แม่ ม.5 เหยื่อแทง 24 แผล ชี้พิรุธ ลูกไม่ได้ตายจากปมชิงทรัพย์ - แม่ “มิก” ขอล้างมลทินให้ลูก (คลิป)

24 มิ.ย. 61
จากกรณีกรมราชทัณฑ์ประหารนักโทษเด็ดขาดชาย ธีรศักดิ์ หลงจิ หรือมิก อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายดนุเดช สุขมาก อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ตรัง อย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแปะช้อย) ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ล่าสุด มีผู้เห็นเหตุการณ์ ยืนยันผู้ก่อเหตุ มี 6 คน ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
นางยุคล สุขมาก แม่ของนายดนุเดช สุขมาก เหยื่อผู้เสียชีวิต
วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุนทร และนางยุคล สุขมาก พ่อและแม่ของ นายดนุเดช โดย นางยุคล กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีคนทำร้ายลูกชายกี่คน แต่คิดว่าอาจจะถึง 6 คน ตามที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่า เพราะเคยลงพื้นที่สอบถามแม่ค้าย่านดังกล่าว ระบุว่า คนร้ายมีประมาณ 3-4 คน ส่วนตัวยังเชื่อว่าคนร้ายมีมากกว่า 2 คน เพราะลูกตนรูปร่างสูงใหญ่แบบนักกีฬา มีความสูงถึงประมาณ 170 เซนติเมตร หนักประมาณ 58 กิโลกรัม หากคนร้ายมากัน 2 คนน่าจะพอสู้ไหว ยิ่งหากคนร้ายมาคนเดียว พร้อมมีดปลายแหลม ตนเชื่อว่าลูกของตนสามารถสู้ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ข้อมูลที่ตนได้จากชาวบ้านในพื้นที่ ก็ยืนยันว่า มีดที่ทำร้ายลูกของตนเป็นมีดสปาต้าหัวตัดเล่มยาว ตนและครอบครัวก็ยังติดใจว่าคดีดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่เชื่อว่าเป็นคดีชิงทรัพย์แน่นอน จะต้องมีเรื่องอื่นมากกว่า ทำไมต้องแทงถึง 24 แผลทั้งแทงทั้งฟัน ซึ่งในตอนเกิดเหตุก็มีหลายคนเห็นว่าคนร้ายถือมีดสปาต้าหัวตัดหนีผ่านไปทางหน้าโรงเรียน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่เคยมาแจ้งเกี่ยวกับหลักฐานที่พบเจอมีเพียงมีดเดือยไก่ ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับแผลที่เกิดขึ้นหลายแผล ทั้งฟันและแทง ตนเองคิดว่ามีเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องชิงทรัพย์อย่างแน่นอน
อาวุธมีดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานประกอบคดี
นอกจากนี้ นางยุคล เชื่อว่า คนร้ายใช้มีด 2 เล่ม กระหน่ำแทงลูกชาย ไม่ใช่มีดเล่มเดียวตามที่ตำรวจยืนยัน พร้อมงัดหลักฐานใบชันสูตรพลิกศพมีแผลถูกฟันด้วยมีคมบริเวณจมูก บาดแผลกว้าง 1 ซม.ยาว 5 ซม.ดั้งจมูกขาด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาวุธมีดปลายแหลมที่ตำรวจระบุและยึดได้  ไม่น่าจะเป็นรอยฟันและทำให้ดั้งจมูกขาดได้ และคิดว่าน้องป๊อปแฟนสาวของลูกชาย ไม่น่าจะชี้ผิดตัว คิดว่านายมิกน่าจะเป็นหนึ่งในคนร้าย ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตั้งแต่มีข่าวออกมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้โทรศัพท์มาหาสามีตน 2 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ตนก็ไม่อยากไปกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากหลังจากนี้ คดียังไม่คืบอีกก็คงต้องไปสอบถามอีกครั้ง พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า สภาพจิตใจของตนตอนนี้ไม่ดี คล้ายกับต้องกลับมานั่งย้อนอดีตที่เคยเจ็บปวดอีกครั้ง ส่วนตัวภาวนาทุกวัน ให้จับตัวคนร้ายที่เหลือให้ได้โดยเร็ว  
พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองตรัง
ทางด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ตามที่มีการแชร์ลงในสื่อออนไลน์เฟซบุ๊กว่า มิกไม่ใช่คนร้ายตัวจริง ตนคิดว่าการจะแชร์เรื่องราวในในเฟซบุ๊กต้องเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ ในเมื่อทางตำรวจมีพยานหลักฐานพิเคราะห์ทางคดีและศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ซึ่งการรับฟังพยานของศาลไม่ใช่รับฟังเรื่องที่บอกเล่ากันมา คนที่ลงเรื่องราวในเฟซบุ๊กก็ไม่ทราบว่ารู้มาได้อย่างไร บุคคลนี้ตนจะให้ตำรวจสายสืบติดตามตัว เพราะสงสัยว่าทำไมไม่ให้ข้อมูลตำรวจในขณะนั้น จึงคิดว่าการออกมาแสดงความเห็นเป็นเพราะอยากเกาะกระแส
นางสายจิตร หลงจิ แม่ของนายธีรศักดิ์ หลงจิ หรือมิก นักโทษประหาร
ด้าน นางสายจิตร หลงจิ แม่ของมิก กล่าวว่า หลังจากที่มีพยานใหม่ ระบุว่ามิก ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ ตนได้แต่ภาวนาว่าขอให้เรื่องที่พยานรายนี้เล่า เป็นเรื่องจริง เพราะส่วนตัวเชื่อว่าลูกไม่ใช่คนทำ และตนไม่รู้จักและไม่เคยติดต่อกับพยานรายนี้ แต่อยากให้พยานรายนี้ออกมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากอีกฝ่ายไม่อยากออกมาเพราะกลัวความปลอดภัย ตนไม่บังคับ หากมีพยานรายอื่นๆ ออกมายืนยันว่า ลูกชายตนเป็นคนก่อเหตุจริง ตนคงต้องยอมรับ แต่หากลูกตนไม่ได้ทำ ก็อยากสืบหาความจริงเพื่อล้างมลทินให้ลูก ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า คนก่อเหตุมี 6 คนนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยไปสอบถามบริเวณจุดเกิดเหตุ ส่วนที่ พ่อของน้องป๊อป แฟนน้องม.5 ออกมายืนยันว่า ชี้ถูกคน เรื่องส่วนนี้ตนไม่ทราบ แต่อยากให้น้องป๊อป ยืนยันด้วยตัวเอง แต่นายมิก ได้เล่าให้ตนฟังว่า วันชี้ตัวผู้ต้องหา คนที่ถูกนำมาชี้มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ตัวเองเป็นประชาชนธรรมดาแค่คนเดียว จึงไม่อยากจะให้ความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว
เอกสารที่ทางกรมราชทัณฑ์ให้กับทางครอบครัวนายธีรศักดิ์ หลงจิ หรือมิก นักโทษประหาร
นอกจากนี้ นางสายจิตร ได้เปิดเอกสารที่ทางกรมราชทัณฑ์ ส่งมาถึงตนเมื่อวานที่ผ่านมา (22 มิถุนายน) เป็นใบมรณบัตรของมิก พร้อมด้วยกระดาษที่เขียนด้วยลายมือคาดว่าเป็นลายมือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยมีบันทึกเบอร์โทรศัพท์ญาติของมิก และบันทึกข้อความที่มิกโทรศัพท์คุยกับเพื่อนบ้าน ที่ฝากดูแลแม่ และยาย พร้อมทั้งขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีบันทึกการพูดคุยกับอดีตภรรยา ระบุว่า ให้ดูแลลูกให้ดี ส่วนตนไม่ได้คุยกับลูกครั้งสุดท้าย เพราะลูกไม่มีเบอร์โทรศัพท์ เนื่องจาก ตนเปลี่ยนเบอร์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ