ลาล่า อาร์สยาม ไม่ท้อกับคำบูลลี่ ชีวิตนี้กลัวที่สุดคือความตาย

8 มี.ค. 64

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ถูกบูลลี่มาเป็นเวลานาน สำหรับ ลาล่า อาร์สยาม แต่เธอก็ไม่เคยท้อ พลิกเอาคำบูลลี่เหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดัน พร้อมทำให้เห็นว่าสิ่งที่โดนว่าต่างๆ คือฉันทำได้และดีด้วย เมื่อได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ลาล่าได้ระบายความในใจที่อยู่ภายใตแรงกดดันนี้มาโดยตลอดว่ากี่ครั้งที่ล้มเธอ ก็พร้อมจะลุกขึ้นสู้ แต่สิ่งหนึ่งในชีวิตเลยที่เธอกลัวมากเป็นที่สุดคือความตาย พร้อมสารภาพที่ผ่านมาตัวเองใช้ชีวิตอย่างประมาทมากในเรื่องการใช้เงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปา กิ่งกาญจน์ เปลี่ยนลุคเซ็กซี่สุดปัง มาพร้อมซิงเกิ้ลใหม่ แลงพูง (แพง)
- ตำนานปอบหยิบ หน่อย ณัฐนี ไขข้อข้องใจแฟน บ้านผีปอบ ทำไมต้องหนีลงโอ่ง
- "อรชร เชิญยิ้ม" เคยกินยาหวังลาโลก หลังโดนนางเอกลิเกทิ้งไปแต่งงาน
- "แมว จิรศักดิ์" ขอเคลียร์!! หลังมีกระแสทิ้งบัลลังก์ร็อก ขึ้นแท่นผู้บริหารค่ายเพลง
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี 

s__69935334

ถาม ช่วงนี้หุ่นเป๊ะมาก

ลาล่า : ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกแรงบูลลี่มากจริงๆ เพราะมันทำให้เรามีพลังสู้กับน้ำหนัก ก่อนหน้านี้น้ำหนัก 65 กิโล ก็อ้วนนะคะ เพราะว่าเวลาอ้วนจะออกแขน ออกขา เวลาใส่เสื้อผ้ามันทำให้เราดูตัวใหญ่มาก ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 49 กิโลค่ะ


ถาม ต้องพูดกันตรงๆ เลยว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเราคือแย่

ลาล่า : ถือว่าแย่หนักมาก แย่ดับเบิ้ลตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ที่เจอโควิดเขาเรียกว่าสภาวะช็อกกระทันหัน เราไม่ได้ตั้งตัวว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ งานทุกอย่างก็หายไปหมด พอตั้งสติได้ มีเพื่อนๆ พี่ น้อง มีกำลังใจตั้งสติสู้ใหม่ งานก็ค่อยๆ กลับมา เพราะเรากำลังตั้งตัวลงทุนทำโน้นนี่ พอเราลงทุนไป มาเจอโควิดรอบนี้เข้าไปคือน้องสาวของเราที่อยู่ฝรั่งเศส ก็ไม่สามารถส่งเงินมาช่วยทางบ้านได้ น้องสาวก็มีปัญหาด้วยทางโน้น แล้วด้วยงานเราก็มีปัญหา ราจะทำธุรกิจปลาร้าด้วย เราแพลนไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งปลาร้าเราทำไปแล้วก็จริง แต่ยอดขายยังไม่พุ่ง เราก็อยากได้ยอดขายเยอะๆ เขาก็ให้ยิงโฆษณา ทำนั่น ทำนี่ ทุกอย่าง มันคือการลงทุนไปหมดเลย แต่ด้วยการลงทุนมันอยู่บนพื้นฐานของคำว่าเสี่ยง มันก็ไม่ได้ยอดตามที่เราต้องการ ด้วยเศรษฐกิจ คนก็ทำเยอะ การต่อสู้ก็เยอะขึ้นไปอีก หนักขึ้นไปอีก ด้วยเราก็ไม่ได้เก่งเรื่องธุรกิจเลย เราก็เลยทำยังไงดี ทุกอย่างมันไปในพริบตาเลย สิ่งที่เราได้รับกลับมาคือมันหนักมาก เราไม่รู้ว่าเราต้องไปปรึกษาใคร เพราะปัญหาของเรามันคือเงิน ภาระหนี้มันเริ่มเยอะขึ้น ซึ่งหนี้มันไม่ได้หยุดให้เราเลย แต่งานของเรามันหายไปหมด ในแต่ละวัน แต่ละเดือน เราก็ต้องมีค่าใช้จ่ายออกไป ถ้าสมมติว่าเราเดินไปหาใคร พี่อ้วนคะ ขอยืมเงินหน่อยค่ะ ก็ไม่ได้เพราะว่าทุกคนต้องใช้เงินกันหมดเลย


ถาม ต้องถามตรงๆ เลย ที่ผ่านมาเป็นคนที่งานเยอะมาก เราใช้ชีวิตประมาทเหรอ ถึงไม่มีเงินเก็บ

ลาล่า ใช้ชีวิตประมาท ใช้ชีวิตด้วยการคิดเร็ว เพราะสิ่งที่ลาล่ารับผิดชอบมันมหาศาล ดูแลทุกคนที่อยู่ในบ้าน คิดน้อยเพราะอยากรวยในระยะสั้น เจออะไรก็ลงทุน ใครพูดอะไรก็ขอลงทุนด้วย จนมาเห็นอีกครั้งคือมันไปหมดแล้ว มันไม่ได้กำไรหรืออะไรกลับคืนมาเลย เราลงทุนแล้วคิดว่าถ้าได้ก้อนนี้เราจะสบาย แต่มันไม่ใช่เลย พลิกล็อคหมดเลย มันเป็นการดีไซน์ชีวิตของตัวเองที่ผิดมาก เลือกทางเดินให้ชีวิตตัวเองที่ผิดมากๆ

s__69935327

ถาม ที่ว่าไม่กล้าหยิบยืมใคร แต่ก็ขายสมบัติของตัวเองทิ้งจริงหรือไม่

ลาล่า : จริงค่ะ อย่างที่บอกคือถ้าเราไปยืมเงินคนอื่น เราก็ไม่สามารถการันตีว่าพรุ่งนี้เราจะมีงานหรือเปล่า แล้วถ้าเราไปบอกเขาว่ายืมแล้วจะคืนวันนี้นะ ถ้ามันไม่มี จะเป็นยังไง สุดท้ายเมื่ออยู่กับตัวเอง แล้วมานั่งคิด สมบัติก็คือสมบัติ มันก็คือของที่ซื้อมาขายไปได้ วันนี้เราแค่ขายเขาออกไปก่อน เพื่อสร้างตัวสร้างอนาคต เราอาจจะหาเขาได้มหาศาลมากกว่านี้ก็ได้ ล่าคิดแบบนี้นะคะ เพราะตราบใดที่เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น เพราะเราเป็นคนในสื่อ การทำงานของเรามันอาจจะมีความเร็วในการได้งานมากกว่าคนอื่น อีกอย่างคือล่า ยังมีลมหายใจ มีสมอง มีเพื่อนๆ ที่ดี มีกำลังที่ดี ตอนนี้พยายามคิดบวกกับตัวเองให้มากที่สุด เราก็คิดว่าอะไรที่เป็นภาระ ตัดออกก่อนให้หมดเลยดีกว่า เรายืนไม่ได้แล้ว นอนตื่นขึ้นมาเศร้า แล้วก็ทุกข์ พรุ่งนี้ต้องทำยังไง เราพยายามตัดความทุกข์ แล้วก็ตัดความลำบากของตัวเองออกไปมากที่สุด


ถาม ณ วันนี้ เราเห็นลาล่ามานั่งพูดแบบนี้ด้วยพลัง ที่ผ่านมาแบบร้องไห้ไหม

ลาล่า : ร้องไห้ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีร้องไห้ เราก็ปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็ไม่อยากเชื่อว่าเราเป็น เพราะว่าเราเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แต่มันมีช่วงหลังๆ ที่เราตื่นขึ้นมา รู้สึกสะอื้นข้างในกับตัวเอง เรายังถามตัวเองเลยว่าเราฝันร้ายหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้ฝันอะไร น้ำตาของเรามันตกใน ภาพที่มันเกิดขึ้นกับเรากำลังนอนอยู่ในรถ ปกติของลาล่า-ลูลู่ หรือโปงลางสะออน เรามีภาพแฟนๆ อยู่ข้างล่างเวทีตลอด เราทำงานทุกวัน มีละคร ตื่นเช้าตั้งแต่ตีห้า มีหลายๆ อย่างที่เราต้องทำ แต่ ณ วันนี้ ตื่นขึ้นมาแล้วมันเหงา เราแบบเราอยู่ที่ไหนแล้วทำไมเราตื่นมา เราอยู่ที่เดิมมันไม่มีอะไรทำเลย เราต้องทำอะไร ทุกคนก็แนะนำว่าให้เราอยู่กับธรรมะ นั่งสมาธิ แต่ตอนนั้นเราอยู่กับธรรมะ นั่งสมาธิอะไรไม่ได้เลย เราคุมจิตตัวเองว่าเราต้องหาอะไรทำ มันก็กลายเป็นนั่งดูธุรกิจต่างๆ ว่ามันอยู่ได้ยังไง เขาทำอะไรถึงทำมาค้าขายกันได้ในยุคนี้ โดยที่เราไม่ต้องออกจากบ้าน แล้วพอเรายิ่งอ่านเราก็กลุ้ม ทำได้หรือเปล่า แต่ของเรามันคืองานเอ็นเตอร์เทน


ถาม แต่ระหว่างที่กำลังเจอกับภาวะที่แย่ เจอปัญหาหนักๆ แทนที่จะได้กำลังใจ กลับเจอกลุ่มคนที่บูลลี่เราหนักกว่าเดิม กลุ่มคนพวกนี้มาทางไหน แล้วทำไมเราถึงเป็นเป้านิ่ง

ลาล่า ล่าได้คุยกับพี่อั๋นบ่อยครั้ง จนลาล่ารู้สึกว่าใช่ เพราะเราให้ความสนใจพวกเขามากเกินไปแล้วเขาทำสำเร็จ พอเราขยับทำอะไร หรือแค่คอมเมนต์เดียวที่เราเข้าไปตอบ ก็คือเขาทำสำเร็จแล้วที่พวกเขาต้องการ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังเริ่มสนุกแล้ว แต่ลาล่ามีเพื่อนที่ดี มีคนรอบข้างที่คอยเตือนตลอดว่าให้เห็นคุณค่าของตัวเอง กว่าเราจะสร้างตัวเองขึ้นมาได้มัน ไม่ใช่แค่ 1 ชั่วโมงนะแต่เกือบ 20 ปีที่เราสร้างกันมาขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือผลงานต่างๆ วันนี้ลาล่าจะไม่ให้ใครมาดูถูกเราแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปพิมพ์ตอบโต้ เราไม่ต้องใช้แรง แต่ใช้สมองในการสู้ ในเมื่อทุกคนสนุกในการพิมพ์ เราพูด เราเตือนแล้วไม่ฟัง เราก็ให้กฎหมายตัดสิน แจ้งความค่ะ เพราะถ้าเขากล้าที่จะพิมพ์ นั่นก็หมายถึงว่าเงินในบัญชีเขามากพอ งั้นเราก็ขอรับคำขอโทษเป็นเงินสดเป็นมูลค่า เราก็ตีมูลค่า เพราะสิ่งที่เราสร้างมาก็ไม่ใช่น้อย เขาก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เขาทำ


ถาม เห็นว่าช่วงที่ผ่านมา ลาล่าเข้าไปอ่านคอมเมนต์หนักมาก จนต้องไปปรึกษาหมอเลย

ลาล่า : ตอนแรกก็ว่าจะไปปรึกษาหมอ แต่เราก็เช็คอาการตัวเองในเบื้องต้นก่อนว่าเราโอเคไหม อยู่กับเพื่อนเราปกติ แต่พอเรากลับบ้าน เราไม่ปกติค่ะ มันรู้สึกเศร้าเหงา อยากร้องไห้ เราก็รู้แล้วว่าการอยู่คนเดียวมากกว่า 3 ชั่วโมงมันผิดปกติ เราไม่สามารถอยู่ได้ เราเลยทำยังไงก็ได้ ก่อนที่เราจะเข้าบ้าน ทำให้เรารู้สึกง่วง หัวถึงหมอนต้องนอนให้ได้ เราพยายามปรับจูนตัวเองให้เยอะที่สุด แล้วไปพบหมอ

s__69935332

ถาม และอีกอย่างหนึ่งที่พูดได้เลยว่าเราเป็นคนกลัวตาย

ลาล่า : กลัวมาก (เสียงเริ่มสั่น) พอพูดถึงมันแล้วคิดถึงน้อง เพราะว่าลาล่าอยู่กับน้องมาตั้งแต่เด็ก เราไม่เคยจากกันเลย หลายๆ ครั้งที่เรามีคนเข้ามาคุยด้วย เราเลิกกับเขา เพราะว่าเรามีความรู้สึกว่าเขามาแทนที่ความรักของครอบครัวของเราไม่ได้ เพราะเรารักมาก เรามีความรู้สึกว่าทำไมน้องเรา เขาสามารถทำหน้าที่ตรงนี้แทนผู้ชายเหล่านี้ได้ ทั้งกายและใจ เขาทำด้วยความบริสุทธิ์ที่เขารักเรา  เราก็นอนด้วยกันจนน้องแต่งงาน แล้วย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ณ วันนี้เราต้องเข้มแข็ง เราต้องอยู่คนเดียวให้ได้ เพราะพ่อกับแม่ยังรอเราอยู่ น้องอยู่โน้นเขาก็ต้องเข้มแข็ง เขาอยากมาหาเรา เขาก็กลับมาหาเราไม่ได้ เราอยากไปหาเขา เราก็ไปไม่ได้ ถ้าวันนี้เราล้ม ลาล่า เป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว นั่นหมายถึงลมหายใจทุกคนขาดไปพร้อมกับลาล่าเลย เราล้มไม่ได้ ลาล่าต้องเช็กตัวเองทุกวันว่าไหวไหม แกต้องไหวนะ ใครด่าเราไม่สวย เราต้องยืนยันไปว่าเราสวย ใครว่าเราไม่เหมาะสมกับอะไร เราทำได้ ใครว่าเราไม่เซ็กซี่ เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาเราไปเปรียบเทียบกับนางงามจักรวาล ฉันยืนอยู่ตัวคนเดียว ฉันก็เซ็กซี่เองได้ หนูให้กำลังใจตัวหนูเองทุกวัน เช็กตัวเองทุกวัน ทุกระยะ นาทีนี้โอเคไหม เราไม่สามารถเอาความทุกข์ไปฝากกับทุกคนที่อยู่รอบข้างเพราะทุกคนก็มีภาระของตัวเอง เราก็เลยบอกกับตัวเองว่าต้องแก้ไขตัวเองให้ได้ แล้วบอกตัวเองว่าห้ามล้ม ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย เพราะทุกลมหายใจอยู่ที่เราคนเดียวเลยตอนนี้


ถาม ให้ลาล่าฝากแล้วกันว่าใครอยากติดตามช่องทางไหนได้บ้าง

ลาล่า : สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ Lulaplarazapver-ลูลู่ลาล่าอาร์สยาม หรือใครที่อยากเห็นการพัฒนาการในการออกกำลังกายหรือการเปลี่ยนตัวเอง ลาล่าก็อยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนที่โดยบูลลี่เรื่องรูปร่างหน้าตา พอเราได้รับมา เราก็อยากส่งต่อสิ่งดีๆ จากตัวเราเป็นพลังไปให้เขาใน lala_bigflower

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส