กรณีตำรวจสภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รถพ่วง 22 ล้อพลิกคว่ำ เหตุเกิดบนถนนสายหัวถนนท่านช่วย–ชะรัด ท้องที่บ้านหนองหม้าว หมู่ที่ 9 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพบร่างของนางสมจิตร ขวัญเพชร อายุ 65 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ในสภาพมีหินคลุกถมร่างตั้งแต่หน้าอกลงไป ขณะที่ศีรษะมีเสาไฟฟ้าริมทางล้มทับอยู่ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานของผู้ตายขาดเป็น 2 ท่อน มีหินคลุกถมอยู่เช่นกัน
ห่างออกไปทางทิศใต้ของศพ ประมาณ 15 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ สภาพใหม่ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนพ่วงพลิกตะแคงอยู่บนถนนหินคลุกกระจายเต็มที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบว่ามีนายวินัย ทองนวลจันทร์ อายุ 34 ปี ชาว ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นคนขับ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นางสมจิตร ผู้ตาย ได้นำมีดกรีดยาง จำนวน 2 ด้าม มาจ้างให้เพื่อนบ้านลับให้ ก่อนจูงรถจักรยานเดินขึ้นถนนสายดังกล่าว เพื่อกลับบ้านพักเป็นช่วงจังหวะที่รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ขับมาทางเส้นทางดังกล่าวด้วยความเร็ว
แต่เกิดเสียหลักส่วนพ่วงท้ายพลิกคว่ำเทกระจาดหินคลุกถมร่างของนางสมจิตร และส่วนพ่วงยังไปฟาดกับเสาไฟฟ้าและป้ายบอกทางล้มระเนระนาด ล้มทับศีรษะของนางสมจิตร เสียชีวิตทันที่ในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวนายวินัย คนขับรถพ่วงไปตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกายว่ามีหรือไม่ และเบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต พบว่าทางญาติ มาให้กำลังใจครอบครัว น.ส.ปริศนา ขวัญเพชร ลูกสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ตอนนี้ครอบครัวยังเสียใจอยู่ ที่ผ่านมาแม่เป็นคนอารมณ์ดี ชอบพูดคุยหยอกล้อกับลูก ๆ หลังจากนี้ก็คงจะดูแลพ่อต่อไป ตนไม่คิดว่าแม่จะมาจากไปเร็วแบบนี้ ก่อนที่แม่จะออกจากบ้านบอกว่าจะเอามีดไปลับก่อน ไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายที่ตนได้คุยกับแม่
สำหรับคนขับรถพ่วง จนถึงขณะนี้ยังไม่ติดต่อเข้ามา ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ก็ปล่อยให้ตำรวจดำเนินการ ขณะที่เวลา 17.00 น. ญาตินำศพผู้เสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดร่มเมือง บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายสมคิด ขวัญเพชร สามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนและภรรยาออกไปกรีดยางเวลา 02.00 น. ด้วยกันทุกวัน ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย ตอนนั้นตนอยู่ที่บ้าน กระทั่งมีคนไปตามที่บ้านว่าภรรยาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ และเห็นภรรยาเสียชีวิตแล้ว
หลังเกิดเหตุ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ทางรถคู่กรณียังไม่มีการติต่อเข้ามาเจรจาเรื่องการเยียวยา และชดใช้ต่าง ๆ ตอนนี้ทางครอบครัวตนก็รออยู่ว่าจะเข้ามาเจรจาเมื่อไร ซึ่งหากคนขับรถจะเข้ามาขอขมาศพก็อนุญาติให้มา เพราะภรรยาจะได้ไปสงบ ทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจ คิดว่าเป็นเรื่องอุัติเหตุ
