จากกรณี น.ส.จิรษา อายุ 21 ปี ลูกสาวของน.ส.จิราวรรณ อายุ 39 ปี ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อว่า น.ส.จิราวรรณ ถูกภรรยาของหนุ่มที่สนิทด้วยมารุมทำร้ายอย่างโหดร้าย จับแก้เปลือยล่อนจ้อน ก่อนรุมทุบตีจนกะโหลกศีรษะร้าว ใช้ไม้กวาดแทงอวัยวะเพศจนอวัยวะภายในฉีกขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งเสียชีวิตแล้วคืนวันที่ 23 มี.ค. 64 ล่าสุดมีการรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลแล้ว แต่ยังไม่มีการฌาปนกิจจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เมียหลวงโชว์ภาพสาวใหญ่นอนกดมือถือ ปัดไม้แทงของลับ ค้นห้องพบเสื้อซุกท่อ - ไม้
- เมียหลวงช็อก! สาวใหญ่ถูกแทงของลับตายจ่อขมาศพ แจงโชว์ภาพโป๊แค่ขอรู้ชื่อ
- สาวถูกแทงของลับทรุด แก๊งเมียหลวงแจงคลิปถือไม้แค่มุมภาพ พยานแฉพลิกลิ้น
- สาวใหญ่โคม่าถูกไม้แทงของลับ ลูกแฉโดนเมียหลวงตี อีกฝ่ายโต้แก้ผ้าช็อกช่วยส่งรพ.
วันที่ 25 มี.ค. 64 เมื่อเวลา 16.10 น. ที่โรงพัก สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช พนักงานสอบสวนเรียกให้ นางแข้ง พร้อมนางสาวจิรนันท์, นางสาวขวัญ และนายชัน ลูกของนางแข้ง ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย คดีอนาจาร และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยทั้ง 4 คนเดินทางมาพร้อมกับญาติ ทนายความส่วนตัว มีสีหน้าเรียบเฉยแต่กังวลเล็กน้อย
ด้านนางแข้ง ภรรยาหลวง ผู้ถูกกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายนางสาวจิราวรรณ เปิดใจว่า เหตุผลที่ตนเองตัดสินใจฉีกเสื้อผ้าของนางสาวจิราวรรณทิ้ง เพราะลูกสาวได้ล้อมและล็อกตัวเอาไว้ ไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายคนเจ็บที่นอนอยู่บนพื้น ด้วยความอารมณ์โกรธแค้น ไม่สามารถทำอะไรได้ หันไปมองกองเสื้อผ้าที่อยู่บนเก้าอี้จึงได้หยิบมาฉีกทิ้งเพื่อระบายอารมณ์ ตอนนั้นไม่ได้เลือกว่าจะฉีกชิ้นไหนก่อน จับมารวมกันทั้งหมดและฉีกพร้อมกัน แต่ยกทรงซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดค่อนข้างเปราะบาง จึงถูกฉีกเสียหายก่อน จากนั้นกางเกงซึ่งมีเนื้อผ้าที่ค่อนข้างบางจึงได้ฉีกออกเป็นชิ้นเป็นรูโบ๋ ก่อนนำไปโยนทิ้งบริเวณท่อระบายน้ำหน้าห้อง เพราะมีเจตนาไม่อยากให้ตื่นขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้าหรือมีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีเจตนาอื่น หรือต้องการนำไปซ่อนอำพรางทางคดี
ส่วนที่ชาวบ้านออกมาให้สัมภาษณ์พูดกันหนาหูลักษณะทำนองว่า ตนเองเป็นคนยอมรับกับชาวบ้านว่าเป็นคนนำไม้ไปแทงอวัยวะเพศนางสาวจิราวรรณ และยังยอมรับกับชาวบ้านว่าเป็นคนตบตีนั้น ขอชี้แจงว่าตนเองเดินทางไปที่ตลาดของหมู่บ้านมีชาวบ้านมารวมตัวกันเยอะ เป็นร้านน้ำชา ตนเองได้ไปสอบถามว่ารู้จักคนในภาพหรือไม่ เพราะต้องการจะบอกว่าตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ได้พูดด้วยอารมณ์โมโห พูดด้วยเสียงที่ดุดันทำนองว่า "ดีนะ ที่ฉันไม่เอาไม้กวาดลุ้ง ๆ อวัยวะเพศของมัน ดีนะ ที่ฉันไม่ได้ตบตีมัน" ซึ่งคำพูดดังกล่าวกลายเป็นสิ่งที่ชาวบ้านนำมาตีความ คิดไปเองว่าคนเจ็บถูกตนเองทำร้ายร่างกาย ขอยืนยันว่าไม่มีการกระทำดังกล่าว เป็นเพียงแค่การพูด และสร้างเรื่องสมมติให้ชาวบ้านฟังเท่านั้น
โดยที่ผ่านมา ตนเองเคยเจอนายไพบูลย์ สามีอยู่ด้วยกันในรถฟอร์จูนเนอร์สีดำกับนางสาวจิราวรรณมาแล้ว 1 ครั้ง แต่จำไม่ได้ว่าช่วงนั้นผ่านไปแล้วกี่เดือน ตนเองออกไปจ่ายตลาดพร้อมกับลูก และพบรถลักษณะคล้ายของสามีตัวเอง ลูกสาวทักขึ้นมาว่า "แม่ มันคือรถเราใช่ไหม" จังหวะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากรถ เดินไปซื้อทุเรียนกับแม่ค้า แต่ไม่เห็นสามีลงมาจากรถ คาดว่านั่งรออยู่ ตนเองจึงได้ลงไปที่ร้านขายทุเรียน พร้อมกับถามว่า "มึงเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมากับสามีของตนเองได้" จากนั้นตนเองก็สังเกตว่าผู้หญิงสวมใส่เสื้อโชว์ไหล่ แขนฝั่งซ้ายมีรูปรอยสักติดอยู่ ตนเองก็ได้พูดจาขอร้องในฐานะภรรยาของนายไพบูลย์ แต่ไม่ได้มีการตบตีหรือทะเลาะวิวาทกัน พร้อมบอกว่า "พี่ขอได้ไหม พี่ยังมีภาระ พี่มีลูกจะต้องดูแล ให้น้องเลิกยุ่งกับสามีพี่เถอะ"
จากนั้น นางสาวจิราวรรณได้เดินเงียบหายไป และเข้าไปภายในห้องน้ำของร้านทุเรียนเพื่อหลบหนี เหตุการณ์ครั้งนั้นตนเองคิดว่าหลังจากที่ได้มีการตักเตือนกันแล้วจะยอมรับฟังและทำตาม แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีกครั้งในรีสอร์ต ตอนที่เปิดห้องเข้าไปครั้งแรก ยืนยันชัดเจนว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เจอร้านทุเรียน เพราะจำรอยสักบริเวณไหล่ซ้ายได้
โดยนางแข้งและลูก ๆ ผู้ถูกกล่าวหา เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แจ้งข้อกล่าวหานางแข้งคือ ทำร้ายผู้อื่น, หมิ่นประมาท, ร่วมกันทำลายทรัพย์สินผู้อื่น และลักทรัพย์ ซิมโทรศัพท์
พร้อมแจ้งข้อหา นางสาวจิรนันท์ คือ หมิ่นประมาท, ร่วมกันทำลายทรัพย์สินผู้อื่น และลักทรัพย์ นางสาวขวัญและนายชัน ถูกแจ้งในข้อหาคือ ร่วมกันทำลายทรัพย์สินผู้อื่น
นางสาวขวัญ อายุ 36 ปี ลูกสาวนางแข้ง ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดใจว่า ตนเองเป็นคนที่พังประตูรีสอร์ตเข้าไป ทำให้กลอนประตูหลุด โดยตอนนั้นน้องสาวและน้องชายตัวเล็กกว่า พยายามเคาะและพังประตูเข้าไปในห้อง แต่เปิดไม่ได้ ตนเองตัวใหญ่กว่าถีบประตูแค่ 1 ครั้ง กลอนด้านในหลุด จึงเข้าไปเห็นสภาพข้างในห้องเป็นคนแรก
ตอนนั้นนางสาวจิราวรรณ คนตายนอนอยู่บนพื้น มีเพียงผ้าขนหนูคลุมอยู่ แต่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ น้ำลายไหล ถามชื่อหมู่บ้านก็ไม่สามารถตอบได้ และช่วงจังหวะชลมุนทำให้แม่วิ่งเข้าไปประชิดตัว ตนเองกับน้อง ๆ จึงพากันห้ามแม่ และจังหวะชลมุนทำให้บางช่วงมีภาพที่ถ่ายติดตอนนางสาวจิราวรรณโป๊เปือย แต่ไม่มีใครเจตนาที่จะถอดเพื่อถ่ายประจาน ตนยืนยันว่าไม่มีใครทำร้ายร่างกาย
ส่วนกรณีที่ญาติคนตายตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพิรุธสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องของรีสอร์ต ผ้าขนหนูถูกสับเปลี่ยน เป็นคนละผืนกับที่ใช้คลุมตั้งแต่แรก สังเกตจากลวดลายการ์ตูน ผ้าขนหนูตัวที่คลุมอยู่บริเวณสะโพกหรือร่องก้น มีรอยคล้ายคราบเลือด เสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดทิ้งลงในท่อระบายน้ำ คล้ายกับโดนจุดไฟเผานั้น ตนขอชี้แจง เรื่องผ้าขนหนูถูกสับเปลี่ยน ในวันดังกล่าวมีผ้าขนหนู 2 ตัว ซึ่งตัวแรกนางสาวจิราวรรณใช้พันตัวอยู่ อีกตัวหนึ่งหล่นอยู่ใกล้ตัว ดังนั้นจึงไม่มีการสับเปลี่ยน
ส่วนบรรยากาศที่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ใช้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางจิราวรรณ คืนแรกหลังจากที่รับศพออกจากโรงพยาบาล มีพิธีสวดอภิธรรมศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางสาวจิรษา หรือ แหวน ลูกสาวคนตาย เปิดใจว่า ตนเองทราบผลความคืบหน้าทางคดีล่าสุดแล้ว ยอมรับว่าค่อนข้างเสียใจ และผิดหวัง ที่ผลปรากฎออกมาเป็นแบบนี้ เชื่อมั่นว่าแม่ของตนเองโดนทำร้ายร่างกาย และยังมีข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องการทำลายเสื้อผ้า การสับเปลี่ยนถ้าขนหนู ร่องรอยที่คาดว่าเป็นเลือด ความชัดเจนยังไม่ปรากฏ ตนเองเตรียมที่จะพาร่างของแม่ไปตรวจชันสูตรเพิ่ม อีกทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของหมิ่นประมาท ร่วมกันทำลายทรัพย์ ลักทรัพย์ เป็นคดีที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจตนาทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายเป็นคนละเรื่องกัน ตนเองอยากให้มอบความเป็นธรรมให้กับครอบครัวในฐานะผู้สูญเสีย
ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า แม่ของตนเองไปยืนโบกรถอยู่บริเวณสี่แยก เพื่อขอติดรถออกไปซื้อยารักษาอาการป่วยนั้น ตนขอยืนยันว่าแม่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบที่ถูกกล่าวหา เพราะวันนี้แม่ตายไปแล้วไม่สามารถพูดอะไรได้ ก็เชื่อว่ามีชาวบ้านหลายคนที่เห็นว่ารถฟอร์จูนเนอร์สีดำมาจอดรอ จะเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้นอย่าโทษความผิดมาที่แม่ของตน ส่วนเรื่องของโรคประจำตัวนั้น ตนเองตอบไม่ได้ว่าระยะหลังแม่มีโรคประจำตัวหรือไม่