ผู้กองฯ อภัยครอบครัวหัวร้อนผลักอกล้มกลางแยก คนระอาบ้านนี้ไม่มีใครอยากคบ (คลิป)

15 มี.ค. 64

กรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Version 2 by kim" โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่บริเวณย่านเจริญกรุง กระทั่งพบมีรถจักรยานยนต์ที่ซ้อนมาด้วยกัน 3 คน คาดว่าน่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด ทำให้หญิงที่ซ้อนท้ายไม่พอใจ จึงเกิดเหตุผลักอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งล้มลงไปริมทางเท้า ขณะเดียวกันชาย 2 คน ได้ลงจากรถจักรยานยนต์ด่าทอ และผลักอก

446201

ทราบชื่อผู้ขับขี่ นายชิตธวัช ทองรอด อายุ 48 ปี ผู้โดยสารน.ส.สุกัญญา ปานอ่อน อายุ 42 ปี และนายจิตรกร ทองรอด อายุ 23 ปี ส่วนนายตำรวจที่ถูกผลักทราบชื่อ ร.ต.อ.อาทิตย์ (สงวนนามสกุล) รอง.สว.(จร) สน.บางรัก กรุงเทพฯ

ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบริเวณบ้านพักหลังหนึ่ง พื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของครอบครัวดังกล่าวที่ปรากฏในคลิป พบว่าเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น สภาพเหมือนบ้านร้าง รั้วประตูบ้านมีกุญแจล็อกจากข้างใน นอกจากนี้นอกรั้วประตูมีรถจักรยานยนต์สีแดง-ดำ จอดอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ของนายจิตรกร

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับป้าแอ๊ว (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนไม่ทราบ เพิ่งทราบขณะที่ผู้สื่อข่าวนำคลิปวิดีโอให้ดู ยอมรับว่าสงสารเจ้าหน้าที่ตำรวจ

701705

สำหรับครอบครัวดังกล่าว มาพักอาศัยอยู่บ้านหลังนี้นานแล้ว แต่ช่วงปีที่ผ่านมาทางนายชิตธวัช และน.ส.สุกัญญา ได้หนีออกจากบ้านไป แต่ตัวนายจิตรกร ยังคงพักอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งจะเก็บตัวเงียบ จะออกจากบ้านช่วงกลางคืน ครอบครัวนี้ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวด้วย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าพฤติกรรมของครอบครัวนี้ไม่เหมาะสม ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับครอบครัวนี้ให้ถึงที่สุด

263565

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปยังสน.บางรัก ได้พูดคุยกับพ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้เรียกร.ต.อ.อาทิตย์ มาสอบถาม ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสื่อสารกันคลาดเคลื่อน เป็นเหตุทำให้กระทบกระทั่งกับประชาชน ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ย่านวัดม่วงแค

โดยขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ พบว่ามีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ซ้อนกันมา 3 คน พร้อมทั้งไม่สวมหมวกกันน็อก 2 คน และเมื่อตรวจสอบเบื้องต้น รถจักรยานยนต์ไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า และมีความผิดทางจราจร จึงได้พยายามเรียกจอด เพื่อตักเตือนพูดคุย เมื่อคู่กรณีได้หยุดรถ อ้างว่ามีธุระ พร้อมกับมีท่าทีอารมณ์เสีย จึงเกิดความไม่พอใจที่ร.ต.อ.อาทิตย์ เรียกตรวจ กระทั่งเกิดเหตุตามที่คลิปวิดีโอ

ภายหลังพนักงานสอบถามให้สองฝ่ายมาพูดคุย โดยทั้งสองฝ่ายไม่ได้ติดใจเอาความ จึงไม่มีได้มีคดีความกัน และทางพนักงานสอบถามให้คู่กรณีลงบันทึกประจำวันเอาไว้ นอกจากนี้เจ้าพนักงานไม่ได้ปรับคู่กรณี ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกซ้อน 3 และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เนื่องจากลดการกระทบกระทั่งกัน จากที่ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันแล้วก็ให้แยกย้ายกันไป

804712

สำหรับลักษณะนิสัยของ ร.ต.อ.อาทิตย์ เป็นที่นับถือของเพื่อนร่วมงาน นิสัยดี อัธยาศัยดี ไม่มีนิสัยที่เกเรหรือก้าวร้าว ต้องชื่นชมที่ผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถระงับอารมณ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก อยากจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระงับอารมณ์ และหากเหตุการณ์บานปลายไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ให้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่า ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้บั่นทอนจิตใจ หรือย่อท้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ เพราะพวกตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลประชาชน

ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม ร.ต.อ.อาทิตย์ เบื้องต้นระบุว่า ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เนื่องจากตนกำลังเกษียณราชการในปีหน้า จึงไม่อยากให้มีเรื่องยุ่งยากและเป็นข่าวเกิดขึ้น

185755

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวถึงครอบครัวหัวร้อนที่ผลักอก ตำรวจจราจรจนล้มทั้งยืนว่า เข้าข่ายมีความผิด 5 ข้อหา แยกเป็น พ.ร.บ.จราจรฯ 1.ไม่สวมหมวกนิรภัย 2.ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 ปรับข้อหาละไม่เกิน 500 บาท

976566

ส่วนประมวลกฎหมายอาญา 1.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส