เจนนี่เผยแม่สุดช้ำ "มีล่า" ให้ข่าวน้องชายใช้มีดปักหัว ชมพูวอนจับมือคุยยุติศึก (คลิป)

กรณีนักร้องสาว มิล่า kamikaze เจ้าของเพลงดังปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ ถูกน้องชายแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส จนเกิดกระแสโจมตีครอบครัวและน้องชาย ตามที่ปรากฏบนโลกออนไลน์นั้น

ล่าสุดวันที่ 15 เม.ย.64 "เจนนี่" พี่สาวคนโตของบ้าน ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้น และยังวอนหยุดโจมตีคุณแม่ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก แต่เรื่องเกิดมาแล้ว 2 ปี น้องสาวต้องการอะไรกันแน่ พร้อมกับเล่าถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัว

โดยเจนนี่ ระบุว่า "เจนนี่ขอโทษที่ออกมาพูดช้า เพราะทันทีที่ข่าวนี้ออกมา ต้องดูความรู้สึกคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เจนนี่เลยจำเป็นต้องใช้เวลาจัดการเรื่องในครอบครัว ก่อนที่จะมีโอกาสได้มาเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมด

ก่อนอื่นอยากจะขอความกรุณาหยุดโจมตีคุณแม่ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก ลูกเจ็บลูกทะเลาะกัน คนเป็นแม่เจ็บยิ่งกว่า ลูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยปกป้องฝ่ายไหน แต่เรื่องที่ทุกคนได้ฟังและตีความกันไปเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องทั้งหมด แม่และเจนนี่เป็นห่วงน้องทุกคนมาก และทำให้น้อง ๆ ทุกอย่างเท่าเทียมกันมาเสมอ เท่าที่เราจะทำได้ ทั้งซักผ้าให้ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ตลอด ดอยดูแลรับส่ง หาดอนโดฯ ให้ ทั้งเรียกตำรวจและหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด

ที่ผ่านมาพาน้องไปรักษา จะได้หาย จะได้กลับมาเป็นครอบครัวอย่างครอบครัวอื่น พอน้องสาวได้ออกมาชี้แจงแบบนั้น ทำให้แม่ถูกคนอื่นด่า มันเจ็บปวดมากเลย เรื่องเกิดมา 2 ปี ทำไมเพิ่งมาออกมาพูด ต้องการอะไรกันแน่ เจนนี่โดนถล่ม เจนนี่ยอมรับได้ แต่ถ้าแม่โดนตำหนิ โดนถล่ม ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง เจนนี่รับไม่ได้จริง ๆ ปกติแม่จะเป็นคนที่เข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับร้องไห้อยู่เรื่อย ๆ กราบขอเวลาทุกคนอ่านความจริงฝั่งของเจนนี่บ้างนะคะ"

ทั้งนี้เจนนี่ ยังได้เล่าต่ออีกว่า "ความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้ง 3 คน อาศัยอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เกิด แต่ต่อมาโดยเฉพาะช่วง 10 ปีหลัง น้องสาวและน้องชายมีปัญหาทะเลาะกันอยู่ตลอด ทั้งคู่ต่างรุนแรงใส่กัน ทั้งคู่มีการใช้อาวุธข่มขู่กันทั้งสองฝ่าย เจนนี่และแม่ซึ่งอยู่ในฐานะคนกลางมีความลำบากใจมาโดยตลอด ทั้งคู่คือน้อง ทั้งคู่คือลูกแม่ เคยมีเหตุการณ์ทะเลาะกันรุนแรง 1 ครั้งทำให้แตกหัก เลิกคุยกันไปเลย

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องสาวไป ๆ มา ๆ ระหว่าง ต่างประเทศและไทยเพื่อเรียนต่อ ตอนที่น้องสาวอยู่บ้านจะส่งน้องชายไปต่างจังหวัด แล้วตอนน้องสาวกลับต่างประเทศ ถึงจะให้น้องชายกลับมาอยู่บ้าน เพื่อปกป้องจิตใจของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นไม่นานน้องชายก็เริ่มปวยเป็นซึมเศร้า แม่และเจนนี่เลยพาน้องไปรักษาอาการซึมเศร้า และพยายามหาวิธีที่จะทำให้เขาดีขึ้น พอเริ่มอาการดีขึ้น ทุกคนจึงกลับมาอยู่บ้านด้วยกันอีกครั้ง"

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ต่อสายตรงไปถึง “พรีน เดอะสตาร์” เพื่อนสนิทของ “เจนนี่” เพื่อพูดคุยกับเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า ต้องบอกว่าตนนั้นมีความสนิทและรู้จักกับทั้ง 2 คน ไม่ว่าจะเป็น "เจนนี่ เดอะสตาร์" และ "มีล่า จามิล่า" ตนไม่ทราบรายละเอียดแบบเชิงลึก เจนนี่เองก็คอยดูแลน้องสาว และคนในครอบครัวมาโดยตลอด เปรียบเหมือนเจนนี่เป็นเสาหลักของบ้าน ด้วยความที่ตนสนิทกับเจนนี่มากกว่า ก็จะรับทราบว่าเจนนี่เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมให้สิ่งที่ดีกับครอบครัวเสมอ คำพูดที่เขาจะพูดตลอดคือ "อะไรก็ได้ที่ทำให้แม่ มีล่า สบายที่สุด และมีความสุขจะทำให้หมดเลย"

"พรีน" เล่าต่อว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนได้พูดคุยกับเจนนี่มาตลอด ทั้งชีวิตนี้ตนไม่เคยเห็นเจนนี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ ปกติเจนนี่จะเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุด สถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระเเสสังคม ทำให้ค่อนข้างหนักและเเย่ในมุมของความรู้สึก ส่วนที่เขาทั้งคู่โต้กลับกันไปมา เรื่องนี้ตนอยากให้เจนนี่ออกมาอธิบายจะดีกว่า

ทั้งนี้เจตนาที่ตนทวีตข้อความนั้น ต้องบอกว่าที่ผ่านมาเจนนี่และคุณแม่ก็ไม่เคยนิ่งเฉยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะตนเห็นถึงความพยายามของเพื่อน ที่จะจัดการเรื่องดังกล่าวมาตลอด แม้ว่าเขาอาจจะทำได้ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ สิ่งที่ตนสื่อสารไปนั้นเป็นความรู้สึกเจ็บปวดแทนเพื่อน หลังจากโซเชียลฯ เข้ามาต่อว่าคุณแม่ แต่ที่ตนทวีตข้อความอาจจะผิดพลาดไป ด้วยจังหวะที่ตนทวีตค่อนข้างไม่ถูกต้อง รวมถึงรูปแบบไปกระทบในมุมของคนที่เป็นโรค PTSD หรือเหยื่อของความรุนแรง ตนก็ขอน้อมรับความผิดจากการสื่อสาร

"ส่วนตัวอยากจะขอโทษน้องมีล่า เพราะว่าโพสต์ที่พรีนโพสต์ไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายน้องมีล่าเลย พรีนเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องค่อนข้างรุนแรง ซึ่งตอนที่ทราบข่าวเมื่อ 2 ปีก่อน พรีนก็ยังเป็นห่วงและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้อง พรีนไม่ได้มีเจตนาจะโพสต์เพื่อให้คนทำผิดกลายเป็นถูก ต้องขอโทษอีกครั้ง แต่จะเป็นกำลังใจให้กับทุกคน" พรีน เดอะสตาร์ กล่าว 

กรณีเหตุการณ์สะเทือนใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับอดีตนักร้องสาว “มีล่า-จามิล่า พันธ์พินิจ” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ล่าสุดวันที่ 15 เม.ย.64 ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ “คุณชมพู ฟรุตตี้-สุทธิพงษ์ วัฒนจัง” อดีตผู้บริหารค่ายกามิกาเซ่ ซึ่งมี “มีล่า” เป็นหนึ่งในสมาชิก

“คุณชมพู” เล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีก่อนที่ตนได้ร่วมงานกับ “มีล่า” น้องอายุประมาณ 12-13 ขวบ แต่เป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก แถมยังมีพลังและมีความสามารถมากด้วย ดูได้จากผลงานเพลง “ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจ” ที่เป็นผลงานชิ้นแรกของมีล่า ซึ่งหลังปล่อยออกมาก็มีโด่งดังเป็นพลุแตก เนื่องจากเขาเข้าใจอินเนอร์ของเพลง ถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงออกมาได้เหมาะสม ถือว่าชีวิตและหัวใจของ “มีล่า” มีความเป็นศิลปินสูงตั้งแต่เด็ก

นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่ตนร่วมงานกับ “มีล่า” เด็กคนนี้เป็นเด็กอารมณ์ดี สนุกสนาน ร่าเริง และเข้ากับเพื่อน ๆ “กามิกาเซ่” ในตอนนั้นได้ดีมาก เพราะก่อนจะเปิดตัวของ “กามิกาเซ่” ศิลปินทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพื่อฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 3 วัน ในระยะเวลากว่า 6 เดือน ไม่มีใครมีปัญหาหรือทะเลาะกันด้วยซ้ำ รวมถึงชีวิตครอบครัวของ “มีล่า” เท่าที่ตนเห็นก็ถือว่าเป็นหนึ่งครอบครัวที่มีความสุข น่ารัก ไปไหนมาไหนเขาก็จะไปด้วยกันตลอด ไม่มีวี่แววว่าจะมีปัญหาภายในบ้าน

แต่หลังจากที่ “กามิกาเซ่ เวอร์ชั่นแรก” ปิดตัวลงและหลายคนก็แยกย้ายไปทำเพลงเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็ไปทำอย่างอื่น และมี “กามิกาเซ่ เวอร์ชั่น 2” ออกมา รวมถึงตนก็ออกมาทำอีกค่าย นับจากวันนั้นก็เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีที่ตนไม่มีโอกาสได้เจอกับ “มีล่า” แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีโอกาสได้เจอได้คุยกับ “เจนนี่” พี่สาวและคุณแม่ของ “มีล่า” ผ่านช่องทางออนไลน์บ้าง

ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน แต่ก็ทราบข่าวพร้อมกับทุกคน ส่วนตัวรับรู้แค่ว่า “มีลา” ไม่สบาย และได้รับการรักษาแล้วเท่านั้น ไม่ได้รู้รายละเอียดตื้นลึกหนาบาง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะมีใครอยากให้เกิด แม้กระทั่งตัวของ “มีล่า” แต่อาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ผิดปกติ ซึ่งสำหรับตนมองว่า “ควรแก้ที่ปัญหานั้น ไม่ใช่ตามหาคนผิด” อย่างที่ตัวของ “มีล่า” ออกมาให้ข่าวว่าอย่าไปว่าคุณแม่ ซึ่งตรงนี้ตนก็เห็นด้วย เพราะคุณแม่เองก็คงไม่อยากให้มีเรื่อง และเชื่อว่าคุณแม่ น่าจะพยายามทำดีที่สุดแล้วเหมือนกัน แต่ผลอาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่หวังไว้

ทั้งนี้ที่ “มีล่า” ออกมาโพสต์เรื่องราวหลังผ่านไปแล้ว 2 ปี ตนมองว่าอยากให้ใครสักคนทำอะไรบางอย่างกับเคสนี้ ซึ่งถ้าตนเป็น “มีล่า” ในวัยเท่านี้ ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากนักที่จะสามารถทำให้ทุกเรื่องสมบูรณ์ ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่จะออกมาพูดเพื่อให้ใครสักคนเข้าใจตัวเอง ส่วนตัวก็ยังยืนยันว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปโทษใคร แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ตรงปัญหามากกว่า จึงอยากขอเป็นกำลังใจให้กับ “มีล่า” ในฐานะของคนที่เคยสนุกสนานกับการทำงานมาด้วยกัน ขอให้น้องเข้มแข็ง และหาวิธีที่ทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยให้ได้โดยเร็ว

ในขณะเดียวกันด้านของ “เจนนี่” และคุณแม่ของ “มีล่า” ตนก็เข้าใจว่าทุกคนคงตกอยู่ในสภาวะที่ลำบากใจ โดยเฉพาะคุณแม่ ที่สุดท้ายแล้ว ทั้งมีล่า เจนนี่ และน้องชาย ก็คือลูกของคุณแม่ทั้งหมด ดังนั้นการแก้ปัญหาในเคสนี้ให้ได้ดีที่สุด คือ การแก้ปัญหาให้ทุกคนสามารถยืนจับมือต่อไปด้วยกันได้