กรณีนายละม่อม บุญเสือ หรือ โอ๋ อายุ 59 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ว่าได้ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจาก นายโกศล แซ่โค้ว หรือ เหน่ง พ่อค้าแผงลอตเตอรี่ที่ตั้งอยู่ภายในวัดสว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี หนึ่งในนั้นมีหมายเลข 835538 งวดประจำวันที่ 1 มี.ค.64 จำนวน 2 ใบ เป็นรางวัลที่ 1 ซึ่งหลังทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้พยายามเดินทางไปหาพ่อค้า แต่ไม่มีเบอร์ จึงเดินทางไปหาที่แผงขาย แต่ไม่พบตัวพ่อค้า แม้สืบทราบเบอร์ติดต่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค.64 นายละม่อม พร้อมด้วยพยานคนสำคัญที่เห็นหวย คือนายธงธนะชัย ชุนใช้ หรือ ลุงคม อายุ 53 ปี เข้าให้การต่อตำรวจ สภ.นครชัยศรี
นายละม่อม เปิดเผยว่า ก่อนจะไปซื้อหวยกับนายเหน่ง พ่อค้าเจ้าประจำ ไว้ใจกันได้เสมอ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.64 โดยในช่วงเช้าไปช่วยหลวงพ่อวัดสว่างอารมณ์ ดูแลตรงศาลไอ้ไข่ ต่อมาเวลา 16.00 น. ตนว่างจึงเดินไปซื้อหวยกับนายเหน่ง ตอนแรกได้เลือกหวยไว้ 4 ใบ พร้อมจ่ายเงินไป 400 บาท ปรากฏเห็น 2 ใบ เลขแปลกเหมือนที่เห็นในทีวีออกข่าวตู้วัคซีน จึงหยิบหวยชุดคู่ 2 ใบ ดึงออกจากแผง พร้อมบอกกับนายเหน่งว่าเอา 2 ใบนี้ด้วย แต่ฝากไว้ก่อนเพราะเงินไม่พอ
ทั้งนี้นายละม่อม ได้สาธิตการซื้อลอตเตอรี่ให้ดูว่า มีการดึงลอตเตอรี่ 2 ใบจากแผงนายเหน่งด้วยมือ ก่อนส่งให้นายเหน่ง พร้อมบอกว่าฝากไว้ก่อน ซึ่งนายเหน่ง ก็รับลอตเตอรี่ดังกล่าวไว้ และผับตรงหัวกระดาษเลขชุดเขียนชื่อตนว่า “พี่โอ๋” ก่อนใส่กระเป๋า
กระทั่งวันที่ 1 มี.ค.64 ตนไปทำงานที่วัดแต่เช้า และจะไปเอาหวยที่ซื้อไว้ โดยเตรียมเงินจะไปจ่ายนายเหน่งหวยด้วย แต่ไปถึงก็ไม่เจอ ช่วงบ่ายสองเดินทางกลับไปลุ้นหวยที่บ้าน ซึ่งพอหวยรู้ว่าถูกหวยก็กลับไปหานายเหน่งที่วัดอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบ
ในวันที่ 2 มี.ค.64 คนที่วัดช่วยตามหานายเหน่ง ต่อเนื่องถึงวันที่ 6 มี.ค.64 จนทราบว่านายเหน่ง อาศัยอยู่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สามพรา จ.นครปฐม จึงรีบเดินทางไป ซึ่งก็พบเพียงนายเขียว พี่ชายของนายเหน่ง ออกมาบอกว่า นายเหน่งไม่อยู่ ไปหาน้องสาวแล้ว จึงเดินทางกลับ
ทั้งนี้ในวันที่ 7 มี.ค.64 ให้ลูกชายไปที่บ้านพักของนายเหน่ง อีกครั้ง แต่ลูกชายบอกว่า มีเพียงญาติเท่านั้นที่ออกมารับหน้าแทน พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอไว้ตลอดเวลา และถามกลับมาว่าลูกชายตนจะไปขู่กรรโชกทรัพย์ ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.64 ได้ผู้ใหญ่คนหนึ่งช่วยเจรจาให้ และได้พบนายเหน่ง แต่นายเหน่ง ยืนยันว่าไม่มีหวยของตนที่ถูกรางวัลที่ 1 ตนเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจแจ้งความ
นอกจากนี้นายละม่อม ได้เดินทางไปที่วัดสว่างอารมณ์ เดินทางไปจุดธูปต่อหน้าศาลไอ้ไข่ ยันยืนลอตเตอรี่มีจริง ถูกรางวัลที่ 1 ขอให้นายเหน่งรีบเจรจา และไม่ต้องการเอาเรื่องเอาความ ขอให้ไอ้ไข่ช่วยลูก เพราะไอ้ไข่รู้ดีว่าลอตเตอรี่เป็นของใคร พร้อมบนบานว่า หากทุกอย่างจบ สำเร็จตามที่ขอ จะแก้บนด้วยประทัด 200,000 นัด, หมูหัน 1 ตัว และไก่ 9 ตัว
ด้านนายโกศล พ่อค้าแผงลอตเตอรี่ พร้อมด้วยนายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ ทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมต้นขั่วหวย นายโกศล ยืนยันว่านายโอ๋ ซื้อหวยกับตน 2 รอบ คือเมื่อวันที่ 27 ก.พ.64 รวม 4 ชุด จ่ายเงินให้ตน 800 บาท และวันที่ 28 ก.พ.64 ซื้ออีก 1 ชุด จ่ายเงินให้ตน 200 บาท ไม่มีการซื้อหวยแล้วยังไม่ได้เงิน และฝากไว้กับตนแต่อย่างใด ซึ่งก็จำเลขไม่ได้เพราะซื้อแล้วเอาไปเลย
ส่วนวันที่ 1 มี.ค.64 ตนไม่ได้ไปไหน เพราะหวยยังเหลือเต็มแผง ซึ่งก็จะต้องขับรถเวียนขายด้านนอก ไม่เช่นนั้นหวยที่เหลือก็จะไม่หมด และปกติในวันที่ 1 ก็ไม่เข้าไปขายหวยอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังมีเรื่องของชาวเมียนมาอยู่ จึงเคลียร์เคสนี้ให้จบ ซึ่งเพิ่งจบไปเมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ซึ่งหลังจากนั้นก็รู้สึกเครียดจึงเก็บตัว เพราะเป็นเรื่อง เป็นข่าว และไม่สะบายใจ
ทั้งนี้การที่นายโอ๋ อ้างว่าตนเขียนชื่อไว้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะแม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก ตนรู้ว่าเป็นช่างก่อสร้างในวัด ก็มักจะเรียกแต่ว่า “ป๋า ๆ” ขณะเดียวกันวันที่เคลียร์กัน นายละม่อมก็ยังจำเลขที่ซื้อไม่ได้เลย รวมทั้งวันที่ 9 มี.ค.64 ที่ให้ผู้ใหญ่ไปเคลียร์ ก็จะขอแบ่งคนละครึ่ง ซึ่งมันมีจริง และจะให้ตนทำอย่างไรเพราะลอตเตอรี่มันไม่มีเลขดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม วิธีการขายหวยที่ลูกค้าจอง ตนก็เก็บไว้ คนไหนรู้จักชื่อก็เขียนชื่อ แบ่งเป็นส่วน และมัดรวมกัน พร้อมยืนยันวันที่ 27 ก.พ.64 ลูกค้าที่จองก็มาเอาลอตเตอรี่ปกติ นอกจากนี้นายละม่อม จะนัดสาบานก็พร้อม และหากแจ้งความตนก็พร้อมแจ้งความกลับ เพราะตนยึดความจริง และลอตเตอรี่ที่กล่าวอ้างมาไม่มีอยู่จริง
นายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ ทนายความ ยืนยันว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 มีแค่ของแรงงานเมียนมา เพราะเป็นหวยใบเดียว 1 ใบ โดยในแผงของนายเหน่ง ไม่มีหวยชุดที่ถูกรางวัล ซึ่งยืนยันตามภาพถ่ายหวยในแผงของนายเหน่ง ที่เป็นหวยชุดซึ่งไม่มีเลขรางวัลวันที่ 1 เลย นอกจากนี้หากยืนยันแบบนี้ แล้วอีกฝั่งไม่เข้าใจหรือไม่ยอม ก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทั้งคู่ได้มานั่งเจรจากันแต่ไม่เป็นผล โดยเมื่อนายละม่อม มาถึงก็ได้กล่าวตำหนิต่อว่านายโกศล “ให้ถอดแว่น เพราะใส่แว่นเหมือนปิดความชั่ว” พร้อมยืนยันว่า ดึงลอตเตอรี่ 2 ชุด 4 ใบ จ่ายไป 400 บาท ส่วนอีก 2 ใบเจ้าปัญหาดึงไว้ต่างหาก และฝากนายโกศลไว้ แต่นายโกศล ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
