เผยนาทีสังหารยิงเพื่อนบ้านตาย มือปืนอ้างถูกรุกที่ - ญาติแฉขู่คนตายถอนฟ้อง (คลิป)

19 เม.ย. 64

จากกรณี ช่วงบ่ายวันที่ 18 เม.ย.64 ตำรวจ สภ.เมืองระยอง รับแจ้งมีเหตุคนยิงกันเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 7/4 หมู่บ้านชุมชนบางจาก ต.เชิงเนิน หลังรับแจ้งตำรวจจึงไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์โรงพยาบาลระยอง

131019

พบนายบุญลือ เจริญผล อายุ 48 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง ตามร่างกายหลายแห่ง ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ที่เกิดเหตุ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

438894

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอดิศักดิ์ ประคองวงศ์ อายุ 43 ปี หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่าหลังบ้าน ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อม และจับตัวไว้ได้ พร้อมกับของกลางปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุ

;0ixbf

วันที่ 19 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณ หมู่บ้านชุมชนบางจาก ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง น.ส.ณัฐนิชา ประคองวงค์ อายุ 41 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติพี่ชายของตนเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อน ไม่ฟังใคร ไม่ยอมคน คนในครอบครัวเตือนอะไรก็แล้วแต่จะไม่ค่อยฟัง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตนยืนยันว่าเป็นของพี่ชายจริง แต่ก็เพิ่งมาเห็นไม่นาน ก่อนที่จะเกิดเหตุตนก็ไม่รู้ว่าพี่ชายไปซื้อมาจากไหน เพราะเจ้าตัวไม่เคยบอกใคร มารู้อีกทีตอนที่พี่ชายน่าจะเอาปืนออกมาซ้อมยิงเล่น เวลาที่พี่ชายออกมาซ้อมยิงหน้าบ้าน ก็จะได้ยินเสียงปืน

978903

โดยการก่อเหตุของพี่ชายในครั้งนี้ เกิดจากปมขัดแย้งเรื่องที่ดิน ที่ทางพี่ชายและผู้เสียชีวิตมีปัญหากันเรื่อยมา เนื่องจากพ่อของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน ได้ขายที่ดินของครอบครัวที่อยู่ติดกับที่ดินบ้านตน ขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส 36 ตารางวา ให้กับผู้เสียชีวิต แต่ทางผู้เสียชีวิตไปขายที่ให้กับคนอื่นคือ นายสำราญ ผ่องอักษร ก่อนสร้างบ้านของเจ้าตัวเพิ่มขึ้นมาอีกหลังหนึ่ง เป็นตารางวาที่ 37 ซึ่งงอกขึ้นมาผิดกับที่ตกลงกันไว้ ทำให้พี่ชายเกิดความไม่พอใจคิดอยู่เสมอว่าทางผู้เสียชีวิตโกง เอาที่ดินของครอบครัวไปขาย ทำประโยชน์ส่วนตน กลายเป็นอริของพี่ชาย หลังจากนั้นเจอหน้ากันก็จะมีปากเสียงกันตลอด

369771

ก่อนหน้านี้เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา พี่ชายเคยบุกถืออาวุธปืนไปที่บ้านของผู้เสียชีวิตในยามวิกาล หวังที่จะยิงผู้เสียชีวิต เพราะความแค้นเรื่องปมที่ดิน แต่พี่ชายยิงไม่โดน ทำให้ผู้เสียชีวิตรอด ซึ่งในครั้งนั้นก็เป็นคดีความต้องขึ้นศาล แต่ทางครอบครัวใช้หลักทรัพย์ไปประกันตัว ซึ่งอีกประมาณ 2 เดือนที่จะถึงทางศาลก็ได้มีการเรียกตัวอีกครั้ง แต่พี่ชายก็มาก่อเหตุดังกล่าวเสียก่อน

โดยในวันเกิดเหตุ 12.00 น. คนในครอบครัวเข้าไปอยู่ในบ้าน ส่วนพี่ชายที่อยู่ในอาการเมาสุรา เนื่องจากดื่มสุราต่อเนื่องมาตั้งแต่คืนวันที่ 17 เม.ย. ได้ยินเสียงแว่วว่าผู้เสียชีวิตตะโกนมา แต่ก็ไม่มีใครในบ้านได้ยินว่าผู้เสียชีวิตตะโกนมาว่าอะไร ก่อนตนจะเห็นพี่ชายเดินไปหยิบปืนในห้อง บุกไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ก่อนก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตดังกล่าว 3 นัด จนเสียชีวิต ก่อนเดินวนเวียนไปยังบ้านนายสำราญ เพื่อนบ้าน ที่อยู่ติดกับบ้านผู้เสียชีวิต ซึ่งเสมือนเป็นคู่อริของพี่ชายด้วย และทำการยิงใส่บ้านนายสำราญ 1 นัด จนบานเกร็ดหน้าต่างแตก โชคดีขณะนั้นนายสำราญไม่อยู่ภายในบ้านจึงไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก่อนพี่ชายจะหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่าหลังบ้าน

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวก็อยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ที่พี่ชายไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนยืนยันว่าที่พี่ชายลงมือไปเพราะความแค้น เมาสุรา ความเครียดส่วนตัว จนหาทางออกไม่ได้ ขาดสติก่อเหตุดังกล่าว สุดท้ายนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีโอกาสได้พูดกับพี่ชายของตนก็อยากจะบอกว่า "ให้พี่ชายยอมรับกับความผิดที่ได้ก่อไว้ อาจจะไม่สบายเหมือนอยู่ข้างนอก ก็อยากจะให้พี่ชายอดทนและดูแลตัวเองให้ดี"

462218

นายสำราญ ผ่องอักษร อายุ 38 ปี เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าที่ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุพูดไม่เป็นความจริง ทางผู้เสียชีวิตไม่ได้นำที่ดินมาขายให้ตนเพื่อทำผลประโยชน์แต่อย่างใด แต่ที่ดินที่ตนอาศัยอยู่ ตนซื้อต่อมาจากเจ้าของคนเก่าที่มีการขายผลัดต่อกันมาถึง 3 คน ตกมาถึงตนในราคาหลักแสนบาท เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตั้งแต่มาอยู่ก็จะเห็นว่าผู้ก่อเหตุมักจะมาละลานผู้เสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง เพราะคงเห็นว่าเป็นคนที่แก่กว่าอยู่บ้านเพียงลำพัง

ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการแอบทำร้ายร่างกายด้วยการชก ต่อย ทุบตี จนถึงกับเข้าโรงพยาบาล หนักสุดเมื่อ 1 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุบุกใช้อาวุธปืนมายิงผู้เสียชีวิตถึงหน้าบ้าน แต่โชคดีรอดมาได้ กระทั่งมาเกิดเหตุครั้งนี้ ส่วนปมปัญหาที่เกิดขึ้นตนมองว่า เป็นเรื่องที่จบกันไปนานแล้ว เพราะเรื่องที่ดินของผู้เสียชีวิตนั้น ทางผู้เสียชีวิตได้ซื้อต่อมาจากเจ้าของที่ ซึ่งเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุที่มีการซื้อขายกันมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่ผู้ก่อเหตุยังอายุน้อย ๆ ไม่รู้เรื่องอะไร แต่ปัจจุบันที่ดินอาจมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ก่อเหตุที่เป็นลูกของเจ้าของที่มีความคิดอยากจะได้คืน เลยก่อเหตุดังกล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส