ไถเงินพิสดารเสกหนังควายเข้าท้อง สื่อบุกบ้านเจอประวัติแสบเป็นร่างทรงติดคดี (คลิป)

วันที่ 23 มี.ค. 64 น.ส.สุพรรณี สีห์ราช อายุ 47 ปี ชาว ต.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วิชา ศรีมารักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย ว่าถูกคนร้ายอ้างตัวเป็นหมอดู ทักว่ามีเคราะห์ร้าย ต้องโอนเงินทำพิธีสะเดาะเคราะห์เป็นค่าครู

ครั้งแรกเรียกเงิน 59 บาท ต่อมา 399 บาทหรือ 900 บาท และภายหลังขอเพิ่มจำนวน 3,000 บาท อ้างว่าหลังเสร็จพิธีจะโอนคืนทันที แต่ปรากฏว่าผ่านไปข้ามวันไม่มีการโอนเงินคืน และไม่สามารถติดต่อแม่หมอคนดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ยังมีแม่ค้าอีกหลายรายที่โดนหลอกเข้าแจ้งความด้วยเช่นกัน โดยมีคลิปเสียงที่ผู้เสียหายบันทึกไว้ได้

วันที่ 23 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของนางสาวติ๋ม แม่หมอมนตร์ดำ ตามที่อยู่หมู่ 5 ต. สะแบง อ.หนองหาน จ. อุดรธานี ไม่พบตัวของนางสาวติ๋มอาศัยอยู่

นางบุญเลื่อม พี่สะใภ้ของนางสาวติ๋ม เปิดเผยว่า ตนไม่รู้เรื่องที่นางสาวติ๋มไปก่อเหตุที่ จ.ศรีสะเกษมาก่อน เพราะนางสาวติ๋มได้ออกจากบ้านไปพร้อมกับน้องชายตนที่เป็นสามีของเขา ได้ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ก่อนน้านี้นางสาวติ๋มได้สร้างบ้านที่หมู่บ้านของตน 2 หลัง หลังแรกเขาขายต่อให้ตน หลังที่ 2 ขายต่อให้ชาวบ้าน ตอนที่ติ๋มออกจากหมู่บ้านไปนั้น เขาก็บอกกับตนว่าไปทำงานที่ต่างจังหวัด

ตอนที่ติ๋มอยู่บ้าน ตนก็เคยเห็นเขาดูดวงให้ชาวบ้านอยู่บ้าง และติ๋มก็เคยบอกกับตนว่าเขาสามารถทำให้ตนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ จากนั้นเขาได้ให้ตนแต่งขันธ์ 5 พร้อมเงิน 900 บาท ใส่ลงไปในขัน ซึ่งติ๋มอ้างว่าจะเอาเงินจำนวน 900 บาท และขันธ์ 5 ไปทำพิธี 1 วัน จากนั้นจะเอาเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้ตน แต่นางติ๋มก็ไม่เอาเงินที่เขาเอาไปทำพิธีมาคืนให้กับตนแต่อย่างใด ครั้งนั้นตนก็ไม่ติดใจ เพราะเห็นว่าเป็นคนในครอบครัว

ตนยืนยันว่าตนเคยเห็นแต่ติ๋มเป็นหมอดู แต่ไม่เคยเห็นติ๋มไปฉ้อโกงหรือหลอกลวงใคร ส่วนน้องชายตนก็ทำอาชีพก่อสร้าง ตั้งแต่น้องชายและน้องสะใภ้ออกไปจากบ้าน ตนก็ติดต่อพวกเขาทั้ง 2 คนไม่ได้เลย ซึ่งตนไม่รู้ว่าน้องชายตนจะร่วมก่อเหตุกับนางติ๋มหรือไม่ ถ้านางสาวติ๋มไปก่อเหตุตามที่เป็นข่าวจริง ตนก็อยากให้เขามามอบตัว สำหรับนางสาวติ๋ม นิสัยใจคอของเขาก็เหมือนคนปกติทั่วไป และตนอยากให้มารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ ถ้าหากว่าเขาทำผิดจริง

นางวารี แม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ที่มีข่าวว่าลูกสาวไปฉ้อโกงชาวบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ตนยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่อง เพราะนางสาวติ๋มลูกสาวตนเองนั้นไม่ติดต่อกับตนมากว่า 10 ปีแล้ว เขาก็ไม่เคยแม้แต่จะส่งเงินมาให้ตนแม้แต่บาทเดียว ตอนที่ลูกสาวอาศัยอยู่กับตนเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วนั้น ลูกสาวพึ่งเป็นหมอดู รับวิชามาจากสามีของตน ตอนนั้นลูกสาวก็ช่วยเหลือชาวบ้านจากวิชาหมอดู จนชาวบ้านเคารพนับถือ แต่ลูกสาวตนยังไม่มีเรื่องหลอกลวงชาวบ้านเหมือนที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ คิดว่าลูกสาวจะเริ่มก่อเหตุ หลังจากที่เขาออกจากบ้านของตนไปแล้ว

สำหรับนางสาวติ๋ม ตอนที่เขาอยู่กับตน เขาก็มีนิสัยเหมือนคนปกติทั่วไป ตนก็เลี้ยงเขาเป็นอย่างดี ยอมรับว่าเหตุที่เกิดขึ้น ตนตกใจมาก แต่ตนก็ถือว่าเป็นเรื่องของนางสาวติ๋ม เขาอยากหากินด้วยวิธีฉ้อโกงชาวบ้านก็เรื่องของเขา ตนและเขาไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ถ้าผู้เสียหายมาให้ตนรับผิดชอบตนก็จะปฏิเสธ และให้ติ๋มไปรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำไว้