หนุ่มขโมย จยย.ไม่เอาผิดผู้มีพระคุณรุมกระทืบ ญาติระอาไม่รักดีปล่อยติดคุก (คลิป)

11 มี.ค. 64

กรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Version 2 by kim" โพสต์ข้อความระบุว่า "เหรียญต่างมุมมอง โหดไปไหม มันร่วงไปนอนกับพื้น ยังทั้งลากทั้งกระทืบ ไม่รู้นะว่ามันเห้...ขนาดไหน แต่อย่างไรควรแค่คุมตัวและรีบนำส่งหรือรอตำรวจดีกว่าไหม ระวังข้อ กม.ทำร้ายร่างกายกลับมานะ จากโพสต้นเรื่องเหมือนรถมอไซค์หาย เหตุเกิดแถวอินทามระ 44 ทราบชื่อผู้ต้อง คือ นายคำพา หมื่นขันธ์"

340038

ล่าสุดวันที่ 11 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดกับนายธีรพัฒน์ เจ้าของรถ กล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนได้ถามนายคำพาว่า "มาลักขโมยรถไปทำไม" จากนั้นมีเจ้าของรถตามมาสมทบอีก กระทั่งพบว่ามีผู้เสียหาย จำนวน 3 คนที่ถูกนายคำพา ลักขโมยรถไป 

ทั้งนี้ในเวลานั้นตนเห็นว่าพวกเขาอยู่ในอาการที่โมโห จึงปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายของนายคำพาด้วยการเตะต่อย ขณะเดียวกันนายคำพา อยู่ในอาการที่เมาขาดสติ อ้างว่าเห็นรถจักรยานยนต์ของตนมานานแล้วจึงอยากได้

642013

ขณะที่นายคำพา ถูกรุมกระทืบ ตนก็ได้เข้าไปร่วมด้วย เพราะขณะนั้นไม่มีใครฟังใคร เป็นช่วงชุลมุนวุ่นวาย เพราะมีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาระงับเหตุ ภายหลังจากเกิดเหตุตนก็ไม่ได้สอบถามว่าทางนายคำพาว่าได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณไหนบ้าง

180739

โดยก่อนที่จะเกิดเหตุชกต่อยกันนั้น รถของตนได้หายไป คาดว่าคนร้ายน่ามาขโมยในช่วง 02.00 น. ของวานนี้ (10 มี.ค.64) ซึ่งจอดอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้าน เมื่อเวลา 05.00 น. ออกมาจากภายในบ้านก็ไม่พบเห็นรถ กระทั่งพบว่านายคำพา เป็นคนขโมยรถไป สำหรับตนแล้วนายคำพาเป็นคนคุ้นเคยกัน จะแวะไปแวะมา ซึ่งเขาประกอบอาชีพทำสีรถ ดื่มสุราทั้งวัน

ส่วนการกระทำดังกล่าวรุนแรงไปหรือไม่ ตนยอมรับว่าจริง ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุตนไปอ่านข้อความที่โซเชียลได้คอมเมนต์ บางคนก็บอกว่าสมควร และบางคนบอกว่าไม่สมควร ซึ่งซอยในบ้านของตนต่างก็จอดรถทิ้งไว้ ไม่เคยหาย

376558

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิเชียร์ ใจคุ้มเก่า อายุ 52 ปี ญาติของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า สำหรับตนแล้วได้ตัดขาดกับนายคำพา เนื่องจากเขาเสเพล ไม่เอาการเอางาน ชอบดื่มสุรา ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยวานนี้ (10 มี.ค.64) ช่วงเช้าพนักงานในร้านเล่าให้ตนฟังว่า รถของเพื่อนหาย ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมาตนได้ไปทานข้าวเมื่อเวลา 12.00 น. ทางเจ้าของร้านได้บอกกับตนว่า นายคำพา (ผู้ต้องหา) กลับมาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งตนก็ยังไม่พบเจอ

กระทั่งช่วงบ่ายในวันเดียวกันเจ้าของรถได้นำตัวนายคำพา (ผู้ต้องหา) มาที่เกิดเหตุ ตรงกันข้ามกับที่ตนทำงาน จากนั้นนายคำพา ถูกรุมกระทืบตนก็เห็น ยอมรับว่าตกใจ แต่ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากเอื้อมระอา ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเขาขโมยรถไปไว้ที่ไหน เพราะเขาเร่ร่อน แต่สาเหตุนั้นตนคาดว่าน่าจะนำรถไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ภายหลังจากเกิดเหตุ ตนก็ยังไม่ได้พูดคุยและไปเยี่ยมนายคำพา

587278

นายวิเชียร์ เผยต่อว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวพ่อตาของตน ได้รับนายคำพา นำมาเลี้ยงดูตั้งแต่อายุ 2 ปี ซึ่งเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ให้เรียนหนังสือ แต่ก็เรียนไม่จบ จบเพียงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทำตัวเกเรสูบบุหรี่ ดื่มสุรา กระทั่งต้องออกจากโรงเรียน ต่อมาพ่อตาของตน ฝากให้ตนพานายคำพา มาอยู่กรุงเทพฯ โดยเป็นช่างทำสีรถ จากนั้นอายุ 18 ปี เขาเริ่มเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นอกจากนี้ เขายังเป็นทหารเกณฑ์ เมื่อปลดประจำการมา ยังกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และหายไปประมาณ 4-5 ปี ตนทราบมาจากครอบครัวว่าเขากลับไปอยู่บ้านนอก ทางญาติที่อยู่บ้านนอกก็ไม่มีใครเอา เนื่องจากเขาชอบขู่จะเผาบ้าน เผารถ สร้างแต่ปัญหา จึงไล่ออกจากบ้านมา ไม่มีใครติดต่อเขาได้อีก

ขณะเดียวกันนายคำพา ได้โผล่กลับมาหาตนอีกครั้ง เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว โดยขอมาทำงานอีกครั้ง ตนเห็นใจก็เลยไปพูดคุยกับเจ้าของกิจการให้เขาเข้ามาทำงาน ถึงแม้ว่าตนจะคอยช่วยเหลือแต่นายคำพากลับดื่มสุราทุกวันทุกเวลา ไม่เอาการเอางาน โดยนายคำพา เล่าให้ตนฟังว่าช่วงเวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกจับกุมที่ จ.บึงกาฬ ส่วนจะเป็นคดีอะไรนั้นเขาไม่ได้บอก และตนก็ไม่ได้สอบถาม

832280

อย่างไรก็ตาม ตนสั่งสอนนายคำพา มาตลอด จนไม่รู้ว่าจะสั่งสอนอย่างไรแล้ว และเมื่อเทศกาลปีใหม่เขาได้เบิกเงินเจ้าของร้านไป 4,000 บาท อ้างว่าจะกลับบ้านนอก สุดท้ายนำเงินก้อนดังกล่าวไปใช้จ่ายจนหมดตัว พร้อมทั้งหยุดงานอีก 1 สัปดาห์ จากนั้น 2 วันต่อมาเหมารถแท็กซี่ไปหาตนที่คลองสาม เพื่อขอเงิน 1,000 บาท ตนก็เอาให้ และขอให้ใช้จ่ายอย่างประหยัด และให้กลับไปทำงาน

ทั้งนี้ ตนก็คงจะไม่ไปประกันตัวนายคำพา (ผู้ต้องหา) ปล่อยให้เป็นแล้วแต่เวรแต่กรรม และรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป สุดท้ายขอไม่พูดหรือสั่งสอนอะไรแล้ว

170443

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร เบื้องต้นภายหลังจากที่มีการรุมกระทืบผู้ต้องหา ตำรวจได้เข้าไประงับเหตุ กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาที่ถูกทำร้ายร่างกายไปขโมยรถเพื่อนบ้าน จำนวน 2 คัน ขณะเดียวกันผู้เสียหาย 2 คนไม่ได้เข้ามาแจ้งความ แต่ผู้ต้องหาก็มีความผิดตามกฎหมายอาญา

โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนกรณีที่ถูกทำร้ายร่างกายทางตำรวจก็ให้ความเป็นธรรม พาตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายแล้ว แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้ร้องทุกข์ว่าเขาถูกทำร้ายร่างกาย ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์หรือลักของโจร และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลาอาญารัชดา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส