ตำรวจแต่งซ้อนเครียดถูกขัง 30 วัน อ้อนพ่อขอลาออก เมียหลวงเผยลุคใหม่สุดเปรี้ยว (คลิป)

7 เม.ย. 64

จากกรณีเป็นประเด็นร้อนฮือฮา ในโลกออนไลน์ "คุณจอย" เมียหลวงถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งงานสามีตำรวจที่แต่งงานซ้อนกับเจ้าสาวอีกคน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์นั้นได้มีคลินิกเสริมความงามติดต่อเป็นสปอนเซอร์ เสนอทำศัลยกรรมให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยให้เหตุผลว่าเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกันนั้น

927497

วันที่ 7 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยัง ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท บ้านของ ร.ต.ต.สมจิต หมู่แก้ว อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพ่อของฝ่ายสามี เปิดเผยว่า ล่าสุดที่จอย ลูกสะใภ้ ไปทำศัลยกรรมมา ที่คลินิกในจังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 64 ทำ 3 อย่าง คือ เสริมคาง ทำปากกระจับ และเสริมจมูกโดยใช้กระดูกหลังหู ไม่เสียค่าใช้จ่าย อาการตั้งแต่วันแรก หลังจากทำเสร็จแล้วคือพูดไม่ได้เลย เพราะคงมีอาการตึงและเกิดอาการบวมอักเสบตามปกติ เพราะที่ผ่านมาจอยไม่เคยทำศัลยกรรม

510899

แต่ล่าสุดรู้สึกว่าอาการค่อยยังชั่วแล้ว ตนเองมองว่ารู้สึกว่าแปลกตาดี วันพรุ่งนี้คลินิกได้นัดหมายไปทำตาสองชั้นเพิ่ม และตัดไหมจมูกและคาง ส่วนสภาพจิตใจของจอยตอนนี้ รู้สึกว่าดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ปกติทั้งหมด เพราะยังมีเรื่องที่ส่งผลกระทบอีก ล่าสุดก็ทราบว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับคุยกับอดีตสามีเลย

287338

ส่วนส.ต.อ.ศรันญู หมู่แก้ว ลูกชายนั้น ล่าสุดติดต่อได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา มีการพูดคุยทางไลน์กันเท่านั้น และเริ่มไลน์มาสักพัก ช่วงที่ผ่านมาก็ได้คุยกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้คุยกันทุกวัน มีการคุยกับตนเองว่าอยากจะลาออก แต่ตนเองก็แนะนำว่าไม่ใช่ทางออกของปัญหา และให้คิดให้ถี่ถ้วน รวมถึงยังบอกว่าให้กลับมาหาตนเองบ้าง จะได้พูดคุยกัน ลูกชายก็ยังบอกอีกว่าอยากคุยกับลูกสาวคนเล็กด้วย

โดยทราบว่าถูกกักขังทางวินัยที่ สภ.นางลือ เป็นระยะเวลา 30 วัน ซึ่งก็ยังไม่ได้ออกจากราชการ เพราะกักขังตามวินัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่รายละเอียดตนเองไม่ทราบว่าขณะนี้ถูกขังไปกี่วันแล้ว และยังไม่ได้เดินทางไปเยี่ยม เพราะเพิ่งทราบข่าวได้ 3 วันเท่านั้น ตนเองตั้งใจว่าจะเดินทางไปเยี่ยมในวันนี้ แต่ติดภาระเลี้ยงหลาน ตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงลูกอยู่ และอยากไปพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ ส่วนหลาน ๆ นั้น ก็ยังคิดถึงพ่อของเขาทุกวัน

482560

นอกจากนี้ รายละเอียดว่าลูกชายจะไปอยู่กับฝ่ายไหนนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดกัน แล้วก็ยังไม่กล้าถามด้วย เพราะคิดว่ายังอยู่ในช่วงของการให้ตัดสินใจ แต่ถ้าหากตนเองได้เจอหน้า ก็อยากจะบอกว่าก็ให้กลับมาอยู่บ้าน เพราะถ้าหากมีอะไรก็ให้คุยกันด้วยเหตุผล ค่อย ๆ ช่วยกันแก้ปัญหาหาทางออกต่อไปหลังจากนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส