เหี้ยม! “หมอวี” รุดช่วยเต่าโดนหินเจียรสลัก “วัด” ที่กระดอง กรีดลึกตัดเส้นประสาท (คลิป)

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งได้มีการเผยแพร่ภาพเต่าตัวหนึ่งถูกแกะสลักที่กระดองเป็นคำว่า “วัด” ลงในกลุ่มแจ้งเหตุ คนรักสัตว์ชุมพร โดยมีข้อความในโพสต์ว่า “ขอความช่วยเหลือค่ะ เพื่อนเจอเต่า มีรอยใช้หินเจียสลักคำว่าวัด พิกัด วัดหน้าค่าย ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มันบาดเจ็บและชักเกร็ง ไม่รู้จะช่วยยังไงดี พอมีใครช่วยได้บ้างคะ / ตอนนี้แอดมินขวัญได้ประสานพี่หมอ คลีนิคสุดารัตน์การแพทย์ให้แร้วค่ะ พรุ่งนี้เช้าน้องจะขับมอเตอร์ไซค์พาไปหาหมอที่มาบอำมฤตและได้ผู้ใหญ่ใจดีรูปเฟสน้องที่เพิ่มเติมเป็นผู้ออกค่ารักษาให้ทั้งหมด ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนะคะ หาหมอแร้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีคะ”

วันที่ 19 ก.ค. 61 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไป วัดหน้าค่าย ม.1 บ้านทุ่งมหา ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร  ได้พบพระที่ช่วยเต่าไว้ ทราบชื่อว่า พระเอนก วิสุโท  กำลังยืนให้อาหารไก่พันธุ์พื้นบ้านที่มีกว่า 50 ตัวและสุนัขอีกกว่า 20 ตัว พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10 โมงของวันที่ 15 ก.ค.  ขณะที่กำลังออกจากกุฏิ ได้พบเต่าขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย คลานจากฝั่งถนนข้างวัด แล้วมาหยุดอยู่ข้างหน้า ซึ่งสังเกตบริเวณกระดองหลัง มีคำว่า วัด สลักไว้ จึงได้จับมาดู ก็พบว่า น่าจะใช้หินเจียรไฟฟ้า เจียรสลัก  คำว่า วัด ร่องรอยที่ถูกเจียรลึกมาก โดยเฉพาะช่วงหาง ด.เด็ก มีเลือดไหลออกมาอยู่ตลอด

พระเอนก วิสุโท  เล่าต่อว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร หายามาทาให้ แล้วก็นำผักบุ้งมาให้กิน แล้วนำไปปล่อยที่สระในวัด แต่พอตกเย็นก็พบว่าเต่าตัวดังกล่าวได้คลานมาอยู่หน้ากุฏิอีก ก็นำไปปล่อยในสระอีก พอรุ่งขึ้นออกจากกุฏิก็ยังพบเต่าตัวนั้น จึงรู้เลยว่า เขาคงเจ็บปวดจากบาดแผล จึงได้บอกกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด ให้ช่วยติดต่อหาสัตวแพทย์มาช่วยเหลือ สำหรับคนที่ใช้หินเจียรกระดองเต่า และสลักหลังคำว่า วัด แล้วนำมาปล่อย ก็น่าจะเป็นความหวังที่เขาต้องการบอกว่าเป็นเต่าวัด แล้วนำมาปล่อยไว้ที่วัด โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่เขาเจียรลึกเกินทำให้เกิดบาดแผลลึกจนเกือบถึงปอดเต่า ทำให้เต่าไม่สามารถลงไปอยู่ในน้ำได้

ด้าน นสพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา หรือ หมอวี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คลองหลวง จ.ปทุมธานี  เปิดเผยว่าได้ทราบเรื่องเต่าตัวดังกล่าวเมื่อเวลา 00.00 น. ที่ผ่านมา เมื่อเห็นภาพเต่าที่เป็นแผลลึกและแผลบางช่วงมีเลือดไหล หากปล่อยไว้มีโอกาสติดเชื้อ จึงตัดสินใจเดินทางไป จ.ชุมพร ทันที โดยขับรถออกจากบ้านในเวลา 01.04 น. ถึงชุมพรประมาณ 07.00 น. โดยตลอดเวลาที่นั่งรถก็ประสานงานกับคนในพื้นที่ จนกระทั่งไปถึงยังจุดนัดหมายบริเวณ อ.เมือง จ.ชุมพร ในเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันนี้ (19 ก.ค.) นสพ.ทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงยังจุดนัดพบ ตนก็ได้ทำการให้ยา ทำแผลเต่า และใช้เลเซอร์ลดความเจ็บปวดในตำแหน่งที่เป็นแผล  และต้องให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อบริเวณแผล โดยจากบาดแผลที่พบคาดว่ากว่าจะหายเป็นปกติน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เนื่องจากเป็นสัตว์เลื้อยคลานซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนาน ซึ่งหากบาดแผลไม่มีเลือดไหลแล้วก็ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการซ่อมกระดองเพื่อให้เรียบเป็นปกติหรือไม่ เนื่องจากเต่าที่เป็นแผลอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราซ้ำได้

เมื่อถามว่าเต่ามีอาการชักเกร็งตามที่มีการโพสต์ด้วยหรือไม่ นสพ.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วเต่าตัวนี้ไม่ได้มีอาการชักเกร็ง แต่คนที่ไปจับอาจจะไม่ทราบว่าเต่ามีความรู้สึกเจ็บปวดตรงจุดที่เป็นแผล จึงอาจไปสัมผัสโดนบริเวณดังกล่าวทำให้เต่ามีการขยับหลบหนี จนอาจถูกมองว่าเป็นการชักเกร็ง ซึ่ง น.สพ.ทวีศักดิ์ ได้ฝากว่า กระดองที่เราเห็นก็คือกระดูกเต่า การเอาอะไรไปกรีดกระดองก็เหมือนกับกรีดกระดูก ซึ่งในตำแหน่งนี้มีเส้นเลือดและเส้นประสาทของเต่าด้วยแม้จะมีไม่มากก็ตามแต่เต่าก็มีความรู้สึกเมื่อมีอะไรมาสัมผัส เมื่อถามว่าหากรักษาเต่าจนหายดีแล้วจะนำไปปล่อยที่ไหน นสพ.ทวีศักดิ์ ตอบว่า ส่วนใหญ่เมื่อนำสัตว์มารักษาจนหายดีแล้ว ตนก็จะนำไปปล่อยในที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับสัตว์ที่สุด ซึ่งในช่วงหลังมักจะมีการประสานงานกับน้อง ๆ ที่รู้จักกันที่ทำงานในกรมอุทยานฯ เพื่อขอพื้นที่ให้สำหรับสัตว์เหล่านี้ ในกรณีที่เป็นเต่าก็อาจจะขอพื้นที่ที่เป็นป่าซึ่งมีแหล่งน้ำให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้