แผงปลาเปิดศึกยิงสนั่น แค้นแย่งที่ขาย คนเจ็บโต้ฮุบที่ ปล่อยเช่ากินฟรีเดือนละ 900 (คลิป)

12 เม.ย. 64

ตำรวจ สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ตลาดสดโคกสำโรง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายปลาสด มีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่จำนวนหนึ่ง

304894

ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายโดนยิงที่หน้าท้องจำนวน 1 นัด กระสุนลูกซองปลายยิงเข้าตัวคนเจ็บ 6 นัด ยิงถากที่แขนซ้าย สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ได้นำส่งโรงพยาบาล

677523

ตรวจสอบพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลูกซองเบอร์ 12 วางอยู่บนเก้าอี้ และขวาน 1 เล่มตกอยู่ จึงเก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ทราบชื่อคนเจ็บคือ นายกฤษณะ พรมดี หรือ กฤษ อายุ 21 ปี ส่วนคนก่อเหตุคือ นายสัญญา ปองงาม หรือ ฟลุ๊ค อายุ 21 ปี

295803851093

วันที่ 12 เม.ย. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ตลาดโคกสำโรง ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พบว่าเป็นตลาดสด เปิดขายตั้งแต่ 09.00-16.00 น. ของทุกวัน บริเวณกลางตลาดเป็นแผงขายอาหารสด ตั้งวางขายโดยการกางเต็นท์-ร่ม ลักษณะทำเป็นล็อก ขายปลาน้ำจืด ร้านผ้าใบคลุม เป็นร้านของครอบครัวคนเจ็บ พบว่ายังคงปิดให้บริการ เนื่องจากเดินทางไปเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาล

839508

ส่วนแผงขายอาหารทะเลสีฟ้าของครอบครัวคนก่อเหตุ ยังเปิดให้บริการตามปกติ ความกว้างของแผงขาย หน้ากว้าง 1.5 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร คิดค่าเช่ารายเดือน ๆ ละ 800-1,000 บาท ซึ่งช่วงโควิดราคา 900 บาท แต่หลังแผงค้าของคนก่อเหตุที่เป็นร้านอาหารทะเล และร้านของคนเจ็บขอยปลาน้ำจืด มีล็อกว่างกว้าง 1.5 เมตร คูณ 1.5 เมตร ใช้สำหรับเอาไว้เก็บสต็อกอาหารทะเล และตั้งที่นั่งพักระหว่างขายของ

113647

จากข้อมูลครอบครัวของนายกฤษณะ คนเจ็บ มีแผงขายปลาน้ำจืดรวม 3 ล็อกในตลาดโคกสำโรง ซึ่งอยู่ติดกับร้ายอาหารทะเล มีนายณัฐ พี่ชายคนเจ็บ เป็นเจ้าของ ใกล้กันมีทางเดินกั้นกลาง เป็นล็อกขายปลาน้ำจืดของนางสมทรง ย่าคนเจ็บ และห่างออกไปอีก 2 ล็อกที่ขายของโดยนางสุรัตน์ แม่ของคนเจ็บ ร้านของคนเจ็บมีลักษณะประกบซ้าย-ขวาร้านอาหารทะเล นายกฤษณะ คนเจ็บ ไม่ได้เป็นเจ้าของล็อก แต่เดินทางมาช่วยญาติแล้วโดนยิง

234339

นางสุรัตน์ พรมดี หรือรัตน์ อายุ 52 ปี แม่ของคนเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกชายถูกปืนลูกซองของนายสัญญายิงเข้าที่หน้าท้อง ราวนม และถากแขน ตอนนี้กระสุนฝังในได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แต่อาการยังอยู่ในการดูแลของหมออย่างใกล้ชิด ต้องพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจ ตนเองก็ยังเป็นห่วงสุขภาพของลูก เพราะไม่คิดว่าจะโดนยิงด้วยเหตุการณ์แบบนี้

cg

ซึ่งในวันเกิดเหตุเวลา 17.00 น. ลูกชายไปช่วยเก็บของหลังจากที่ขายของเสร็จ นายสัญญา คนก่อเหตุ ได้ลุกขึ้นมาแล้วตะโกนด่าทอ พร้อมทั้งพูดขึ้นมาว่า "ให้พวกมึงเก็บของออกไปจากที่ของแม่กู" ลูกชายก็ไม่อยากมีปัญหาด้วย จึงได้เดินหนีมาที่หน้าแผงของตนเองเพื่อมาช่วยเก็บร่มขึ้นรถ แต่คนก่อเหตุก็ยังตามมาหาเรื่องพูดจาด่าทอไม่จบ ทำให้ลูกชายและคนก่อเหตุมีปากเสียงกัน ช่วงที่ลูกชายกำลังเก็บร่ม นายสัญญาหยิบเอาอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่หน้าท้องและฝั่งซ้ายของลูกชายตน หลังตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก็รีบเข้าไปประคองลูกและพาหลบเข้าไปภายในร้านเสริมสวย ตอนนั้นสังเกตว่านายสัญญากำลังจะบรรจุลูกกระสุนใหม่เข้าไป แต่ปืนหักไม่ออก เปลี่ยนกระสุนไม่ได้ จึงได้หันไปหยิบเอาขวานจะเอามาทำร้ายลูกชาย ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบพาลูกไปขอความช่วยเหลือ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องแค่ที่ขายของจะถึงขั้นยิงกันให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันมาก่อน เพระต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำมาหากิน ที่สำคัญขายของคนละชนิดกัน คนก่อเหตุขายอาหารทะเล ครอบครัวตนเองขายปลาน้ำจืด เชื่อว่าเรื่องขายของไม่ใช่สาเหตุ แต่อาจเกิดจากการที่ทะเลาะการขับไล่ไม่อยากให้ขายของข้างร้านจึงทำให้ลูกถูกยิง โดยหลังจากนี้ ตนเองไม่ต้องการความรับผิดชอบ แต่ต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และอยากให้กระบวนการยุติธรรมให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัว และพาตัวคนผิดไปรับโทษตามกฎหมาย

409568

นางชิดแดง ศรีดา หรือ แป๊ะ อายุ 59 ปี แม่ของนายสัญญา คนก่อเหตุ เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ด้วย เดินทางกลับบ้านไปก่อนเวลา มีลูกชายนั่งขายของจนกระทั่งถึงเย็น และในช่วงเวลาเกิดเหตุ ลูกชายนั่งขายของอยู่ที่หน้าร้านเพียงลำพัง แล้วกลุ่มของคนเจ็บซึ่งมีกันหลายคนเข้ามาหาเรื่องที่ร้านขายอาหารทะเล ลักษณะผู้ใหญ่รังแกเด็ก เพราะลูกของตนเองอายุเพียงแค่ 20 กว่าปี จากนั้นเชื่อว่าลูกชายอาจเกิดบันดาลโทสะ ควักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วยก่อเหตุยิงนายกฤษณะได้รับบาดเจ็บ แต่เรื่องของอาวุธปืนตนเองไม่รู้ว่าลูกชายเอามาจากไหน

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นเรื่องของบันดาลโทสะ ยังเป็นเรื่องสะสมในอดีตที่ผู้ใหญ่มีเรื่องแย่งที่ขายของกัน จนกระทั่งตกทอดมาจนถึงรุ่นลูกที่เข้ามาดูแลรับช่วงต่อ แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่น มีความเลือดร้อน หัวร้อน อารมณ์ร้อน จึงทำให้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนตนจะช่วยประกันตัวแต่ลูกชายก็ปฏิเสธ บอกว่าไม่จำเป็นต้องเสียเงิน 400,000 บาทเพราะเรื่องแบบนี้ ลูกชายพร้อมที่จะติดคุกรับโทษ ไม่ต้องการให้แม่หรือพ่อเดือดร้อน

917055631602307220

ขณะที่ฝั่งของคนเจ็บ ตนพร้อมที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลช่วยเหลือเยียวยา แต่ทางครอบครัวของคนเจ็บปฏิเสธจะไม่รับเงิน เพียงต้องการให้ลูกชายของตนเองติดคุกก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากย้อนกลับไป ร้านอาหารทะเลของตนเองตั้งร้านขายของมานานกว่า 40 ปี และขายของบนเนื้อที่ 1.5 เมตร แต่ในช่วงระยะหลังตลาดได้มีการขยายพื้นที่ อนุญาตให้ขายบริเวณหน้าร้านได้ ตนเองได้รู้จักกับนายอรรถ ซึ่งเป็นพ่อค้าขายไก่ปิ้งที่ตายไปแล้ว มาขอใช้พื้นที่หน้าร้านตั้งร้านขายไก่ปิ้ง ตนเองก็อนุญาตให้ใช้พื้นที่ได้ และเก็บเงินค่าเช่าวันละ 30 บาท กระทั่งระยะหลังนายอรรถได้หายไปพักหนึ่ง แล้วมาทราบอีกทีว่ามีการไปรับเงินจากร้านขายปลาน้ำจืด จำนวน 30,000-50,000 บาท ซึ่งอ้างว่าเป็นการเปลี่ยนมือ แต่เงินจำนวนดังกล่าวนายอรรถก็ได้รับไปเต็ม ๆ แล้ว

หลังจากนั้นร้านขายปลาน้ำจืด ก็มีการตั้งร้านขายใหญ่โตกีดขวางหน้าร้านของตนเอง ซึ่งตนเองก็ยังเกิดความสับสนว่าทำไมร้านขายปลาน้ำจืดถึงสามารถตั้งร้านขายได้ แล้วมีการจ่ายเงินโดยตรงที่ตลาด ทุกวันนี้ตนเองก็ยังจ่ายค่าเช่าเพิ่มบริเวณหน้าร้าน ดังนั้นพื้นที่ด้านหน้าร้านของตนเอง ก็ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น อยากจะฝากถึงกลุ่มคนที่มีส่วนรู้เห็นว่า "คนพวกนี้เนรคุณ อุตส่าห์ให้ที่ทำกิน แต่สุดท้ายมาทำกับตนเองแบบนี้ ทั้งที่ตนเองขายมาก่อนกว่า 40 ปี แต่มาอ้างสิทธิ์ 12 ปีหลัง อ้างว่ามีการเช่าต่อจากคนอื่น ดังนั้นตนเองในฐานะร้านที่อยู่มาก่อนก็ต้องได้รับสิทธิ์ และความยุติธรรมตรงนี้"

444358

สำหรับกล้องวงจรปิดร้านฝั่งตรงข้ามร้านขายอาหารทะเลและปลาน้ำจืดบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ มีร่มและเต็นท์บัง ไม่เห็นวินาทียิง ในช่วงเวลาก่อน 16.58 น. ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะมีปากเสียงกัน จากนั้นเมื่อสิ้นสุดเสียงคนทะเลาะกัน จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้ง คนที่ยืนอยู่วิ่งหนี และนายสัญญา คนก่อเหตุ ย้อนกลับไปที่ข้างร้านอาหารทะเลเพื่อหยิบขวาน เตรียมที่จะใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนเจ็บ หลังจากที่โดนยิงแล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส