วันที่ 22 มี.ค. 64 เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ บ้านหมู่ 3
ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายสราวุธ ขันเสรี หรือ เตย อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุแทงเด็กปั๊มน้ำมันเสียชีวิต และยิงเพื่อนบ้านขณะนอนอยู่บนเปลจนเสียชีวิตเช่นกัน
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันเอสโซ่ จุดเกิดเหตุบริเวณ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พบว่าปั๊มน้ำมันดังกล่าวเปิดให้บริการกับลูกค้าตามปกติ น.ส.ณัฐพร (นามสมมติ) พนักงานปั๊มเพื่อนผู้เสียชีวิต เผยว่า เด็กปั๊มผู้เสียชีวิตคือ นายศราวุธ นาควิชัย อายุ 39 ปี เป็นพนักงานปั๊มเอสโซ่มานานหลายปี ประจำช่วงกะดึก 18.00-06.00 น.
ปกติผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุ ตน และเพื่อนร่วมงานภายในปั๊มก็ไม่เคยคุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสราวุธ ขันเสรี เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา ขณะผู้เสียชีวิตทำหน้าที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมันตามปกติ ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน ในราคา 40 บาท
เมื่อเติมน้ำมันเสร็จผู้ก่อเหตุ ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน พร้อมถกเสื้อขึ้นให้เห็นอาวุธมีด บอกว่าจะไม่จ่ายเงิน ทางพนักงานปั๊มรวมไปถึงตัวผู้เสียชีวิตเองที่เห็นอาวุธ จึงไม่ได้มีการต่อว่าและปล่อยให้ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกจากปั๊มไป เนื่องจากเห็นว่าเติมน้ำมันเพียงแค่ 40 บาท อีกทั้งมีอาวุธมีดจึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง 20 นาที ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมาที่บริเวณช่องเติมน้ำมันอีกครั้ง ก่อนใช้อาวุธมีดจ่วงแทงเข้าที่บริเวณ ช่วงเอวด้านขวา ของผู้เสียชีวิตโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ผู้เสียชีวิตที่ถูกแทงจึงพยายามวิ่งหนีเข้าไปยังมินิมาร์ตเก่าที่อยู่ภายในปั๊ม แต่ผู้ก่อเหตุก็ได้วิ่งตามไปกระหน่ำแทงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่
ส่วนตัวหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกตกใจ และรับไม่ได้กับการกระทำที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้ก่อเหตุกระทำอุกอาจเกินไป ส่วนตัวตนมองว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถึงได้มีอาการคลั่งมาก่อเหตุฆ่าคน อย่างไรก็ตาม หากตนมีโอกาสได้พูดกับทางผู้ก่อเหตุตนก็อยากจะถามว่า "ทำไปได้ยังไง เกินกว่าเหตุเกินไปไหม" พร้อมทั้งอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้เสียชีวิตต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน สุดท้ายนี้หากมีโอกาสได้พูดกับผู้เสียชีวิตที่เป็นเพื่อนร่วมงานก็อยากจะบอกว่า "ขอให้ไปดี หมดทุกข์หมดโศก ไม่ต้องห่วงอะไร"
นางวิรัตน์ นักรบ อายุ 68 ปี และนายอนุศักดิ์ นักรบ อายุ 31 ปี แม่และน้องชาย พร้อมด้วยญาติของนายศราวุธ เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล
นางวิรัตน์ นักรบ อายุ 68 ปี กล่าวว่า ตนได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 22.00 น. ตนได้บอกให้น้องชายเอาเงินไปให้พี่ชายไว้กินข้าว ทั้งนี้ ลูกชายไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร และเป็นลูกชายคนโต เป็นเสาหลักของครอบครัว และเป็นคนขยัน ซึ่งก็ไม่นึกว่าจะมาถูกคนร้ายแทงตายเช่นนี้ ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ส่วนนายอนุศักดิ์ นักรบ น้องชายผู้ตาย บอกว่า พี่ชายเป็นคนดี กำลังจะซื้อบ้านให้แม่เร็ว ๆ นี้ เมื่อกู้ภัยโทรศัพท์มาบอกว่าพี่ชายถูกแทงตาย ตนก็ยังไม่เชื่อ และขับรถไปดูที่ปั๊มน้ำมันที่พี่ชายทำงานอยู่ ก็จึงรู้ว่าพี่ชายได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนที่คนก่อเหตุเป็นคนเดียวกับที่ไปยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิต ในเขตพื้นที่อำเภอสามโคก และถูกตำรวจจับตัวได้แล้วนั้น ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกโกรธอยู่ว่ามาทำร้ายพี่ชายของตนเองทำไม ซึ่งขณะรับศพแม่ของผู้ตายได้ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ที่วัดบางเตยกลาง อ.สามโคก จ.นครปฐม สถานที่จัดตั้งสวดอภิธรรมศพของพนักปั๊มผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางเมธิดา โนมะยา อายุ 33 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า ปกติผู้เสียชีวิตเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จิตใจดี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งให้คนในครอบครัว หลังเกิดเหตุตนมาทราบข่าวตนก็รู้สึกตกใจ
จากการสอบถามทราบว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามาเติมน้ำมันภายในปั๊มในราคา 40 บาทแต่ไม่มีเงินจ่ายเลยใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาข่มขู่พี่ชายก่อนจะกลับมาทำร้าย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป หากมีโอกาสได้พูดกับทางผู้ก่อเหตุตนก็อยากจะถามว่า "ทำแบบนี้กับพี่ชายของตนทำไม เพียงแค่ค่าเติมน้ำมัน 40 บาท และทำไมต้องย้อนกลับมาใช้อาวุธมีดแทงพี่ชายจนเสียชีวิต" พร้อมทั้งอยากจะให้ผู้ก่อเหตุถูกลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมายถึงที่สุด ส่วนเรื่องค่าเยียวยาอยากจะให้ทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาขอโทษ ขอขมาศพของพี่ชายที่เสียชีวิต แต่เรื่องค่าใช้จ่ายเยียวยานั้น ต้องมาคุยกันอีกครั้งในภายหลังว่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง หลังจากเสร็จสิ้นงานสวดอภิธรรมศพ