เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง บริษัท อินเตอร์โปรเจค เอนจิเนียริ่ง ซอย ทุ่งเศรษฐี แขวงดอกไม้ เขต ประเวศ กรุงเทพมหานคร พบกับนาย นันทชัย ฟักทอง หรือ น้องอิง อายุ 19 ปี หลังจากโลกออนไลน์แห่แชร์คลิปและเรื่องราวของเขา จนได้รับกระแสชื่นชมจำนวนมาก
น้องอิงอิง เล่าให้ว่าฟัง ตนเรียนอยู่ชั้น ปวช ปี 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีเกษมสันต์บริหารธุรกิจ การเดินทางไปเรียนนั้น ครอบครัวจะไปส่งในช่วงเช้า และช่วงเย็นเลิกเรียนก็จะนั่งรถแทกซี่เดินทางมายังบริษัทที่แม่ทำงาน เพื่อที่จะกลับบ้านพร้อมกัน เพราะตนมีอาการป่วยเป็นโรคกระดูกผิดรูปทั้งตัวตั้งแต่เกิด ทำให้เดินลำบาก ซึ่งขณะนี้ยังคงต้องรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับจุดเริ่มต้นของการค้าขายของนั้น เนื่องจากตนคิดว่าสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนอื่นคิด อีกทั้งอยากจะช่วยเหลือครอบครัว เพราะว่าค่าใช้จ่ายของครอบครัว และค่ารักษาพยาบาลของตนนั้นค่อนข้างสูง จึงตัดสินใจแบ่งเบาภาระครอบครัว อยากทำอะไรบางอย่าง และสิ่งที่สามารถทำได้ดีที่สุด คือ การขายของออนไลน์
โดยค่ารักษาพยาบาลในการรักษาของตนนั้น จะตกเดือนละประมาณ 80,000-90,000 บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต่อเดือนของตนประมาณ 5,000 บาท รวมทั้งค่าเทอม 6,000 บาท ซึ่งตนแอบขายสินค้าด้วยการเริ่มต้นไลฟ์สดเฟซบุ๊กส่วนตัวภายในห้องนอน ที่จ.สมุทรปราการ เริ่มขายสินค้าตั้งแต่ 10 ปีที่ผ่านมา วันที่ 3 ม.ค.54 โดยจะปิดไม่ให้ทางครอบครัวทราบ เนื่องจากไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมกันในเฟซบุ๊กถึง 2 ปี
โดยใน 2 ปีแรกนั้น เริ่มขายประเภทน้ำหอม สินค้าเสริมความงาม ที่ได้สั่งซื้อมาจากช่องทางออนไลน์และรับสินค้าที่บ้าน ต่อมาภายหลังทางครอบครัวทราบว่าตนไลฟ์สดขายของ และเริ่มศึกษาถึงเรื่องการทำน้ำพริกกากหมู และพริกทอดผ่านทางยูทูบ และได้เริ่มทำขายตลอด 7 ปีที่ผ่านมา โดยในทุกวันเวลา 03.00-04.00 จะเริ่มผสมวัตถุดิบเพื่อทำน้ำพริกกากหมูและพริกทอด และได้สร้างเพจเซฟบุ๊กเป็นแบรนด์ของตัวเอง ในปี พ.ศ.2556 ขายกระปุกละ 25 บาท
โดยก่อนจะเริ่มไลฟ์สดขายของ ตนจะเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์ จัดแสงจัดไฟ จัดโต๊ะทั้งหมดเพียงคนเดียว และจะเริ่มไลฟ์สดในทุกวัน ช่วงเวลา 19.00-21.00 ทางเพจเซฟบุ๊ก “ร้านฟักทองshop” หากถามว่าขายของทุกวันได้รายได้เท่าไร จริง ๆ รายได้ต่อวันที่มากที่สุดประมาณ 3,000 บาท และรายเดือนรวมแล้วประมาณ 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าแต่ละเดือน
โดยเงินที่ได้จากการขายของนั้น จะนำมาช่วยเหลือครอบครัวในส่วนค่าน้ำค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล และแบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับเงินทุนไว้ซื้อวัตถุดิบสำหรับน้ำพริกกากหมูและพริกทอด
นางญาดานันท์ ฟักทอง อายุ 41 ปี แม่น้องอิง กล่าวว่า ตนเป็นหัวหน้าพนักงานบัญชี บริษัท อินเตอร์โปรเจค เอนจิเนียริ่ง หากจะถามว่าทราบหรือไม่ว่าลูกแอบขายของ ยอมรับว่าเมื่อก่อนไม่ทราบ เมื่อทราบก็กังวลในเรื่องของผลการเรียน กลัวว่าจะทำงานเพียงอย่างเดียว จะเรียนไม่ทันเพื่อน และผลการเรียนไม่ดี แต่จากผลการเรียนในแต่ละเทอมเป็นที่น่าพอใจ ผลการเรียนดีมาตลอด ปัจจุบันนี้จึงไม่มีความกังวลใจ อยากตามใจลูกให้ทำในสิ่งที่ลูกชอบ
ทั้งนี้ตนรู้สึกภูมิใจในตัวลูกที่เป็นเด็กดี มีความคิดที่ลักษณะเป็นผู้ใหญ่ โดยทางครอบครัวได้ให้กำลังใจอยู่ตลอด เนื่องด้วยร่างกายน้องไม่ค่อยแข็งแรง แต่ก็บอกอยู่เสมอว่าจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ เรื่องของรายได้จากการขายของทางครอบครัวให้น้องอิงเป็นผู้จัดการทั้งหมด และตนได้ช่วยเหลือในการบรรจุน้ำพริกบ้าง หากมีลูกค้าเยอะในบางวัน
เมื่อถามว่าเห็นน้องขายของเกือบทุกวันอย่างนี้ กลัวน้องเหนื่อยหรือไม่ นาง ญาดานันท์ ระบุว่า น้องอิงมีความสุขกับการทำน้ำพริก ไลฟ์สดขายของ ทางครอบครัวจึงไม่ห้าม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้กับน้องอิง หากขาดเหลือสิ่งใด อยากให้น้องอิงทำตามในสิ่งที่น้องต้องการ ซึ่งการเดินทางของน้องในทุกวันนั้น ทางครอบครัวจะไปส่งที่โรงเรียนตอนเช้า และในช่วงเย็นน้องจะนั่งแท็กซี่มายังบริษัทเพื่อกลับบ้านพร้อมกันเป็นประจำ
