กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 เวลา 08.00 น. พบศพผู้เสียชีวิตเพศชายไม่ทราบสัญชาติถูกตัดศีษะ แขน ขา และนำไปเผาอำพราง ที่บริเวณริมถนนทางเข้าโรงงานวีระอิฐบล็อก ม.4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกันได้พบชิ้นส่วนแขน ขา มือ เท้า ถูกเผาอำพรางอยู่ที่บริเวณริมถนนสาย 347 บางปะอินมุ่งหน้าบางปะหัน ม.9 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ สภ.บางปะอิน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขปริศนา! ศพเผาแยกร่าง อึ้งถูกเฉือนหัวนมตรงรอยสักหนุ่มโรงน้ำแข็ง แพทย์เชื่อหั่นไม่ชำนาญ
- สยอง! ศพมนุษย์โผล่ข้ามอำเภอ หั่นแยกชิ้นแขนขาเผาอำพราง ชาวบ้านนึกว่าขยะผงะหัวหาย
ล่าสุดวันที่ 3 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานบรรยากาศภายในซอยกาหลง 5 หมู่ 5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี บริเวณหน้าบ้านของนางวาสนา เข็มทอง ภรรยาผู้ตาย ที่ร่วมมือกับหลานชายลงมือฆ่าหั่นศพนายสุบิน เกตุหิรัญ อายุ 53 ปี สามีชาว จ.นนทบุรี และเป็นจุดฆ่าและหั่นศพนายสุบิน ก่อนนำไปทิ้ง ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ล็อกประตูหน้าบ้านเอาไว้
สำหรับหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพรถต้องสงสัยได้ เป็นรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว พิกัด อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 ซึ่งเมื่อตำรวจนำมาเทียบกับรถกระบะขนย้ายศพทิ้งอำพราง ไปตรงกับรถกระบะของนายสุบิน ที่ภรรยาใช้เป็นพาหนะขนย้ายศพ หลังจากลงมือร่วมกับนายเมฆ หลานชาย ฆ่าหั่นศพสามี และห่อศพขนย้ายขึ้นรถกระบะคันดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย คือนางวาสนา ภรรยาของผู้ตาย และนายเมฆ หลานชาย ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ทารุณ และซ่อนเร่นอำพรางศพ
ทีมข่าวย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์ฆ่านายุบิน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 นางวาสนาทะเลาะกับนายสุบิน ตกกลางคืนจึงพานายเมฆ หลานชาย มาที่บ้าน แต่หลานชายได้ใช้มีดสปาต้าฟันนายสุบิน ก่อนที่นางวาสนา จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อถุงดำที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน จากนั้นหลานชาย จึงลากศพนายสุบิน เข้าไปหั่นในห้องน้ำ
กระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งคู่ขับรถกระบะมุ่งหน้า จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนางวาสนา และหลานชาย ได้ยกศพนายสุบินใส่ท้ายรถกระบะ และขับออกไปซื้อน้ำมัน 140 บาท ก่อนจะแวะทิ้งศพและเผาอำพราง 2 จุดในอ.บางปะอิน 1.ทิ้งแขนและขา 2.ทิ้งศีรษะ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่อพาร์ตเมนต์ที่มีการนำรถกระบะของผู้ตายมาจอดทิ้งไว้ ทีมข่าวสอบถามนายธีรศักดิ์ สุมนต์ รปภ.ของอาคาร ซึ่งจะเข้าเวรดึก เปิดเผยว่า ตนเห็นผู้ตายมาจอดรถที่นี่ 4 วันก่อนจะเกิดเหตุ โดยพบวันที่ 24-27 ก.พ.64 ซึ่งปกติผู้ตายไม่เคยมาจอดรถลักษณะนี้ แต่จะมาเพียงจอดรถและออกไปซื้อของบางครั้งบางคราวเท่านั้น
นายธีรศักดิ์ ระบุว่า เพื่อน รปภ.อีกคนได้คุยกับผู้ตายขณะมาจอดรถ ซึ่งระบุว่าที่มาจอดรถเพราะกำลังเตรียมย้ายของ เพื่อน รปภ.เข้าใจว่าเตรียมจะย้ายบ้านหรือไม่ ก่อนที่นายสุบินจะขับรถออกไปตนยังได้คุยกันทำนองว่า เรื่องการเข้าห้องน้ำอย่าถ่ายตามข้างทาง ซึ่งผู้ตายก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกแค่ว่าหากหาที่นอนใหม่ได้จะไม่กลับมาอีก
จากนั้นผู้ตายก็ไม่กลับมาอีก กระทั่งมีรถมาจอดทิ้งไว้ในวันที่ 1 มี.ค.64 และไม่ทราบว่าเป็นรถผู้ตาย จนตำรวจมาตรวจสอบเมื่อคืนวานนี้
ทีมข่าวได้วงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ กล้องตัวที่ 1 วันที่ 26 ก.พ.64 เวลา 19.17 น. พบรถผู้ตายขับเข้ามาที่อพาร์ตเมนต์ และถอยจอดริมกำแพงท้ายสุด
กล้องตัวที่ 2 วันที่ 27 ก.พ.64 เวลา 17.30 น. พบผู้ตายขับรถออกจากลานจอด โดยมีกล้องอีกมุมจับภาพได้ จากนั้นก็ขับออกไป
กล้องตัวที่ 3 วันที่ 1 มี.ค.64 เวลา 07.14 น. เป็นช่วงหลังทิ้งศพ รถผู้ตายกลับเข้ามา ก่อนจะเข้าจอด จากนั้นมีคนลงจากรถ 2 คน ผู้หญิงลงข้างคนขับ คนขับเป็นผู้ชาย จากนั้นฝ่ายหญิงเดินวนไปที่ฝั่งคนขับ คล้ายคุยอะไรบ้างอย่าง จากนั้นเห็นคนขึ้นไปที่ท้ายกระบะ เหมือนไปเก็บของท้ายกระบะก่อนลงจากรถ
ทั้งคู่ขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่ข้าง ๆ กัน ต่อมาคนขับรถเก๋งลงจากรถ เห็นเป็นชายเสื้อเหลือง มีกระเป๋าคาดด้านหน้า เดินอยู่ข้างรถ ก่อนจะไปที่ท้ายรถ ทำอะไรบ้างอย่าง จากนั้นขึ้นรถเก๋ง และถอยออกก่อนขับออกไป
กล้องตัวที่ 4 สังเกตว่ามีรถเก๋งคันที่จอดข้าง ๆ ที่รับตัวผู้ก่อเหตุไป ซึ่งยังไม่ชัดว่าเป็นของใคร พบว่ามีการนำมาจอดตั้งแต่ 27 ก.พ.64 เวลา 12.10 น. โดยมีชายเสื้อเหลือง สะพายกระเป๋าคาดด้านหน้า และเดินออกผ่านวงจรปิด และหายไป รถไม่ถูกเคลื่อนอีก จนมารับตัวคนก่อเหตุไป
ขณะที่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อนบ้านที่มายืนมุงดูอยู่รอบนอก ก็มีการด่าทอนางวาสนา และนายเมฆ ตลอดเวลา
โดยป้าติ๋ม เพื่อนบ้าน กล่าวตำหนิว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน นางวาสนา ไปเป็นเมียน้อยของผู้ตาย แต่เมียหลวงมาเจอ ผู้ตายและนางวาสนาก็ช่วยกันทุบตีเมียหลวง ซึ่งผู้ตายสร้างบ้านให้อยู่ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่นางวาสนา กลับมาฆ่าเขา ซึ่งตนก็อยากให้รับโทษประหารชีวิตทั้ง 2 คนไปเลย เพราะตนก็เสียใจที่นายสุบินรักนางวาสนาเกินไปจนถูกฆ่าตาย
นางไก่ เพื่อนบ้านอีกคน เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าทั้งนางวาสนาและนายเมฆ จะต้องเตรียมการหั่นศพมาก่อน ซึ่งยอมรับว่าตนเคยเห็นผู้ตายและนางวาสนาทะเลาะกัน มีปากเสียงเรื่องเงินไม่พอใช้ค่อนข้างบ่อย ซึ่งนางวาสนา จะเป็นคนชวนทะเลาะและไล่ผู้ตายไปตลอด ซึ่งผู้ตายนั้นจะไป ๆ มา ๆ บ้านตลอด แต่นางวาสนา จะล็อกบ้าน ส่วนผู้ตายจะปีนกำแพงเข้าบ้านตลอด
สำหรับนายเมฆ หลานชายนั้น ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงไม่รู้ว่าเขาจะมีความสัมพันกันแบบไหน อย่างไรก็ตาม ตนติดตามข่าวแต่ไม่รู้มาก่อนว่า เหตุจะเกิดขึ้นข้างบ้าน และคิดว่านางวาสนา คงหมดรักฝ่ายชายจึงลงมือก่อเหตุ
