ทีมงานการแพทย์ โพสต์เฟซบุ๊กวอนสังคมเห็นใจเหตุจับตัวประกันในเชียงใหม่ ที่สุดท้ายแล้วมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่าช้า แต่มีปัจจัยที่ยากจะบุกเข้าไปช่วย
จากกรณีที่ชายคนหนึ่งได้ก่อเหตุจับตัวประกันเป็นภรรยาและสาวคนสนิทเอาไว้ในคอนโดมิเนียมหรูในเชียงใหม่ หลังถูกออกหมายจับศาลอาญาพระโขนง คดีฉ้อโกงหลอกลวงขายทะเบียนรถเลขสวย จนกระทั่งในที่สุดตัวประกันและชายที่เป็นคนก่อเหตุเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มจับเมีย-สาวคนสนิท เป็นตัวประกันในคอนโดหรูกลางเชียงใหม่ เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Bank Sts ได้เผยซึ่งระบุว่าเป็นทีมงานด้านการแพทย์เพียงคนเดียวที่ขึ้นไปร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่าช้า แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่อำนวยหรือสะดวกพอที่จะบุกเข้าไปได้ วอนสังคมให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติงาน โดยระบุข้อความดังนี้
"ผมเป็นทีมงานด้านการแพทย์เพียงคนเดียวที่ขึ้นไปร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ และขอยืนยันว่าการปฏิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ไม่ได้มีความล่าช้าแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มีจุดบอดและทึบทุกด้านที่จะเข้าเคลียร์เหตุการณ์ ด้วยปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นจุดมุมอับต่างๆ ของตัวอาคาร และผู้ก่อเหตุมีอาวุธไม่ทราบชนิดและจำนวน ซึ่งรวมแล้วคืออุปสรรคทุกช่องทาง
ส่วนมีคนบอกว่าทำไมไม่ใช้พลซุ่มยิงดำเนินการ ในส่วนนี้ทีมงานมีพลซุ่มยิงอยู่รอบตัวอาคาร แต่ไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายอะไรได้เพราะผู้ก่อเหตุปิดผ้าม่านทุกบานหน้าต่าง ซึ่งยากต่อการสอดส่องดูความเคลื่อนไหวภายใน ประตูห้องพักคอนโดระดับ 5 ดาวอย่างดีพิเศษ มีล็อก 3 ชั้นในแต่ละบาน ซึ่งก็ยากต่อการเข้าบุกทำลาย และในห้องพักมีห้องเล็กแยกออกไปอีก 2 ห้อง ซึ่งก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุจะซุ่มอยู่ในห้องไหน หน้าต่างเป็นกระจกทึบอย่างหนาและอยู่สูงถึงชั้นที่ 3 ของอาคาร หากจะพังเข้าไปด้านใดด้านนึงโดยไม่มีการขอเจรจาต่อรองกับผู้ก่อเหตุโดยสันติวิธีกันก่อน อาจเกิดความสูญเสียเพิ่มเติมกับผู้ช่วยเหลือเข้าไปอีก
และไม่ว่าจะหลักการปฏิบัติงานทางยุทธวิธีหรือทางการแพทย์ ล้วนแต่ยึดหลักปฏิบัติสากลทั่วโลกคือ #เมื่อSceneไม่Safeเราต้องSafeตัวเองก่อน เพื่อไม่เพิ่มภาระของเหตุการณ์นั้นๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก หวังว่าหลายๆ ท่านจะเข้าใจในหลักการปฏิบัติงานของทางเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบ้างนะครับ และทางทีมก็ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียด้วยกันทั้งนั้น"