สถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมาก้าวสู่วิกฤตเต็มรูปแบบ หลังประชาชนที่ต่อต้านการยึดอำนาจเมื่อ 1 ก.พ. ลุกฮือขึ้นต่อต้านกองทัพ โดยมีการปะทะกันอย่างดุเดือด จนนครย่างกุ้ง กลายสภาพไม่ต่างจากทะเลเพลิง
รายงานข่าวระบุว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 38 รายในวันพุธ (3 มี.ค.) ทั้งในนครย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ และเมืองสะกาย โดยเมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตเดิมที่มีอย่างน้อย 21 ราย ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองทัพเมียนมาตั้งข้อหาผู้สื่อข่าว 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มี ทิน ซาร์ โอ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอพี จากสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในนครย่างกุ้งรวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 1,200 คน นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา
ล่าสุด สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงมีพระราชดำรัสเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน และให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง รวมถึงขอให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากันอย่างสันติเพื่อยุติความขัดแย้งในประเทศ
ด้าน คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติด้านเมียนมา แถลงที่สำนักงานยูเอ็น นิวยอร์ก ว่า วันนี้ (3 มี.ค.) เป็นวันนองเลือดสูงสุดนับจากรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เฉพาะวันเดียว ประชาชนเสียชีวิต 38 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตเกิน 50 รายแล้ว นับจากที่รัฐประหารเกิดขึ้น ทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นจะเปิดการหารือสถานการณ์เมียนมาในวันศุกร์ที่ 5 มี.ค.นี้ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้จีนแสดงบทบาทสร้างสรรค์ให้ทหารเมียนมายุติการใช้ความรุนแรง
ภาพจาก AFP
