กรณี เศรษฐกิจไทย ได้รับผลกระทบจาก โควิดระลอกใหม่ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ที่ประกอบด้วยส.อ.ท. ,สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย ,สมาคมธนาคารไทย ได้หารือถึงการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในเดือนเม.ย.นี้ เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศขั้นต่ำ 3 เดือน นับจากนี้ โดยจะกระทบต่อแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว, กำลังซื้อของประชาชนและแรงงานภาคบริการ ต้องหยุดหรือลดชั่วโมงทำงาน
เสี่ยงเกษียณอย่างเป็นทุกข์! คลังเผย หนี้ครัวเรือน พุ่ง 86.6% ต่อจีดีพี ผลกระทบ โควิด19
ทั้งนี้ กกร.จึงปรับประมาณการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ปีนี้ ใหม่จากเดิมเดือนมี.ค.ที่ ได้ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโต1.5-3.5% ให้เหลือเพียง เป็น 1.5-3% เงินเฟ้อจากเดิมเคยคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.8 -1% ก็ปรับเป็น 1-2% และการส่งออกเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3-5% ก็จะเพิ่มเป็น 4-6% เพราะว่าเศรษฐกิจโลก เริ่มกลับมาฟื้นตัว จากการเร่งฉีดวัคซีนของประเทศต่างๆ และการอัดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะสหัฐฯ จะทำให้ความต้องการบริโภคสินค้าจากหลายๆประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม สภาพ เศรษฐกิจไทย ยังเผชิญความเสี่ยงค่อนข้างมาก จากการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบต่อความต้องการบริโภคในประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้นมาก เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นรัฐบาล จำเป็นต้องใช้เม็ดเงินที่มีอยู่ในมือขณะนี้ 200,000 ล้านบาทเข้ามาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ อย่างมีประสิทธิภาพ และขยายระยะเวลามาตรการเยียวยา ผู้ประกอบการและแรงงาน ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรค
อนึ่ง ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลจะต้องเร่งกระจายฉีดวัคซีน ที่จะสร้างเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและประชาชนได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ภาพของความต้องการบริโภค ในประเทศกลับมาฟื้นตัว ได้อย่างรวดเร็ว ถ้ารัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จีดีพีก็มีโอกาสจะลดลงได้อีก 1-2%
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดลงทะเบียนรอบใหม่ อาจต้องเผยรายได้ทั้งครอบครัว
พิษโควิดทำคนไทย ตกงาน 6 ล้านคน จบใหม่เตะฝุ่น 1.3 ล้านคน แรงงานไร้แผนออม
