เมื่อช่วงเช้า(11 ก.ค. 61) ที่ผ่านมา ที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต ได้มีการประกอบพิธีเรียกขวัญ ในวันครบรอบ 7 วันในกรณีเหตุเรือล่ม ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวนมาก โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมผู้แทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตเข้าร่วม
สำหรับพิธีนี้ มีพระภิกษุสงฆ์ 9 รูป ทำพิธีทางศาสนาและพิธีการตามความเชื่อ ของชาวจีน ที่เชื่อว่าว่าหลังจากที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตครบ 7 วัน ดวงวิญญาณจะกลับมายังจุดที่เสียชีวิต และมีการสวดส่งดวงวิญญาณให้ไปสู่สุขติ นอกจากนี้ในพิธี ยังมีการเสริมสิริมงคลกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และมีการถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า นอกจากนี้ได้มีการวางดอกไม้ธูปเทียนไว้อาลัยบริเวณโป๊ะท่าเรือเทียบเรืออ่าวฉลองซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจีนที่เสียชีวิตทั้งหมดใช้เป็นจุดลงเรือไปในวันเกิดเหตุ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพใกล้ญาติผู้ตายเนื่องจากทุกคนยังอยู่ในการอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างหนัก
ด้านตัวเลขผู้สูญหายขณะนี้เหลือเพียง 1 ราย และมีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากเรือ และอีก 1 ราย ซึ่งการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ที่ใต้ซากเรือ นี้ เจ้าหน้าที่ทหาร นำโดยนาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นผู้ควบคุมโดยมีทีมประดาน้ำกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ของประเทศจีน หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าร่วม
ก่อนการดำเนินการเจ้าหน้าที่ได้มีการบรรยายภารกิจร่วมกับทีมกู้ภัยของจีนอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เเละเร่งให้ทันกับสภาพอากาศ ที่ค่อนข้างเเปรปรวน โดยนาวาเอกธานินทร์ เปิดเผยว่า ในการทำงานจะใช้ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือไทยเป็นหลัก จะดำลงไปด้วยอุปกรณ์ดำน้ำลึกพิเศษ(SUR FACE) แบบครอบเต็มศีรษะ โดยจะดำลงไป 3 ไดรฟ์ ไดรฟ์ละ 2 คน ใช้เวลาไดร์ฟละ 20 นาที ซึ่งในไดรฟ์เเรกจะดำลงไปเพื่อทำการสำรวจและดูดทรายโดยรอบตัวเรือ ไดรฟ์ที่ 2จะลงไปทำการดูดทรายเพิ่ม และจากนั้นในไดรฟ์ที่ 3 จะให้ ทีมกู้ภัยของจีนลงไปทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยจะนำถุงพลาสติกบรรจุศพลงไปด้วย หากเก็บกู้ได้เเล้ว จะนำมาขึ้นเรือยางส่งต่อให้เรือหลวงหัวหินลำเลียงกลับเข้าฝั่งต่อไป
