จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุพบศพชายไทย 3 คน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในป่าหญ้าร้าง ซอยลิงเก่า ม.5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุด้านหลังกอหญ้าที่ขึ้นสูงกว่า 2 เมตร พบศพกลุ่มวัยรุ่นชายไทยจำนวน 3 คน ยังเป็นเยาวชน อายุ 13-18 ปี ทราบชื่อนามสมมติคือ นายคิว นายป๋อง และนายออม นอนกองรวมกันอยู่ และพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดในที่เกิดเหตุ และพบรอยมีการถูกเผาด้วยนั้น
วันที่ 8 มี.ค. 64 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพร้อมทีมสืบสวนสอบสวน โดยจุดเกิดเหตุเป็นป่าอยู่ห่างจากถนนภายในหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร ลักษณะเป็นต้นธูปและหญ้าที่ขึ้นรกปกคลุมพื้นที่
ห่างออกมาจากจุดที่พบศพประมาณ 100 เมตร พบมีการนำผ้ามาผูกกับต้นไม้ลักษณะเป็นเพิงพัก ซึ่งคาดว่าเป็นที่พักอาศัยของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน
พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า วันนี้มาสำรวจพื้นที่ในช่วงกลางวัน หลังตรวจสอบไปแล้วในช่วงกลางคืน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ซึ่งเดิมมีรายงานว่าพบตะกร้าที่มีอุปกรณ์เสพยาเสพติดอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าน่าจะเป็นจุดที่เยาวชนใช้เป็นที่หลบมุม และน่าจะเป็นจุดที่ผู้เสียชีวิตมารวมตัวเป็นประจำเพราะเจอหมอนในที่เกิดเหตุด้วย
ส่วนเบื้องต้นประเด็นที่วางไว้มีเรื่องยาเสพติด และต้องสอบประเด็นอื่นเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะรู้เส้นทางชำนาญพื้นที่ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าผู้เสียชีวิตมักจะลักสายไฟตามโรงงานนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายไม่ได้เข้ามาแจ้งความ แต่ก็เป็นอีกประเด็นที่อยู่ในแนวทางสืบสวน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสมพงษ์ อดีตสมาชิก อบต. ซึ่งเคยเป็นเจ้าของโรงงาน ได้ยินเสียงงัดแงะในโรงงานเพื่อขโมยสายไฟ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม ผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 คน สามารถจับได้ 2 คน เหลืออีก 3 คน คาดว่าน่าจะเป็นผู้ตายที่หนีไปได้ ขณะที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้
ด.ช.กาย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้พบศพ เล่าว่า เมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. ตนพร้อมเพื่อนรวม 8 คนตั้งใจไปเล่นน้ำที่บริเวณคลองใกล้จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อเดินเข้าไปมีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าเจอคนนอนอยู่ ด้วยความกลัวพวกตนจึงรีบวิ่งหนี
แต่เมื่อตั้งสติได้ ก็เดินกลับมาดูพบว่ามีชายรุ่นนอนแน่นิ่งอยู่ 3 คน บริเวณศีรษะมีเลือด คาดว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นตนจึงรีบไปบอกผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่จึงแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยตนรู้จักนายคิว ทราบว่าเจ้าตัวชอบไปมั่วสุมเสพยาเสพติดกับเพื่อน ๆ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนเจอนายคิวครั้งล่าสุดตั้งแต่เดือนที่แล้ว
นางน้อย (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้จุดที่พบศพ เล่าว่า ตนเคยเห็นผู้ตายเข้าออกจุดเกิดเหตุ ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. เห็นนายป๋องเดินเข้าไปในป่าในจุดพบศพ หลังจากนั้นช่วงสายพบนายออมเดินตามเข้าไป โดยไม่ได้พูดอะไรกับตน
ทั้งนี้ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเห็นผู้ตายทั้ง 3 คน และนายใหญ่ ซึ่งเป็นเพื่อน เข้าออกบริเวณจุดที่พบศพเป็นประจำ แต่ไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไร ก่อนเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงปืนหรือเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ มองว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงเกินไป เพราะทั้ง 3 คนยังเด็กเกินไป
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านเอื้ออาทร อีกจุดที่เดินไปยังจุดเกิดเหตุได้ ต้องเดินตามแนวป่าในระยะประมาณ 300 เมตร สอบถามนายจันทร์ นาสุริวงค์ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านเอื้ออาทร เล่าว่า ก่อนหน้านี้นายป๋อง เคยเข้ามาอยู่ในบ้านเอื้ออาทรกับกลุ่มเพื่อนรวมประมาณ 4 คน ซึ่งไม่มีนายคิว กับนายออม โดยนายป๋องมักจะอาศัยในห้องที่ไม่มีเจ้าของ รวมถึงขโมยสายไฟภายในห้องไปขาย และแอบขโมยของในห้องผู้อื่น ตนเคยจับได้ 1 ครั้ง จึงเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวออกไป แต่ไม่นานก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา เพราะยังเป็นเด็ก ซึ่งตนและลูกบ้านก็เอือมระอา จนต้องสั่งห้ามเข้ามาภายในบ้านเอื้ออาทรเด็ดขาด เพราะกังวลว่าจะมาขโมยสายไฟอีก
เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายใหญ่ เพื่อนผู้ตายมาชี้จุดเผาสายไฟใกล้จุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่เกี่ยวเรื่องการเสียชีวิตของทั้ง 3 ศพ แต่เป็นคดีขโมยสายไฟเท่านั้น ทีมข่าวพยายามสอบถามนายใหญ่ ยอมรับว่ารู้จักผู้ตาย แต่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
