จากกรณีเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "Survive - สายไหมต้องรอด" ได้มีการโพสต์ข้อความว่า "รามคำแหงต้องรอด ขอช่วยสื่อสารออกไป พิกัด รามคำแหงฝาก สาธารณสุขในพื้นที่ จัดสรรห้องหรือ รพ.ให้เด็กด้วย นักฟุตบอลติดโควิดรอการช่วยเหลือ ในบ้านติดกัน 4 คน มีภรรยาและลูกน้อยวัย 2 ขวบกับ 2 เดือน ทั้ง 4 คนมีผลตรวจยืนยันติดโควิด ติดต่อทุกหน่วยงานไปตั้งแต่วันที่ 12 แต่ยังไม่มีที่รักษา"
วันที่ 16 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านในซอยรามคำแหง 175 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านของนักฟุตบอลที่ติดโควิด-19 กันทั้งครอบครัว โดยน.ส.อัมรัตน์ ตาปลา ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน วัย 2 ขวบ และ 2 เดือนนั้น
โดยภรรยาของนักฟุตบอล ได้ออกมายืนคุยโทรศัพท์วนเวียนอยู่หน้าบ้านหลายรอบ คล้ายกับพยายามจะโทรศัพท์ประสานติดต่อโรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ทีมข่าวได้วิดีโอคอลกับ นายบวร ตาปลา นักฟุตบอลที่ติดเชื้อโควิด-19 เปิดใจว่า ตนได้ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 เม.ย 64 ที่ผ่านมา จากนั้นตนได้ให้ภรรยาและลูกไปตรวจเชื้อ ปรากฏว่าพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 13 เม.ย.64 ที่ผ่านมา พบเชื้อครบทั้งบ้าน 4 คน จากนั้นตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อประสานไปยังโรงพยาบาลแทบจะทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่ตนกลับได้คำตอบมาแค่ว่า "เตียงไม่พอ ผู้ป่วยล้น" ตอนนั้นยอมรับว่ากระวนกระวายใจมาก เพราะสงสารลูกทั้ง 2 คน ยิ่งคนสุดท้องก็เพิ่งจะ 2 เดือน
ระหว่างนั้นก็ต้องช่วยกันดูแล กักตัวกันอยู่ที่บ้าน แต่ก็ยังคงติดต่อโรงพยาบาลอยู่ตลอด เนื่องจากอาการของลูกสาวทั้ง 2 คนออกมาชัดมาก ทั้งน้ำมูกไหลตลอดเวลา มีอาการไข้ ส่วนตนและภรรยาก็มีอาการไข้ และอาหารไม่รับรู้รสชาติ ระหว่างนี้เรื่องอาการกินการ ต้องโทรศัพท์สั่งพนักงานส่งอาหารมาส่ง หรือเพื่อนสนิทที่นำมาให้ ให้มีการนำอาหารกับข้าวมาแขวนที่หน้าบ้าน และโอนเงินจ่าย เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองและเพื่อนคนอื่น ๆ ด้วย
ขณะนี้ตนมีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าลูกคนสุดท้องวัย 2 เดือนมีอาการไข้รุนแรงมากขึ้น ตนก็คงต้องตัดสินใจขับรถพาลูกไปหาหมอเอง ที่สำคัญตนก็ไม่ได้อยากจะกักตัวเองและคนในครอบครัวในบ้านแบบนี้นาน ๆ กลัวว่าเพื่อนบ้านจะแตกตื่นตกใจ อย่างไรก็ตาม ได้ฝากถึงโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่งให้มาช่วยรับตัวตน ภรรยา และลูกไปรักษาตัวด้วย เพราะตอนนี้อยู่กันแบบลำบาก กลัวว่าลูกจะเจ็บป่วยจากเชื้อโควิด-19 ไปมากกว่านี้
