ไม่ใช่หลานอัยการ! สาวกร่าง อ้าง คู่กรณีเข้าใจผิด ขอโทษสังคม

จากกรณี โลกออนไลน์ แชร์คลิปเหตุการณ์ อุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างรถยนต์ของ น.ส น้ำทิพย์ ทองดี เจ้าของรถยนต์มาสด้า2 สีแดง หมายเลขทะเบียน 6กข 7454 กทม.โดยคู่กรณีที่ชน คือ น.ส ธันยกานต์ สาเจริญ คนขับรถฮอนด้า ซิตี้ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 5กฮ 3906 กทม. จากนั้นทั้งคู่โต้เถียงและใช้ความรุนแรง แสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ และแอบอ้างว่าเป็นลูกหลานของอัยการ ล่าสุดเวลา 14.00 น. ทั้งสองฝ่ายเดินทางมา เจรจาหาข้อตกลงร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายโดย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 4  เป็นคนกลางในการร่วมเจรจา หาข้อตกลงร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยน.ส.น้ำทิพย์ เจ้าของรถมาสด้า  ยืนยัน จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับ น.ส ธันยกานต์ สาวที่เคยอ้างตัวเป็นหลานอัยการ ใน 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาข้บรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

มีโทษปรับ 400-1,000 บาท ซึ่งสามารถปรับได้เลยในชั้นของพนักงานสอบสวน ส่วนข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิความหวาดกลัว ซึ่งก็มีอัตราโทษเท่ากัน โดยทั้ง 2 ข้อหานี้ ทางน.ส.น้ำทิพย์  ไม่ยินยอมให้ปรับจบในชั้นของพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงเตรียมเอกสารหลักฐานทุกอย่าง เพื่อจะส่งฟ้องในชั้นศาลต่อไป

ด้าน น.ส ธันยกานต์  กล่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ว่า เรื่องทั้งหมดตนขอยอมรับผิดทุกอย่าง และขอยืนยันว่าในวันนั้นไม่ได้จะคิดหลบหนี เพียงแต่ว่ามีธุระที่จะต้องไปทำต่อที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งก็ได้ให้ทางคู่กรณี ถ่ายรูปบัตรประชาชนเอาไว้ พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ แต่ทางคู่กรณีไม่ยอม จึงให้มาเคลียร์กันที่คอนโดของตนต่อ เพราะตนต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโด ก่อนที่จะออกไปทำธุระ

ส่วนการแอบอ้างว่าเป็นลูกหลานของอัยการ ตนก็ขอยืนยันว่า ตนไม่ได้แอบอ้างว่าเป็นหลานของอัยการ เป็นเพียงความเข้าใจผิดของคู่กรณี เพราะถ้าเกิดตนเป็นลูกหลานของอัยการจริง ตนเป็นฝ่ายผิดที่ขับรถประมาทไปชนท้ายรถของทางคุณก้อย ตนก็ไม่สามารถไปเบ่งหรือไปอวดอะไรได้อยู่แล้ว ซึ่งเขาก็อาจเข้าใจผิด กับคำพูดของเราที่บอกไปว่า ถ้าเราไม่ยอมรับผิดตรงนี้ เรื่องก็จะส่งถึงศาล ศาลก็จะส่งให้อัยการ เพียงเท่านั้น  ส่วนสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันที่ใต้คอนโด ตนไม่ขอพูดถึงต้นเหตุว่าเกิดจากอะไร บอกเพียงว่า การทะเลาะกันของคน 2 คน มันต้องมีที่มาที่ไปอยู่แล้ว ซึ่งตนขอยอมรับผิดและขอให้เรื่องมันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม