เหตุการณ์การเสียชีวิตของ นายสุบิน เกตุหิรัญ หรือ ตี๋ ถูกนางวาสนา เข็มขาว หรือ จอย และนายอนันตชัย ถิ่นชัยโย หลานของนางวาสนา ใช้มีดสปาต้าแทงอกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 ก่อนนำร่างหั่นและไปทิ้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ 1 มี.ค. 64 ก่อนเจ้าหน้าที่สืบทราบจนจับกุมตัวได้ที่บ้านพักใน จ.นนทบุรี
โดยวันนี้ยังคงถูกคุมตัวไว้ที่ สภ.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนนำส่งเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันพรุ่งนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดปากเมียอำมหิตรวมหัวหลานฆ่าหั่นผัวแค้นถูกซ้อมถี่ อึ้งแบงก์ร้อยโผล่ใกล้หัวศพ
- ไขปริศนา! ศพเผาแยกร่าง อึ้งถูกเฉือนหัวนมตรงรอยสักหนุ่มโรงน้ำแข็ง แพทย์เชื่อหั่นไม่ชำนาญ
- สยอง! ศพมนุษย์โผล่ข้ามอำเภอ หั่นแยกชิ้นแขนขาเผาอำพราง ชาวบ้านนึกว่าขยะผงะหัวหาย
วันที่ 4 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนเกตุหิรัญ บ้านเขาฉลาด อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งเป็นสวนของนายสุบิน และญาติพี่น้องทำสวนผลไม้ใหญ่โต พื้นที่กว่า 300 ไ ร่มีทั้งบ้านพักส่วนตัว บ้านพักรับรอง และรถยนต์หรู รถเบนซ์ BMW และรถยนต์อื่น ๆ อีกนับ 10 คัน มีคนงานทำสวนจำนวนมาก
พี่สาวและน้องสาวของนายสุบิน ผู้ตาย เล่าความเป็นมาของนายสุบินว่า นายสุบินเป็นพี่ชายบุญธรรมของตนเอง แม่ของตนเองได้รับนายสุบินมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมานายสุบินก็ได้มีครอบครัว สร้างบ้านไว้ 1 หลัง อยู่กับครอบครัว มีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนที่จะมาเจอกับนางจอย ซึ่งขณะนั้นเป็นนักร้องร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนจะตัดสินใจเลิกกับภรรยา และไปอยู่กินกับนางจอยจ นมีลูกด้วยกัน 2 คน ตอนนั้นนายสุบินร่ำรวย มีเงินทองมีที่ดินมากมาย
แต่หลังมาอยู่กินกับนางจอย เงินทองเริ่มหมดลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งนายสุบินขายที่นำเงินไปสร้างบ้านให้นางจอย และเป็นชื่อของนางจอย เวลาต่อมาเงินทองก็หมด นางจอยได้ขับไล่นายสุบินให้ออกจากบ้านที่นายสุบินสร้างไว้ จนนายสุบินต้องออกจากบ้าน ไปรับจ้างขับรถบรรทุกอยู่ที่ จ.ชลบุรี ก่อนที่จะมาเสียชีวิตด้วยการถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ปัจจุบันบ้านของนายสุบินถูกปิดตาย
พี่น้องของนายสุบินไม่เชื่อกับสิ่งที่นางจอยได้กล่าวอ้างว่านายสุบินเมาแล้วชอบทำร้ายร่างกาย ซึ่งตรงกันข้าม พี่น้องของนายสุบินบอกว่านายสุบินไม่เคยทำร้ายนางจอยมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะว่านายสุบินรักนางจอยมาก ถึงขนาดขายที่ดิน ทิ้งภรรยาหลวงไปอยู่กับนางจอย ไม่เชื่อว่านายสุบินจะทำร้ายนางจอย
ทีมข่าวมาที่ ซ.กาหลง 5 หมู่ 5 ต.ท่าทราย อ.เมือง นนทบุรี บ้านเกิดเหตุที่นางวาสนาก่อเหตุฆ่าสามีและหั่นศพ พบว่าบ้านยังคงปิดเงียบ แต่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ช่วง 07.00 น. พี่สาวของนางวาสนาเข้ามาที่บ้านเพื่อเก็บของ พาหลานมาด้วย
นายสมจิตร์ บัวอยู่ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ 28 ก.พ.64 ช่วง 07.00 น. นายสุบินอยู่ที่หน้าบ้าน กำลังถูกนางวาสนาต่อว่า ด่าทอ และไล่ออกจากบ้าน โดยนางวาสนาใช้ด้ามไม้กวาดออกมาฟาดนายสุบินที่หน้ารั้ว จากนั้นนายสุบินจึงไปหาเหล็กมากระทุ้งแม่กุญแจที่ล็อกรั้วประตูไว้ แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นไม่นานก็เห็นนางวาสนาออกจากบ้านไปกับลูก ลูกชายเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบไปที่ไหน ทำให้นายสุบินสามารถเข้าบ้านได้ ตนสังเกตเห็นนางวาสนาสวมเสื้อสีแดงออกจากบ้านไป จากนั้นตนก็เข้าห้องพัก และออกมาช่วงสายพบนายสุบินนั่งอยู่ที่หน้าตัวบ้าน จะมีโซฟาอยู่ โดยนั่งกับเพื่อนบ้านคนหนึ่งดื่มเหล้ากัน ซึ่งเป็นปกติ
ทั้งนี้ ครอบครัวนี้ปกติทะเลาะกันบ่อย ส่วนใหญ่ฝ่ายนางวาสนาจะชอบด่า ไล่สามีออกจากบ้าน จนช่วงเย็นตนก็เห็นผู้ชายอ้วน ๆ มาที่บ้าน ก่อนที่ตนจะออกไปทำงานช่วง 17.00 น. หลังจากนั้นตนไม่ทราบว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้น แต่มีเพื่อนบ้านตนเล่าว่า ช่วง 22.00 - 23.00 น. ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันจากในบ้านเกิดเหตุ โวยวายไล่กัน
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อคืนตนเองย้ายออกไปนอนที่บ้านอีกหลังหนึ่งย่านไทรน้อย เพราะตนเองกลัวเหตุที่เกิดขึ้น โดยพาลูกไปนอนด้วย และเช้าก็กลับบ้าน เพราะตนอยู่ที่นี่มานานกว่า 20 ปีไม่ได้คิดจะย้ายบ้านหนี แต่ขอให้เรื่องมันสงบ ๆ แล้วค่อยกลับมา
ส่วนตัวไม่คิดว่าเรื่องเกิดที่นี่ ตนเห็นแต่ในข่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจมาในพื้นที่ มาสอบถามหานางวาสนาตนเองยังไม่คิดว่าจะเกี่ยวข้องกับข่าวฆ่ากันตาย จนตำรวจมาจับกุม นอกจากนี้ชาวบ้านอีกคนยังระบุว่าลูกชายนั่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ในบ้านเกิดเหตุ ช่วงราว 02.00-03.00 น. ทั้งที่บ้านดังกล่วไม่มีคนอยู่แล้ว ส่วนเพื่อบ้านคนอื่น ๆ ต่างก็บอกว่ากลัว ปิดบ้านเร็วขึ้น ทำให้ชุมชนเงียบเร็ว