ขอให้ครูรายนี้ติดต่อมายัง กยศ. เพื่อให้ กยศ. ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ส่วนกรณีที่ครูกังวลว่าจะถูกฟ้องล้มละลายและขาดคุณสมบัติการเป็นครูนั้น ชี้แจงว่ายังต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินคดีอีกนาน โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการยึดทรัพย์และขั้นต่อไปคือนำขายทอดตลาด ระหว่างนี้จะมีช่วงเวลาดำเนินการอยู่ และเมื่อทรัพย์ขายทอดตลาดได้ทำบัญชีรับจ่ายเพื่อหักล้างหนี้ ครูท่านนี้อาจจะไม่ถึงขั้นล้มละลายหรือขาดคุณสมบัติการเป็นครู