ป๋าเทพ โพธิ์งาม หวนทำหนังอีกครั้งในรอบ 18 ปี ลั่นเขียนบทเองควบกำกับ!

16 มี.ค. 64

แทบจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตา ป๋าเทพ โพธิ์งาม โลดแล่นในจอสักเท่าไหร่ เพราะคาดว่าคงจะไปทุ่มเทให้กับธุรกิจส่วนตัวอย่าง ขนมเปี๊ยะ แต่ล่าสุดเหมือนว่า ปีนี้ป๋าเทพ จะหันมาเอาจริงเอาจังกับงานในวงการบันเทิงแล้ว

เนื่องจากวันนี้ (16 มีนาคม 2564) ป๋าเทพ โพธิ์งาม ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เตรียมนั่งแท่นผู้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง หลังจากเรื่องล่าสุดที่ทำไว้คือ ดึก ดำ ดึ๋ย เมื่อปี 2546 โดยคราวนี้มีนายทุนนำเงินมาให้ 10 ล้านบาท ตนก็คิดแล้วว่าจะทำเป็นแนว บู๊ๆ หน่อย แล้วก็มีดราม่าผสม ซึ่งตนก็ไม่ได้คาดหวังให้หนังทำรายได้เป็นร้อยล้าน เพราะทำหนังก็เหมือนซื้อลอตเตอรี่ คิดดูว่าจะไปรู้ได้ไงคนชอบแนวไหน เหมือนเพลง บางคนทำออกมาเพลงเดียวหากินได้ทั้งชีวิต โดยป๋าทิ้งท้ายว่า ถ้ามันฟลุ๊กได้กำไรก็ถือว่าแปลก ถ้ามันไม่ฟลุ๊กแล้วเจ๊งอย่างเก่าก็ถือว่าปกติไป

ปีนี้จะได้เห็นป๋าในจอมากขึ้นไหม
“ไม่ค่อยได้มาแล้วหล่ะ แต่เดี๋ยวจะมีโปรเจ็กต์หนัง ที่ป๋ามากำกับ จะเปิดกล้องต้นเดือนหน้า มีคนเขาลงทุนให้ ป๋ากำกับและก็เขียนบทเอง ไม่ว่าเรื่องไหนป๋าเขียนเองอยู่แล้ว ถ้าทำเองต้องเขียนเอง”

ห่างหายไปกี่ปี
“จริงๆ ก็ไม่ได้กำกับหรอก อย่างดึกดำดึ๋ย เขาก็ถามว่าทำเป็นหรือเปล่า ก็บอกไปว่าทำไม่เป็น (หัวเราะ) แต่ก็หลายปีอยู่นะ ก็เสียดายหนังไม่ได้ทำเงินเท่าไหร่ ได้ 15 ล้านมั้ง ลงทุนไป 8-9 ล้านเอง แต่ว่ามันไม่ได้อะไร เหมือนหนังเสมอตัว”

ทำไมเขากล้าลงทุนให้
“ก็ไม่รู้ เขาตามประวัติป๋ามั่ง เขาก็เลยอยากจะมาช่วยป๋า เขาถามอยากทำอะไร ก็บอกอยากทำหนัง ก็เอาสิลองดู เขาก็เลยเอา ลองดู มีหลายหุ้น”

ลงทุนเท่าไหร่
“เดี๋ยวนี้ก็ 10 กว่าล้าน ถามว่าเป็นหนังแนวไหน เป็นหนังบู๊ ๆ หน่อย มีดราม่าผสม เป็นเรื่องของหลาย ๆ ชีวิตอยู่ในเรื่องนี้ เราส่วนมากทำแนวอารมณ์เอาพวกเน็ตไอดอลที่มีคนติดตามพวกนี้”

ลงทุน 10 ล้าน ต้องคาดหวังถึง 100 ล้านไหม
“10 กว่าล้าน ขอสัก 8-9 ล้านก็ถือว่าพอใจแล้ว จะมากะอะไร 100 ล้าน (หัวเราะ) ถ้ามันจะขาดทุนมันก็ขาดทุน ถ้ามันจะได้มันก็ได้ อะไรจะไปบังคับมันได้หล่ะ”

ไม่ได้คาดหวัง
“หนังนะ เหมือนซื้อลอตเตอรี่ใช่ไหม รางวัลที่ 1 คิดดูว่าจะไปรู้ได้ไงคนชอบแนวไหน เหมือนเพลง ทำออกมาเพลงเดียวหากินได้ทั้งชีวิต แต่นี่ถ้ามันจะมีอีกไหมที่เป็นแบบนี้ มันก็ต้องค้นหากัน แต่ส่วนมากก็ฟลุ๊กนะ ศิลปินบ้านเราส่วนมากออกไปทางฟลุ๊ก”

ป๋าจะฟลุ๊กไหม
“ถ้ามันฟลุ๊กก็ถือว่าแปลก ถ้ามันไม่ฟลุ๊ก แล้วเจ๊งอย่างเก่าก็ถือว่าปกติไป”

พระเอก นางเอกเป็นใครมาแสดง
“แทบจะไม่มีเลย เป็นหนังรวม ๆ กัน เป็นพวกเน็ตไอดอลที่ด่า ๆ กันมั่ง”

ไม่กลัวที่จะลงทุน
“ป๋าจะไปกลัวอะไร ไม่ใช่ทุนป๋า”

พูดให้นายถุนใจชื้นหน่อย
“จะทำแล้วเราก็ต้องตั้งใจ”

กับธุรกิจขนมเปี๊ยะ
“ก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ก็ทำ ๆ ไปก่อน เป็นสูตรที่เราคิดเองก็ไม่ได้เสียไปไหน อยู่ทำไปให้ลูกให้หลานทำ แต่ทุกวันนี้ก็ยังขายได้อยู่ แต่ไม่ได้มากเท่าไหร่”

โควิด 2 รอบเลย
“ใช่ อีกอย่างหนึ่งป๋าอยู่แต่ในไร่ ในป่าในดง คนเข้าไปแต่ละทีเขาก็ปวดหัว ยอดขายลดลงอยู่แล้ว สินค้าทุกอย่าง ขนมเปี๊ยะเคยได้ 2 หมื่น เดี๋ยวนี้ 2-3 พันได้ ประมาณนั้น”

แต่ก็ไม่คิดจะทิ้งใช่ไหม
“ไม่คิดหรอก ส่วนหนึ่งยังพออาศัยเป็นค่าน้ำ ค่าไฟได้ เราไม่ทิ้งแน่ของเราคิดมาแล้ว ลูกหลานก็สานต่อได้ อยู่วงการนี้ถ้าเป็นง่อยแดก จบเลยนะ ป๋าคิดแล้วว่าต้องไปก่อน ไปเพื่อสานงานของเราบ้าง กับลูกหลาน กับครอบครัว ถ้าเราบ้าอยู่ตรงนี้เป็นอะไรขึ้นมาลูกหลานจบเลยนะ ลูกหลานทำไม่ได้ ถ้างั้นเราทำอะไรได้ที่ให้ทุกคนต่อยอดได้”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส