เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 (ผบก.สส.ภ.5) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางมาประสานตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นำกำลังเข้าปิดล้อมคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอยข้างธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หลังจากสืบทราบว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์ หลอกขายป้ายทะเบียนรถหรู มีมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท หลบหนีเข้ามาเช่าพักอยู่ห้องพัก 301 ของคอนโดดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อม เพื่อจับกุมทางผู้ต้องหาที่พักอยู่ในห้อง ทราบชื่อต่อมาภายหลังว่า นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวจ.พะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์
แต่ทว่าผู้ต้องหากลับขัดขืนไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดี พร้อมกับตะโกนออกมาจากห้องพักว่า ตนมีอาวุธปืนและมีตัวประกัน 3 คน คือ ภรรยาคนที่ 1 ภรรยาคนที่ 2 และพี่เลี้ยงลูกอยู่ในห้อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถอยกำลังออกมาตั้งหลัก พร้อมกับเปิดการเจรจาให้ผู้ต้องหายอมวางอาวุธปืน และปล่อยตัวประกันออกมา
จากนั้นประสานและพามารดาและลูกชายของผู้ต้องหาเดินทางจากจังหวัดพะเยา มาช่วยเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวแต่ไม่เป็นผล กระทั่งเวลา 15.45 น. ได้มีเสียงปืนดังขึ้นมา 3 นัด ที่ห้องดังกล่าว และมีกระสุนปืน 1 นัดทะลุกระจกออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเคาะห้อง แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง และพยายามโทรศัพท์ติดต่อเข้าไป ก็ไม่มีคนรับสาย จึงได้วางแผนประสานตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมนำโล่กำบังเข้าเคลียร์พื้นที่
เวลา 17.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าปิดล้อมพื้นที่ได้ยืนได้ จึงต้องกระจายกำลังโอบล้อมคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเอาไว้ เพื่อรอกำลังมาสนับสนุนและเข้าเคลียร์พื้นที่
ในระหว่างที่ผู้ต้องหาเก็บตัวเงียบอยู่ในภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานผู้เป็นแม่ (เสื้อฟ้า) และลูกชายอีก 2 คนของผู้ต้องหา มาเพื่อกล่อมผู้ต้องหา แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการปิดล้อมและวางแผนเข้าจับกุมตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดน บินสำรวจบริเวณรอบ ๆ ห้องพักที่ผู้ต้องหาพักอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการปิดล้อมพื้นที่เอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการตั้งแต่เบาไปหาหนัก ในเวลา 19.54 น. ผ่านไปแล้วกว่า 5 ชั่วโมง ที่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังล้อมบ้านหลังดังกล่าวไว้ แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าผู้ต้องหาจะยอมออกมามอบตัว
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปีชาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ก่อเหตุหลอกขายป้ายทะเบียนรถเลขสวย ผ่านเว็บไซต์ชื่อดัง มีผู้เสียหายจำนวนมาก กระทั่งตำรวจทราบว่าหนีมาซ่อนตัวอยู่ในคอนโดมิเนียมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลา 20.15 น. กว่า 8 ชั่วโมงในการปิดล้อมจับกุมนายสุเมธ ผู้ต้องหาหมายจับคดีฉ้อโกง สถานการณ์ยังคงเงียบสงบ ยังไร้ความเคลื่อนไหว ล่าสุดพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ก่อนที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จะเข้าพื้นที่ในคอนโดนฯ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.ประจวบ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นเวลากลางคืน การทำงานจึงอยากลำบาก แต่จะพยายามตรึงกำลังดูสถานการณ์เป็นระยะ ๆ ยังไม่มีการจูโจม เบื้องจากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ยังคงไร้ความเคลื่อนไหวของทั้ง 3 คน หวังว่าทั้ง 3 คนยังมีชีวิตอยู่ ขณะเดียวกันตนได้สั่งให้ประสานไปยังญาติฝ่ายภรรยาที่ภาคใต้ ให้เดินทางมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม คาดว่าจะเดินทางถึงในช่วงเช้าพรุ่งนี้ (6 มี.ค.64)
สำหรับคอนโดฯ ดังกล่าว นิติบุคคลได้อพยพลูกบ้านออกตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว จึงเหลือตัวผู้ก่อเหตุและภรรยา พร้อมด้วยพี่เลี้ยง ซึ่งนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวจ.พะเยา มาอาศัยอยู่วันเมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 โดยมาเช่ากับเจ้าของห้องโดยตรง ส่วนพื้นที่โดยรอบ เป็นคอนโดมิเนียมหรู และสุดซอยเป็นหมู่บ้าน และอีกฝั่งเป็นพื้นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาภาคเหนือ จากปากซอยบนถนนโชตนา ถึงที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร พื้นที่โดยรอบมีการปิดไฟส่องสว่าง ปิดล้อมพื้นที่เสี่ยงที่เป็นช่องวิถีกระสุน กันผู้ไม่เกี่ยวข้องเดินผ่าน รวมถึงทางเข้า-ออก