ฉีด วัคซีนโควิด แล้วแพ้ ต้องทำอย่างไร? สธ.มีคำตอบ

4 มี.ค. 64

กรณีฉีด วัคซีนโควิด แล้วมีอาการแพ้รุนแรง สธ.เผย 4 วันฉีด วัคซีนโควิด รวม 13,464 คนเผยผลข้างเคียงหลังฉีดพร้อมระบบติดตาม

วันนี้(4 มี.ค.64) นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการติดตามและรับมืออาการไม่พึงประสงค์หลังรับ วัคซีนโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่กลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 3 มี.ค. 64 (เวลา 18.00น.) แล้ว 13,464 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์และ อสม., บุคลากรด่านหน้าอื่นๆ, ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และประชาชนที่มีโรคประจำตัว ในจำนวนนี้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ 119 คน ส่วนมากมีอาการข้างเคียงเพียงเล็กน้อย ได้แก่ อักเสบบริเวณที่ฉีด, ไข้, หนาวสั่น, เหนื่อย, ปวดเมื่อยเนื้อตัว, คลื่นไส้, แน่นหน้าอกเป็นต้น จะหายได้ภายใน 1-2 วัน

klgnlqtd1e8c04owcw
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

- รพ.แม่สอด ลุยฉีดด่านหน้า ข่าวดียังไม่พบเคส แพ้วัคซีนโควิด รุนแรง
- สธ. แจงปมคนไทยฉีด วัคซีนโควิด แล้วมีอาการแพ้รุนแรง

ส่วนอาการข้างเคียงรุนแรงหรืออาการแพ้รุนแรงมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่า 1 ในล้านโดส เช่น ไข้สูง ผื่นขึ้นทั้งตัว ปวดศีรษะรุนแรงหายใจลำบาก อาการชัก เป็นต้น เมื่อกลับบ้านแล้วหากพบอาการดังกล่าวให้โทรกลับไปที่โรงพยาบาลที่รับการฉีดวัคซีน สถานพยาบาลได้จัดระบบมีความพร้อมให้การดูแลอย่างเต็มที่ หรือ โทร 1669 ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้เตรียมความพร้อมระบบสายฉุกเฉิน ในการตอบข้อซักถาม ให้ข้อมูลประชาชน ประสานสั่งการ รับแจ้งเหตุหากมีความจำเป็นในกรณีที่ประชาชนมีอาการรุนแรงจากการได้รับวัคซีน

เผยสาเหตุ "บิ๊กตู่" เลื่อนฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ติดปัญหาเอกสาร
นายกรัฐมนตรี ทำพิธีรับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรก 2 แสนโดสจากประเทศจีน

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า โดยปกติอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีนมักเกิดขึ้นภายใน 15 นาที กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เตรียมระบบรองรับไว้แล้ว โดยหลังการฉีดเจ้าหน้าที่จะให้พักรอสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที ที่โรงพยาบาล มีแพทย์ พยาบาลดูแลสอบถามอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยไม่มีอาการใดๆ ก่อนอนุญาตให้กลับบ้าน

รวมถึงให้คำแนะนำแผ่นพับในการเฝ้าระวังอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ และเบอร์ติดต่อกับโรงพยาบาลที่ให้บริการ จากนั้นจะมีการติดตามอาการอีกในวันที่ 1, 7 และ 30 ผ่านทางไลน์ “หมอพร้อม” หรือมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล, รพ.สต., อสม. เป็นผู้ติดตามอาการ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ