เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 64 เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.วิรุฬห์ กลางคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายธนากร ดวงราช หรือ ฟาม อายุ 21 ปี นักษึกษา ปวส. สาขาวิชาเทคนิคการผลิตเครื่องมือกล วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านร้างกลางทุ่งนา ตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 80 เมตร ใกล้รีสอร์ต กม.13 ถนนวารินฯ-เดช บ้านศรีไค ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
โดยบ้านร้างหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว ถูกปล่อยรกร้างมานานหลายปี มีต้นหญ้าและต้นไม้ขึ้นรกร้าง ตัวบ้านไม่มีประตูบ้านและหน้าต่าง เมื่อเดินผ่านห้องโถงจะพบห้องนอนฝั่งซ้ายและขวา 2 ห้อง ถัดไปเป็นห้องน้ำ ห้องนอนด้านขวาพบศพใส่เสื้อยืด สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวลายดำทางยาว สวมกางเกงขาสั้นลายสกอต มีเสื้อกันหนาวสีเทาตกอยู่ข้างศพ นอนตะแคงพิงผนังบ้าน ขึ้นอืดเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็น มีคราบเลือดจำนวนมากเปรอะเปื้อน บริเวณปลายเท้ามีผ้าห่มเก่า 1 ผืน
บริเวณศีรษะของศพพบกระเป๋าสะพาย 1 ใบ เปิดออกดูมีไฟแช็ก 3 อัน ซองบุหรี่ 1 ซอง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ 1 พวง กระเป๋าใส่เงินสด 1 ใบ ภายในมีเงินปลีกจำนวนหนึ่ง และเอกสารประจำตัวระบุตัวตน
ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ มีเลือดติดอยู่ตามฝาผนังบ้าน และพื้นบ้านหลายจุด ตามร่างกายบริเวณชายโครง โหนกแก้ม ใบหน้า และแขน มีร่องรอยการถูกของมีคมทำร้าย ส่วนที่ท้องมีรอยคล้ายรูกระสุนปืนขนาดใหญ่จำนวน 1 รู คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
นอกจากนี้บริเวณห้องโถงด้านนอกพบขวดน้ำอัดลมสีแดง ขวดน้ำเปล่า และเหล้าขาวขวดเล็กอย่างละ 1 ขวด ขวดน้ำและเหล้าขาวถูกเปิดออก มีน้ำหายไปปริมาณคอขวด นอกจากนี้ ยังพบแก้วพลาสติกใส่ดินใช้ปักธูปเทียน ใกล้กันยังพบธูป 1 กำ พร้อมกับไฟแช็กลักษณะใหม่ทิ้งไว้ 1 อัน คล้ายมีการทำพิธีสะกดวิญญาณหรือไม่
อีกทั้งยังตรวจพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีขาวทอง หมายเลขทะเบียน 1กก-8118 อุบลราชธานี จอดอยู่ห่างจากบ้านร้างประมาณ 20 เมตร มีหมวกกันน็อกสีแดงแขวนไว้ที่กระจกมองหลัง 1 ใบ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายหายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.40 น. ของวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. พร้อมกับรถจักรยานยนต์คันที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะที่ช่วงเย็นของวันที่ 9 มี.ค. นางจันทร์เพ็ญ ดวงราช อายุ 63 ปี ย่าของผู้ตายพร้อมญาติ ๆ เดินทางมาติดต่อขอดูศพผู้ตายที่นิติเวช โรงพยาบาลสรรรพสิทธิประสงค์ และขอรับศพนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดวารินทราราม เทศบาลเมืองวารินชำราบ โดยยืนยันว่าเป็นผู้ตายที่หายตัวออกจากบ้าน
โดยก่อนหน้านั้นมีเพื่อนโทรศัพท์บอกให้ออกไปพบที่ตลาดแม่กิมเตียง เทศบาลเมืองวารินชำราบ ผู้ตายได้บอกว่าจะกลับบ้านในเวลา 21.00 น. แต่ก็ไม่กลับ ครอบครัวพยายามโทรศัพท์ไปหาหลายครั้ง ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบเป็นศพถูกฆาตกรรมในบ้านร้าง
ล่าสุด กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.วารินชำราบ ได้เข้าจับกุมตัว นายภานุพงศ์ วงศรีพรม หรือ ฟลุ๊ก อายุ 20 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านวัด ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ เพื่อนที่เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถม ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งบริเวณหน้ามหาวิทยาลัย ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ในฐานะผู้ต้องสงสัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลเมืองวารินชำราบ นายภานุพงศ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายธนากร เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนกัน ยืมเงิน 40,000 บาท แล้วไม่ใช้คืน
ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำวันที่ 6 มี.ค. นัดให้นายธนากร ผู้ตาย มาพบที่ร้านเกมหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อทวงถามเงินที่ยืมไป จากนั้นได้พานายธนากรไปที่บ้านร้าง ใช้มีดที่เตรียมมาแทงผู้ตายหลายครั้งจนเสียชีวิต ก่อนจะนำมีดที่ใช้เป็นอาวุธโยนทิ้งลงในบ่อน้ำ ส่วนขวดน้ำแดง น้ำเปล่า และเหล้าขาว พร้อมธูปและเทียนที่นำมาจุดไหว้บริเวณหน้าห้องที่พบศพนั้น มีมาก่อนที่จะลวงนายธนากรมาฆ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากนั้น เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ก่อเหตุเดินทางมายังบ้านร้างที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบบาดแผลบนศพผู้ตายอย่างละเอียด พบว่าถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมบริเวณแขนซ้าย ชายโครงซ้าย ลำคอซ้าย โหนกแก้ม ประมาณ 20 แผล ลึก 1-3 นิ้ว บางแห่งถูกจุดตาย ทั้งที่ปอด หน้าอก เส้นเลือดใหญ่ เป็นลักษณะที่คนลงมือค่อนข้างมีความแค้นกับผู้ตาย ส่วนช่วงเวลาการเสียชีวิต คือก่อนเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. ผู้ตายออกไปพบคนร้าย เพราะมีเศษอาหารที่ผู้ตายกินตอนเย็น ยังหลงเหลืออยู่ในกระเพาะอาหาร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ตายเรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งระดับชั้น ปวส. ปี 2 เป็นเหรัญญิกเก็บเงินกีฬาสีได้เงินมาประมาณ 70,000 บาท จากนั้นได้นำเงินส่วนหนึ่งไปเล่นการพนันบาคาร่าออนไลน์ เสียเงินไป 40,000 บาท จึงได้ขอยืมเงินจากนายภานุพงศ์ แต่ยังไม่ได้คืนเงิน จึงเป็นชนวนเหตุให้มีการทวงถามและถูกเพื่อนแทงจนเสียชีวิต รวมถึงผู้ตายยังได้ติดต่อไปหาพ่อ ซึ่งทำงานเป็นพ่อครัวร้านอาหารในต่างประเทศ เพื่อขอเงินอีก 200,000 บาท แต่ผู้เป็นพ่อยังไม่ทันได้ส่งเงินมาให้ ผู้ตายกลับถูกฆาตกรรมเสียก่อน
ล่าสุด วันที่ 10 มี.ค. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมายังบ้านร้างที่พบศพผู้ตาย พบว่าบ้านร้างดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่งนา ลีกเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 80 เมตร ไม่มีไฟส่งสว่าง มีหญ้าและต้นไม้ขึ้นรกทึบ ภายในตัวบ้านไม่มีประตูและหน้าต่าง ทีมข่าวยังคงพบคราบเลือดกองใหญ่และรอยเลือดตามกำแพง
ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากบ้านร้างให้ข้อมูลว่า บ้านร้างดังกล่าวแต่เดิมผู้รับเหมาจะสร้างเป็นโครงการหมู่บ้าน เมื่อประมาณ 8-9 ปีก่อน แต่ต้องระงับโครงการไปตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีมีใครได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทและเสียงปืน บ้านร้างดังกล่าวชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็นที่มั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ไม่เคยมีใครจับได้คาหนังคาเขา
ด้านนายสังวาล วงศรีพรม อายุ 55 ปี พ่อของผู้ต้องหา เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.วารินชำราบ เปิดใจว่า ตนเจอกับลูกชายครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ในช่วงเที่ยง ลูกชายไม่มีพิรุธที่บ่งบอกว่าได้ก่อเหตุฆ่าเพื่อนวัยเด็ก จากนั้นลูกชายก็ได้รับสายโทรศัพท์แล้วออกจากบ้านไป กระทั่งเมื่อคืนวานนี้ลูกชายถูกจับกุมตัวนำตัวมาสอบสวน ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตนต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อครอบครัว เนื่องจากภรรยาของตนเสียใจมาก ร้องไห้อยู่ตลอดหลังทราบข่าว
ส่วนตัว ตนไม่อยากจะเชื่อว่าลูกชายจะก่อเหตุเช่นนี้ได้ เพราะปกติลูกชายก็อาศัยอยู่ที่บ้าน ไม่ได้เรียนหรือทำงาน หยุดเรียนไปตั้งแต่จบมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 เคยทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ไม่ได้ทำแล้ว บางครั้งก็ออกไปหาเพื่อน ดื่มเหล้า สูบบุรี่ แต่ไม่เคยใช้ยาเสพติด อีกทั้งผู้ตายก็เป็นเพื่อนตั้งแต่เรียนชั้นประถม ตนจึงยิ่งคิดไม่ออกว่าอะไรที่ทำให้ลูกชายของตนก่อเหตุได้ ขณะนี้ตนก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกชาย จึงไม่รู้เหตุมากนัก และตนก็ไม่สามารถตอบได้ว่าลูกชายชายตนมีความเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่
ทั้งนี้ ตนต้องปรึกษากับครอบครัวก่อนว่าจะเดินทางไปร่วมงานศพผู้ตายและกล่าวขอโทษครอบครัวผู้ตายอย่างไร อีกทั้งตนยังต้องปรึกษากับครอบครัวเกี่ยวกับการประกันตัวลูกชายด้วย เนื่องจากการประกันตัวต้องใช้เงินจำนวนมาก หากปรึกษากันแล้วว่าลูกชายของตนทำจริงและผิดจริง ลูกชายของตนก็ควรได้รับโทษในสิ่งที่ทำ
ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดมาจากร้านเกม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเรียกผู้ตายออกมาพบ หน้าร้านเกมสามารถจับภาพของผู้ต้องหาได้ในเวลาประมาณ 19.22 น. ซึ่งผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์มาหาผู้ต้องหา จากนั้นทั้งคู่ก็ได้นั่งคุยกันประมาณ 7 นาที ก่อนจะลุกไปที่รถยานยนต์ที่จอดอยู่ แล้วขับซ้อนท้ายกันออกไป โดยผู้ตายเป็นคนขับ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ผู้ตายยอมเดินทางไปบ้านร้างกับผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาบอกกับผู้ตายว่า ต้องการจะคุยปัญหาเรื่องเงินในที่เงียบ ๆ ผู้ตายซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการพนันออนไลน์กับผู้ต้องหา ก็ไว้ใจยอมเดินทางไปด้วยโดยดี จากนั้นเมื่อผู้ต้องหาและผู้ตายตกลงปัญหากันไม่ได้ ทั้งคู่ก็ได้มีปากเสียงกัน ผู้ตายได้ใช้มือบีบคอผู้ต้องหา ผู้ต้องหาจึงหยิบมือพกปักลงที่บริเวณคอของผู้ตาย ก่อนจะใช้มีดทำร้ายผู้ตายอีกหลายแผลจนถึงแก่ความตาย แล้วหนีออกจากที่เกิดเหตุ
นางนิจ (นามสมมติ) ชาวบ้าน บอกว่า บ้านร้างที่เกิดเหตุ แต่เดิมเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน เจ้าของต้องการสร้างเป็นบ้านจัดสรร แต่ด้วยทุนที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องล้มเลิกโครงการไป ปัจจุบันไม่ทราบแน่ชัดว่าบ้านร้างดังกล่าวขายทอดตลาดหรือเปลี่ยนเจ้าของไปกี่มือแล้ว โดยลักษณะของบ้านร้างที่ตั้งอยู่ในทุ่งนา มีหญ้าและต้นไม้ปกคลุม ทำให้บ้านร้างดั้งกล่าวกลายเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของวัยรุ่นในพื้นที่ แต่เหตุเสียชีวิตเพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ ของเซ่นไหว้ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น ชาวบ้านยืนยันได้ว่ามีมาก่อนที่ผู้ตายจะถูกฆาตกรรมในบ้านร้าง เนื่องจากถนนหน้าบ้านร้างเป็นถนนใหญ่ 4 เลน ทำให้รถยนต์สัญจรค่อนข้างที่จะขับด้วยความเร็ว เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งบ้านร้างดังกล่าวไม่มีผู้ดูแล บางครั้งก็เกิดไฟไหม้จากหญ้าแห้ง หรือบางครั้งก็ฟ้าฝ่า ทำให้ชาวบ้านนำของเซ่นไหว้ไปไหว้ดวงวิญญาณเร่ร่อนเพื่อทำบุญให้ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ชาวบ้านต่างหวาดกลัวว่าในอนาคตจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นอีก ตนจึงวอนขอหน่อยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการพื้นที่บริเวณบ้านร้างดังกล่าว เช่น ติดไฟ ตัดหญ้า หรือติดป้ายห้ามเข้า เพื่อกันการมั่วสุมและเหตุร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านบรรยากาศที่วัดวารินทราราม สถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เต็มไปด้วยครอบครัวและชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมงาน กำหนดการพิธีฌาปนกิจศพจากเดิมที่จะจัดในวันที่ 12 มี.ค. จะเปลี่ยนเป็นฝังหลอกในวันอาทิตย์ที่ 14 มี.ค. เป็นการแก้เคล็ดการตายโหง ตามความเชื่อคนอีสานและเผาในวันเดียวกัน
นางจันทร์เพ็ญ ดวงราช อายุ 63 ปี ย่าของผู้ตาย บอกว่า ตนเลี้ยงหลานชายมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เนื่องจากพ่อแม่ของหลานชายแยกทางกัน หลานชายได้หายตัวออกจากบ้านไปในช่วงค่ำของวันที่ 6 มี.ค. เวลาประมาณ 19.10 น. มีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกให้ออกไปพบที่ตลาดแม่กิมเตียง ในเทศบาลเมืองวารินชำราบ ซึ่งผู้ตายได้บอกว่าจะกลับบ้านในเวลา 21.00 น. แต่ไม่กลับมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาบอกให้ตนไปยืนยันศพที่โรงพยาบาลในวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งตนถึงกลับเข่าอ่อน แต่ขณะนี้ตนพอทำใจได้บ้างแล้ว
ขณะนี้หลานชายยังไม่มาเข้าฝันคนในครอบครัว อีกทั้งตนยังไม่ได้นอน นอนไม่หลับตั้งแต่เกิดเหตุ ปกติหลานชายเป็นคนดี ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ใช้ยาเสพติด มีดื่มสุราบ้างตามประสาวัยรุ่น เวลาว่างจะนั่งดีดกีต้าร์ร้องเพลงหรือออกไปตกปลากับเพื่อน ส่วนการเล่นพนันออนไลน์นั้นตนไม่ทราบ หลานชายอาจจะติดพนันหรืออาจจะลองเล่นเพียงเล็กน้อยก็ได้ แต่ทั้งนี้เงินทองรวมถึงทรัพย์สินภายในบ้านไม่เคยสูญหาย โดยตนจะให้เงินหลานชายใช้สัปดาห์ละ 1,000 บาท หลานชายก็ไม่เคยขอเงินเพิ่ม
ส่วนประเด็นที่บอกว่าหลานชายยืมเงินพ่อ 200,000 บาท ตนขอชี้แจงว่าหลานชายไม่ได้ยืมเงิน เนื่องจากพ่อของหลานชายทำงานอยู่ภายในร้านอาหารประเทศสิงคโปร์ ส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวเดือนละ 10,000-20,000 บาท ซึ่งตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับยืนยันกับพ่อเขาแล้ว ส่วนเงินกีฬาสีจำนวน 70,000 บาท ตนได้สอบถามเพื่อน ๆ ของหลายชายที่เดินทางมาแสดงความอาลัยที่วัดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทราบว่าหลานชายเป็นผู้เก็บเงินค่ากีฬาสีไปจริง ทั้งนี้ ตนก็อยากจะให้คนร้ายมาขอขมาศพหลานชาย และชดใช้ชดเชยค่าเสียหายค่าทำศพให้กับตน อย่างไรก็ตาม ตนก็คิดว่าการฆาตกรรมหลานชายตนเป็นสิ่งโหดร้าย ตนก็ได้ถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปว่า "โทษมีแค่ติดคุกกับตายใช่ไหม" ซึ่งตนก็ขอให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษสูงสุด
ขณะเดียวกัน ในเฟซบุ๊กของนายภานุพงศ์ วงศรีพรม หรือ ฟลุ๊ก อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุ พบว่ามีการแชร์เนื้อหาของเพจพนันออนไลน์ ในวันที่ 25 ส.ค. 63 อีกทั้งเจ้าตัวยังมีการโพสต์ภาพแบงก์ 1,000 บาทหลายใบในสตอรี่เฟซบุ๊กอีกด้วย ล่าสุด มีการโพสต์ขายโทรศัพท์มือถือด้วยนั้น