ดาราหนุ่ม "โปสการ์ด" เครียดกักตัวรพ.สนาม หมอ 2 ที่พูดไม่ตรงปอดติดเชื้อ (คลิป)

15 เม.ย. 64

สืบเนื่องจากกรณีของ "คุณโปสการ์ด พิรพบ อาจวิบูลย์พร” นักแสดงหนุ่มที่เคยฝากผลงานในละครเรื่อง “ตราบาปสีชมพู” ทางช่อง 3 ที่ออกมาประกาศว่าติดโควิด-19 พร้อมเล่าถึงอาการ "เชื้อลงปอด" แต่ถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม ย่านพุทธมณฑล และให้รักษาอาการตามอาการ ทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่โอเค ตามที่ปรากฏเป็นกระแสวิจารณ์นั้น

847600

ล่าสุดวันที่ 14 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสวิดีโอคอลไปสอบถาม และอัปเดตอาการ โดยโปสการ์ด เล่าว่า สำหรับอาการตอนนี้ มีอาการไอ เจ็บคอ และหายใจไม่ค่อยทัน ส่วนไข้ก็ลดลงเป็นปกติแล้ว ส่วนตัวอยากจะบอกว่าหลังจากที่ตนได้โพสต์เกี่ยวกับผลการตรวจไป ที่มีการระบุว่าเชื้อลงปอดนั้น เป็นผลการตรวจของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ตนรับเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนที่เขาจะส่งมายังโรงพยาบาลสนาม

343526

หลังจากนั้นเมื่อทีมแพทย์โรงพยาบาลสนาม เอกซเรย์ดูอาการอีกรอบ กลับพบว่าไม่มีอาการของปอดติดเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยกับผลการตรวจว่า ตกลงเชื้อลงปอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในการใช้ชีวิตโรงพยาบาลสนาม ตอนนี้มีคนไข้อยู่เกือบ 50 เตียง บางรายก็มีอาการไอหนัก การอัปเดตอาการกับทางคุณหมอจะเป็นการวิดีโอผ่านคอมพิวเตอร์ ที่ทางโรงพยาบาลได้จัดเตรียมไว้ โดยจะเป็นการเรียกตามหมายเลขเตียงของแต่ละคน เฉลี่ยวันละ 2 รอบในช่วง 12.00 น. และ 19.00 น. ขณะที่อาหารการกิน ทางเจ้าหน้าที่จะนำอาหารมาวางไว้ให้ แบ่งเป็น 3 มื้อ

434003

เมื่อถามว่าความรู้สึกส่วนตัวที่ได้มีโอกาสเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม โปสการ์ด บอกว่า ส่วนตัวมีความรู้สึกเหมือนมาเข้าค่ายมากกว่า แอบกังวลในส่วนของการจัดระยะห่างของแต่ละเตียง ที่ตนมองว่าอาจจะใกล้กันเกินไป จากสายตาน่าจะห่างกันแค่ 1 เมตร ยอมรับว่ารู้สึกกลัวกับการที่มาอยู่ร่วมกับคนหลาย ๆ คน แต่ก็ต้องปฎิบัติตาม เพราะเลือกไม่ได้ ทำได้แค่ป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยนอน

528237

โปสการ์ด เล่าอีกว่า ส่วนตัวตอนนี้หากจะต้องอยู่โรงพยาบาลสนามตลอดการรักษาก็คงอยู่ได้ แต่เพียงอยากทราบความชัดเจนในเรื่องของอาการว่า ตกลงตนปอดติดเชื้อหรือไม่ เพราะตอนนี้ได้เพียงพาราเซตามอล ยาแก้ไอ และยาแก้แพ้ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากใครที่กำลังติดเชื้อแล้วไม่มีโรงพยาบาลรองรับ ก็ขอให้เดินทางมาที่โรงพยาบาลสนามน่าจะดีกว่า เพราะยังดีที่มีทีมแพทย์คอยดูแลตลอดเวลา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส