เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า รับแจ้งเหตุแม่ลูกรมควันฆ่าตัวตาย เหตุเกิดในหมู่บ้าน ต.บางคล้า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราบางคล้า กำลังช่วยกันงัดรถเก๋ง
ภายในรถมีคนติดอยู่ 3 คน คือ น.ส.โชติกา หรือ สร อายุ 34 ปี แม่เด็ก อยู่ที่เบาะคนขับ, เด็กหญิงเฮ อายุ 6 ขวบ อยู่เบาะข้างคนขับ ชีพจรไม่เต้นแล้ว ส่วนเด็กชายทีม อายุ 2 ขวบ อยู่ที่เบาะหลัง ชีพจรยังเต้นอยู่ แต่เต้นช้ามาก เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวทั้ง 3 ส่งโรงพยาบาลบางคล้า เด็กทั้ง 2 ราย เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบบาล ส่วนแม่เด็กอาการหนัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มทรุดเสียลูก 2 เมียโคม่าหลังรมควันลาโลก สะอื้นคลิปเมียร้องเพลง ก้อง ห้วยไร่ สั่งลา
ล่าสุด ชาวเน็ตช่วยกันหาข้อมูลจนกระทั่งเจอวิดีโอคลิป "หลอกว่ารัก ทิ้งลูกเมียเพื่ออิสระและความสุขของตัวเอง 13 ปีของชีวิตคู่" ในยูทูบ ความยาว 6.29 นาที เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา มีการระบุว่าคลิปนี้อัดไว้ตั้งแต่ตอนโดนหลอกให้หย่าใหม่ ๆ ต้นเดือนมกราคม 2564 ผู้หญิงกล่าวทั้งน้ำตาว่า ฝ่ายชายมาบอกว่าไม่ได้รักเหมือนเดิมมา 1 ปี ที่ผ่านมาแต่งงาน 13 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนปีใหม่ 2564 เริ่มสงสัยพฤติกรรมสามีที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ โลกออนไลน์มีการเผยแพร่จดหมายลาตายของฝ่ายหญิง ระบุว่าแต่งงานกับฝ่ายชายมา 13 ปี เพิ่งจะหย่ากันตอนต้นปีที่ผ่านมา แต่หลังจากหย่ากันความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาก็ไม่ได้จบลง ยังนอนด้วยกันบ่อย ๆ นั้น และมีการกล่าวถึงผู้หญิงอีกคนของสามีชื่อตอง เป็นนักดนตรีที่ทำงานด้วยกัน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุรมควันขึ้น และสามีให้เงินตลอด แต่กลับไม่ได้ให้ตัวเองเลย
วันที่ 1 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่คริสตจักรบางคล้า ที่ตั้งศพของเด็ก 2 คน ภายในอาคารคริสตจักรบางคล้า ได้มีการตั้งโลงศพของเด็กเพียง 1 โลง โดยมีการบรรจุร่างของเด็กทั้ง 2 คนนอนอยู่ด้วยกัน มีการประกอบพิธีตามศาสนาคริสต์ ในช่วงเวลา 19.00 น. ของทุกค่ำคืน และจะมีพิธีฝังศพในวันที่ 2 เม.ย. 64 โดยการฝังศพก็จะไม่มีการแยกเด็กทั้ง 2 ออกจากกัน
นายโต้ง พ่อของเด็ก เปิดเผยว่า เหตุผลที่นำร่างของลูกนอนอยู่ด้วยกัน เพราะว่าเด็กคลอดตามกันมา เป็นพี่น้องกัน จึงอยากให้อยู่ด้วยกัน การจัดงานศพไม่มีฝ่ายญาติของนางสาวสรเดินทางมาแต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้ติดต่อกัน
ส่วนกรณีเรื่องคลิปเสียง หรือจดหมายที่ออกมานั้น ตนเองไม่มีอะไรชี้แจง พูดไปก็ผิดกับผิด ไม่มีใครเข้าใจ สังคมเข้าใจไปแบบนั้นไปแล้ว เชื่อว่าวันข้างหน้าสังคมจะเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมจะมีการสืบสวนและหาสาเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยตนเองจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ให้ฝ่ายหญิงไปต่อสู้หรือชี้แจงในชั้นศาลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ความสัมพันธ์กับนักร้องชื่อตองตามที่ถูกระบุเอาไว้ ตนเองยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าคนร่วมงานกัน การที่ออกมาโพสต์ปกป้อง เพราะต้องการไม่อยากให้เอาคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาวุ่นวายด้วย คนชื่อตองไม่ได้คบหาตน และเขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ส่วนประเด็นที่ถูกระบุว่ามีการบังคับให้หย่าร้าง หรือ ถอนทะเบียนสมรสนั้น ส่วนตัวไม่ชี้แจง เชื่อว่าตัวของนางสาวสรและตนเองรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองไม่สามารถจับมือใครเซ็นในกระดาษใบหย่าได้ ถ้าไม่ได้เกิดจากความสมัครใจ
นางสาวน้ำขิง (นามสมมติ) รุ่นน้องของผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่า จากกรณีจดหมายลาตายที่ถูกโพสต์ล่าสุด โดยเชื่อว่าฝ่ายหญิงมีการตั้งเวลาโพสต์เอาไว้ในเพจเฟซบุ๊กของฝ่ายชาย เนื้อหามีการระบายความในใจเกี่ยวกับบุคคลที่ 3 ที่เข้ามายุ่งกับชีวิตครอบครัว แม้ว่าจะมีการเตือนหรือร้องขอห้ามยุ่งกับฝ่ายชายแล้วก็ตาม ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน นางสาวสร ได้มีการโพสต์ลงในช่องยูทูบของตัวเอง ลักษณะทำนองว่าถูกหลอกไปหย่าร้าง ตอนแรกตนเองก็ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะมีการโพสต์หรือเขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ แต่พอได้อ่านและมาย้อนทบทวน ยอมรับว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง
ก่อนหน้านี้ก่อนที่ตัวเองจะเห็นจดหมาย ได้ฟังความในใจจากนางสาวสร มีการระบายความในใจให้ตัวเองในฐานะรุ่นน้องฟังว่า จับได้ว่าฝ่ายชายกำลังคบหากับนักร้อง ซึ่งนางสาวสรพยายามเข้าไปห้ามปราม และขอร้องให้เลิกยุ่งกับฝ่ายชาย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมเลิกราต่อกัน ยังติดต่อและพูดคุยกัน
ส่วนกรณีการตัดสินใจจบชีวิต พาลูก 2 คน ขึ้นไปอยู่บนรถด้วยนั้น แต่ตัวเองไม่ได้ถึงแก่ความตาย เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจของนางสาวสร เพราะเจ้าตัวค่อนข้างรักลูก ไม่อยากที่จะจากไปเพียงลำพังแล้วทิ้งให้ลูกไม่มีใครดูแล
อีกเหตุผลหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจหย่าร้างกันแล้ว เชื่อว่านางสาวสรคงเกิดความสับสนเกี่ยวกับสถานะความสัมพันธ์ ที่ฝ่ายชายแม้จะเลิกรา แต่ก็ยังแวะเวียนกลับไปนอนที่บ้าน ภายใต้ของการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ก็ยังมีพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้นางสาวสรกังวลใจ และเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่วันนี้แม้ว่าจะมีเรื่องของจดหมายลาตาย ประกอบกับข้อมูลที่ถูกขุดคุ้ยตนเองก็ยังรู้สึกเห็นใจนางสาวสร เพราะการตัดสินใจครั้งนี้คงเป็นเรื่องไม่บังเอิญ แต่เกิดจากความเครียด ส่วนที่ฝ่ายชายกล่าวหาว่าผู้หญิงอาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้น เป็นไปได้ เพราะคนที่มีเรื่อง แต่คุยกับใครไม่ได้อยู่บ้านเพียงลำพังกับลูก 2 คน ทำให้ไม่สามารถระบายหรือพูดคุยกับใครได้
