จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แบบตอนเดียว สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผต 1917 สงขลา บรรทุกสินค้าประเภทโฟมและพลาสติก ทำให้เกิดเพลิงไหม้ทั้งคัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
เหตุเกิดบริเวณร่องน้ำเกาะกลางถนนหมายเลข 42 พื้นที่ บ.ละหาร ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 64 เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนใกล้ที่เกิดเหตุ
โดยมีผู้เสียชีวิต คือ นายสุพร กิตติประภานันท์ อายุ 58 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ, น.ส.จิราพร กิตติประภานันท์ อายุ 28 ปี ลูกสาว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายสัณห์พิพัฒ กิตติประภานันท์ อายุ 28 ปี หลาน เสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
วันที่ 24 เม.ย. 64 เวลา 15.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ขับขี่รถยนต์กระบะดังกล่าวมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อไปส่งสินค้าประเภทโฟมและพลาสติกที่ จ.นราธิวาส
โดยมี นายสุพร กิตติประภานันท์ เป็นคนขับ ส่วนบุตรสาวกับหลานชายนั่งอยู่ด้านข้าง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณถนนหมายเลข 42 บ.ละหาร ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนร้ายจำนวน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน เป็นพาหนะขับตามหลังก่อนที่จะเข้าประชิดตัวรถ คนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดออกมากราดยิงทันที
นายสุพรจึงได้เร่งเครื่องหวังที่จะหนีเอาชีวิตรอด โดยบุตรสาวและหลานชายได้หมอบอยู่ ขณะนั้นคนร้ายยังคงขับไล่ตามประกบยิงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งรถของนายสุพรเสียหลักชนต้นไม้บริเวณข้างทาง และไถลตกลงบริเวณร่องน้ำเกาะกลางถนน
จากนั้นคนร้ายได้ลากตัวนายสุพร และนายสัณห์พิพัฒที่แกล้งตายออกจากรถแล้วยิงซ้ำ จนนายสุพรเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายสัณห์พิพัฒ เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้คนร้ายยังแสดงความโหดเหี้ยมด้วยการกราดยิงใส่รถอีกชุดใหญ่ทำให้ นางสาวจิราพรเสียชีวิตทันที ก่อนจะราดน้ำมันจุดไฟเผารถยนต์ซ้ำ ทำให้เกิดเพลิงรุกไหม้วอดทั้งคัน
ที่วัดพระบาท ต.นาพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ 3 ผู้เสียชีวิต โดยเวลา 19.15 น. ทั้ง 3 ศพ ได้ถูกนำมาถึงวัด มีการเคลื่อนย้ายไปรดน้ำศพในศาลา เตียงที่ใช้รดน้ำศพได้ตั้งเรียงกัน 3 เตียง
นางเข็มทอง อายุ 50 ปี ภรรยานายสุพร ร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจจนเกือบหมดแรง ญาติต้องมาพยุงให้นั่งพัก เพราะต้องเสียไปทั้งสามีและลูกสาว ญาติ ๆ ก็ช่วยกันดูแล
โดยเรียงศพนายสัณห์พิพัฒ หลานชายอยู่หน้าสุด ผ้าคลุมชมพูอ่อน, ศพนายสุพร อยู่ตรงกลาง ผ้าคลุมชมพูเข้ม และศพของน.ส.จิราพร อยู่หลังสุด ผ้าคลุมน้ำเงิน
นางยุวรี เฟื่องพวง แม่เลี้ยงนายสัณห์พิพัฒ เปิดเผยว่า นายสัณห์พิพัฒ มักจะออกไปทำงานกับนายสุพร ผู้เป็นลุงเป็นประจำ โดยจะขับรถไปส่งพลาสติกที่ จ.นราธิวาส จะเดินทางตั้งแต่ช่วงตี 3 เดินทางสัปดาห์ละ 2 วัน และใช้เส้นทางที่เกิดเหตุเป็นประจำ ซึ่งเมื่อตอนเช้าตนพยายามโทรหานายสุพร แต่ก็ไม่มีใครรับสาย ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับตัวเอง
ปกตินายสุพรจะขับรถช้า ไม่เคยบาดหมางกับใคร จึงเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ต้องเกิดจากการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนใต้แน่นอน และคิดว่าคนร้ายคงจะไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร คงจะเลือกคนที่ขับรถบนท้องถนน ตนรู้สึกสงสารนางเข็มทอง ภรรยานายสุพร เพราะต้องเสียไปทั้งสามีและลูกสาว ต้องอยู่กับลูกสาวคนเล็กเพียงคนเดียว และตนก็ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกเลี้ยงไป ญาติก็โศกเศร้าเสียใจที่ต้องเสียคนที่รักไปพร้อมกันถึง 3 คน
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาภัย 3 จังหวัด เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยที่จะแก้ไขอะไรได้เลย
