แฟนหนุ่มร่ำไห้สาวนิติกรจมคลองดับ ยันไม่คิดฆ่าเผยแผนวิวาห์ล่ม ชาวบ้านหลอนศพโผล่จัง ๆ (คลิป)

จากกรณีวันที่ 25 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณข้างสะพานท่ากูบ ภายในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หลังรับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงลอยน้ำภายในคลองท่ากูบ จนกระทั่งพบศพลอยน้ำ

ที่เกิดเหตุพบศพผู้หญิง สวมเสื้อสีขาว กระโปรงสีชมพู ร่างผอม ผิวขาว ผมดำยาว ภายในคลอง มีชาวบ้านได้ลากไว้ริมคลอง ห่างจากสะพานท่ากูบประมาณ 1 กิโลเมตร ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ณัฐชญา แก้วสว่าง หรือ นิด อายุ 31 ปี ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ทะเลาะกับแฟน แล้วเดินหายออกจากดีคอนโดฯไป ก่อนพบกลายเป็นศพจมน้ำ และญาติยังคาใจการเสียชีวิต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวสวยน้อยใจแฟนหายข้ามคืนก่อนพบจมคลอง ญาติเผยพิรุธพาค้นใกล้จุดศพโผล่

วันที่ 26 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังสถานที่สวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิต วัดสามัคคีผดุงพันธ์ ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นางสุเพ็ญ แก้วสว่าง หรือ สุ อายุ 64 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า น.ส.ณัฐชญา ลูกสาวของคน เดิมมีอาชีพรับราชการตำแหน่งนิติกรอยู่ที่ อบต.ศรีบอยา จ.กระบี่ และเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้ลาออกจากราชการ มาทำธุรกิจค้าขายที่ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับแฟนหนุ่ม และได้มีร้านขายส่งสินค้าอุปโภคเป็นของตัวเอง มอบหมายให้ตนดูแล ส่วนลูกสาวก็ไปอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ใกล้จุดพบศพกับแฟนหนุ่ม

กระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 มี.ค. ตนได้รับแจ้งจากแฟนของลูกสาวว่าลูกสาวหายตัวไป ให้ตนมาช่วยตามหาบริเวณใต้สะพานท่ากูบ แจ้งกับตนว่ามีเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อย ปมไปเที่ยวร้านอาหารด้วยกัน และทางแฟนของลูกสาวได้ให้เงินกับเด็กเสิร์ฟ ทำให้ลูกสาวเกิดความไม่พอใจและงอนกันตามประสาหนุ่มสาว ก่อนลูกสาวได้เดินหายไปบนสะพาน

ซึ่งหลังเกิดเรื่องต้นและแฟนของลูกสาวได้ช่วยกันออกตามหาพร้อมทั้งไปแจ้งคนหายไว้ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี แต่ก็ยังไม่พบ กระทั่งวันที่ 25 มี.ค. ครอบครัวจึงตัดสินใจเดินทางไปที่บริเวณจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมทั้งทำการปักธูป ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เปิดทางเพื่อให้ลูกกลับมาเจอคนในครอบครัว เมื่อทำพิธีเสร็จไม่นาน ก็มีชาวบ้านที่เป็นชาวประมงค้นหาปลาบริเวณนั้นแจ้งว่าพบศพลูกลอยมาติดคูน้ำอย่างน่าอัศจรรย์ ครอบครัวจึงประสานเจ้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพลูกส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการชันสูตร แต่จากการตรวจสอบทางแพทย์เบื้องต้นพบว่า ร่างกายของลูกไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย

ขณะนี้ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าลูกจะเป็นคนตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะลูกสาวเป็นคนสู้ชีวิต ะมีความรับผิดชอบมาก หากเป็นไปตามที่แฟนหนุ่มของลูกสาวอ้างว่ามีเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อย ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นสาเหตุ แต่อีกมุมหนึ่งขณะนี้ก็ไม่ได้มีการติดใจแฟนของลูกสาว เนื่องจากเท่าที่เห็นมาตั้งแต่ทั้งคู่คบหาเป็นแฟนกันมานาน 3 ปีรักกันดี ไม่เคยทะเลาะวิวาทกันรุนแรง อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องติดตามคดีการเสียชีวิตของลูกสาวอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุประมาณหนึ่งอาทิตย์ลูกสาวพูดเป็นลางกับตนว่า "ชีวิตคนเราจะอยู่ไปทำไมนาน ๆ เดี๋ยวหนูก็ไม่อยู่แล้ว" ตนถามลูกสาวว่า "แฟนหนุ่มรักลูกสาวไหม" ลูกสาวก็ตอบกลับว่า "รักหรือไม่รักก็ไม่รู้ แต่หนูอยู่ได้" สุดท้ายนี้ ตนอยากให้เคสนี้เป็นเคสอุทาหรณ์เตือนภัยพร้อมทั้งอยากฝากถึงคู่รักหนุ่มสาว ให้ดูแลกันให้ดี ๆ

ทีมข่าวเดินทางไปยังร้านเหล้า ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่มเดินทางมาดื่มกันกับกลุ่มเพื่อนก่อนที่จะเกิดเหตุ การ์ดของทางร้าน เผยว่า คืนวันที่ 23 มี.ค.64 ผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่มได้เดินทางเข้ามาดื่มกินภายในร้านพร้อมกับกลุ่มเพื่อน เวลาประมาณ 22.00 น. ถึงเวลา 03.00 น. ตามกระแสข่าวที่ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันเรื่องให้เงินค่าอาหารเกินราคากับทางร้านนั้น ร้านไม่ทราบ เนื่องจากการสอบถามเด็กเสิร์ฟภายในร้านทราบว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่มเข้ามานั่งดื่มกินภายในร้าน ก็ไม่ได้มีท่าทีผิดปกติ

ทีมข่าวเดินทางไปที่บริเวณร้านอาหาร ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จุดที่มีผู้พบเห็นศพลอยน้ำผ่านมา นายอลงกรณ์ สีมุณี หรือ ปอน 19 ปี พนักงานร้าน เผยว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะนั้นลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านได้พูดขึ้นมาจำนวน 3 ครั้งว่า "มีศพลอยน้ำมา"

ก่อนจะพบศพหญิงสาวดังกล่าวลอยมาตามน้ำจริง ลักษณะลอยอืดคว่ำหน้า สวมเสื้อสีขาว กระโปรงสีชมพู ร่างผอม ผิวขาว ผมดำยาว ทางเจ้าของร้านที่เห็นเหตุการณ์ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าทำการตรวจสอบ

นายจีระพงษ์ ชฎาธร หรือ กั๊ก อายุ 35 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนและผู้เสียชีวิตคบหากันมานาน 3 ปี กระทั่งวันที่ 23 มี.ค.64 ตนพร้อมผู้เสียชีวิต และเพื่อน ๆ ไปร่วมดื่มกินที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ตนกับผู้เสียชีวิตมีปากเสียงกันเล็กน้อย เรื่องที่ตนจ่ายเงินค่าอาหารเกินไป 200-300 บาท ผู้เสียชีวิตคิดว่าตนให้เงินพนักงานในร้านมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้เป็นการทะเลาะกันรุนแรง

กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ตนกับผู้เสียชีวิตเดินทางกลับที่พัก แต่ขณะที่ตนนำรถเข้าจอดพบว่าที่จอดรถเต็ม จึงไปจอดรถริมถนนสาย 417 บริเวณเชิงสะพานท่ากูบที่อยู่ใกล้กัน ผู้เสียชีวิตได้เปิดประตูลงจากรถและเดินขึ้นสะพานไป ตนจึงรีบหาที่จอดรถ
แต่ หันไปมองอีกทีกลับไม่เห็นแฟนสาวแล้ว

ส่วนตัวตนยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแฟนสาว แต่สันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุ แฟนสาวอาจจะเดินไม่ระวังพลัดร่วงลงไปในแม่น้ำ ซึ่งมีอาการมึนเมาจากที่ไปนั่งดื่มกินกันมา จากผลเบื้องต้นทราบว่าสภาพศพของแฟนสาวไม่ได้มีบาดแผลถูกทำร้ายร่างกาย ตนจึงไม่ได้ติดใจในส่วนของฆาตกรรม อีกทั้งมีการพูดคุยกับทางแม่ของแฟนสาวแล้วเพื่อปรับความเข้าใจ แม่ของแฟนสาวก็เข้าใจ สุดท้ายนี้ หากมีโอกาสได้พูดกับแฟนสาว ตนอยากจะบอกว่ารักแฟนมาก ถ้าย้อนเวลากลับไป ตนจะรีบลงจากรถตามแฟนสาวไปให้เร็วกว่านี้ อีกทั้งตนรู้สึกเสียดายเนื่องจากตนกับแฟนสาวคบกันมานาน 3 ปีแล้ว ในปีหน้ามีแผนว่าจะแต่งงานกัน หากไม่ได้แต่งก็จะอาศัยอยู่ด้วยกันเลย และพร้อมมีลูกด้วยกัน แต่กลับต้องมาเกิดเหตุการณ์เศร้าก่อน