หนุ่มหึงโหดระแวงแฟนปันใจบุกยิงดับคาร้านข้าว ก่อนเป่าขมับหนีผิด เพื่อนเชื่อฉุนเห็นภาพบาดตา (คลิป)

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 02.00 น. พ.ต.ท.ณัฐกมล ท้าวกลาง สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรวังสะพุง จ.เลย รับแจ้งจากว่ามีเหตุยิงกัน บริเวณร้ายอาหารครัวกันเอง ถ.วังสะพุง-อุดรธานี ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย

พบนายชาญชัย หมู่โสพิญ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านถูกยิงที่บริเวณหน้าอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส, นายกิตติวัฒน์ จุลกองฮ้อ หรือ เบียร์ อายุ 31 ปี พนักงานธนาคาร ถูกยิงที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย พบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 อยู่ในมือข้างขวา นอนหายใจรวยรินฟุบทับร่าง น.ส.วันนิไล ทำมะวง อายุ 26 ปี ชาว สปป.ลาว ที่ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายกิตติวัฒน์ส่งโรงพยาบาลวังสะพุง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทีมข่าวเดินทางมาที่ บ้านขวดแตก สี่แยกโรงน้ำตาล ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของพบนายกิตติวัฒน์ จุลกองฮ้อ หรือ เบียร์ อายุ 31 ปี ญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดได้เดินทางมาแสดงความเสียใจ มีเพียงโลงศพเปล่า เมื่อช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพไปชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง และกำหนดรับศพในวันที่ 16 เม.ย. 64 ญาติจัดพิธีฌาปนกิจในวันที่ 17 เม.ย. 64

นายสุนันท์ จุลกองฮ้อ อายุ 63 ปี พ่อของนายกิตติวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงลูกชายขับรถเข้ามาในบ้าน ก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง ตนรู้สึกเอะใจ เพราะลูกชายไม่เคยกลับมาดึก แล้วออกไปในตอนดึกขนาดนี้ ตนพยายามโทรหาลูกชาย แต่ลูกชายไปรับสาย ตนตัดสินใจขับรถตามหา กระทั่งตนได้รับแจ้งเหตุว่าลูกชายยิงตัวเองเข้าที่บริเวณศีรษะ และขณะที่ตนเข้ามาในที่เกิดเหตุ ลูกชายยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้สึกตัวแล้ว เมื่อนำส่งโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้แจ้งว่าสมองไม่ทำงานแล้ว ตนจึงต้องตัดสินใจที่จะไม่ทรมานลูกชาย

โดยช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ลูกชายกลับเข้ามาที่บ้าน คาดว่าลูกชายน่าจะเอามาปืนไปก่อเหตุ ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของตน และวางไว้ในห้องนอนของตน แต่ตนหลับสนิท ไม่รู้ว่าลูกชายมาหยิบปืน ทราบแค่ว่ากลับเข้ามาในบ้าน ทั้งนี้ตนไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่เคยรู้จักนางวันนิไล เพราะลูกชายไม่เคยพามาเจอ

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกตกใจ และแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะลูกชายเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร อีกทั้งลูกชายของตนยังเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นลูกชายคนโต ตนกับภรรยาอายุเยอะมากแล้ว ฝากความหวังไว้ที่คนนี้ และหลังจากนี้ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ส่วนตัวไม่มีลางบอกเหตุ แต่เพื่อนของลูกชายเล่าให้ฟังว่า ลูกชายพูดเป็นลางทำนองว่า "ฝากให้เพื่อน ๆ ช่วยดูแลพ่อแม่ และลูกชาย ป.1 ให้ด้วย" สุดท้ายนี้ ตนขอให้ลูกชายไปสู่สุคติ ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อกับแม่จะดูแลลูกชายให้เอง

นายสมศักดิ์ อายุ 32 ปี เพื่อนของผู้ก่อเหตุ เมื่อวานนี้ กลุ่มเพื่อนได้นัดก้นเลี้ยงสังสรรค์กันที่ร้านอาหารอีกร้านหนึ่ง กระทั่งช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้ชวนกันมาที่ร้านอาหารจุดเกิดเหตุ มากันประมาณ 4-5 คน ระหว่างที่นั่งสังสรรค์ช่วงเวลาประมาณ 1.00 น. นายกิตติวัฒน์ ผู้ตาย ได้เดินไปมีปากเสียงกับลูกค้าอีกโต๊ะ ตนเดินตามไปดูจึงทราบว่าเป็นนางวันนิไล ผู้ตาย คาดว่าน่าจะทะเลาะกันทางโทรศัพท์ ก่อนจะมามีเรื่องกัน ขณะนั้นได้มีการด่าทอทางเจ้าของร้านด้วยทำนองว่า "หลายครั้งแล้ว" แต่ตนจำไม่ได้ว่าเกี่ยวกับอะไร ส่วนเจ้าของร้านก็พยายามห้ามปราม

ทั้งนี้ เพื่อนทุกคนกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต ช่วยกันพานายกิตติวัฒน์กลับบ้าน แต่ก่อนที่จะกลับบ้าน นายกิตติวัฒน์ได้พูดเป็นลางทำนองว่า "ถ้าเป็นอะไรไป ฝากดูแลพ่แกันแม่ด้วย" ทำให้ตนรู้สึกเอะใจ และพยายามโทรสอบถามน้องชายของนายกิตติวัฒน์ว่ากลับถึงบ้านหรือยัง แต่น้องชายไม่รับสาย คนจึงขับรถเข้าไปดูที่บ้าน ก่อนจะทราบว่าเกิดเหตุแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที

สำหรับนายกิตติวัฒน์คบหากับนางวันนิไล ประมาณ 1 ปีแล้ว ตนไม่รู้จักนิสัยของนางวันนิไล แต่ทราบว่าทำงานกลางคืน เพื่อนทุกคนเลยพยายามกล่าวเตือนตลอดว่าผู้หญิงอาจไม่ได้จริงใจด้วย และเข้ามาเพราะหวังประโยชน์อย่างอื่น แต่นายกิตติวัฒน์ไม่เคยฟัง และยังแอบคบกันมาโดยตลอด เพราะรักผู้หญิงคนนี้ สาเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความหึงหวง เพราะไปเห็นภาพบาดตามาหรือไม่ ตนยังฟันธงแน่ชัดไม่ได้ว่าทำไมเพื่อนของคนถึงก่อเหตุเช่นนี้ เพราะเพื่อนของตนเป็นคนร่าเริง คิดว่าน่าจะทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว เพราะกระสุนในกระบอกปืนมีจำกัด ส่วนตัวเคยเห็นแต่ในข่าว และไม่คิดว่าจะมาเกิดกับคนใกล้ตัว จึงอยากจะฝากเหตุการณ์ในครั้งนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนใจเย็นกว่านี้