แฉคลิปสาวพริตตี้ถูกแฟนซ้อมคืนวาเลนไทน์ หนุ่มโต้ยับแค่ตามทวงรถ ฉุนขอคบแต่หนีขุดทอง (คลิป)

3 มี.ค. 64

จากกรณี น.ส.กานดา หรือ แอ๊ป อายุ 29 ปี พีอาร์สาว พักอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ไม่มีใครโง่เรื่องความรัก ไม่มีใครผิดที่จะให้โอกาสเพื่อจะแก้ไขซ้ำซาก ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอยากหลุดพ้น ในเมื่อมึงบอกอยากขึ้นศาล ในเมื่อกุบอกแล้ว กุต้องการให้ชดใช้เรื่องที่มึงทำ มึงกลับทำนิ่งเฉย และพูดใส่ความกู มึงตี มึงทำกุมา 4 ครั้งแล้ว มึงตีกุทั้งที่กุไม่มีทางสู้มึงได้อยุ่แล้วทุกคนก็ควรได้เห็นถึงพฤติกรรมต่ำๆของมึงเช่นกันที่กุโพส กุแค่อยากบอกให้ทุกคนได้ตาสว่าง เพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกครั้งนี้แค่มีหลักฐาน และมึงก็ไม่ใช่คนดีเหมือนที่ปากมึงพูด อนาคตอย่าให้มันได้ไปทำกับใครอีก"

601318891288

โดยภาพกล้องวงจรปิด วันที่ 14 ก.พ. 64 เวลา 22.29 น. ผู้ชายพยายามอุ้มผู้หญิงแบบฉุดกระชากลากถู และพยายามพาออกไปยังบริเวณนอาคารคอนโดฯ มีข้าวของตกกระจัดกระจายลงพื้น ยืนเถียงกันบริเวณประตูทางเข้า มีคนบริเวณนั้นพยายามห้าม และยืนดูอยู่ห่าง ๆ ผู้หญิงพยายามวิ่งหนี แต่กลับถูกผู้ชายตบและตีเข่าทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ

139532

วันที่ 3 มี.ค. 64 น.ส.กานดา หรือ แอ๊ป อายุ 29 ปี เล่าว่า ตนทำงานเป็นพีอาร์ชงเหล้าร้านอาหารย่านนนทบุรี และได้รู้จักกับนายกฤติเดช หรือ ท๊อป หลังจากนายท๊อปมาติดพันตนเองที่ร้านและคบหาเป็นแฟนกันได้ปีครึ่ง ตอนแรกก็พูดดี ทำดี แต่มาระยะหลังตามมาหึงหวงราวี ทำร้ายตนเองถึงร้านจนไม่เป็นอันทำมาหากิน บางครั้งพกปืนเข้าไปข่มขู่ตนเองต่อหน้าลูกค้าในร้านอาหาร จนตนเองอับอาย จึงบอกเลิก ต่างคนต่างอยู่ เพราะถูกทำร้ายจนทนไม่ไหว

839962

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 64 นายท๊อปได้โทรมาขอร้องให้ตนลงมาพบเพราะเป็นวันวาเลนไทน์ จะมอบกุหลาบให้ ตนพยายามบ่ายเบี่ยง แต่เมื่อตนลงมาชั้นล่างหน้าลิฟต์ เขาขอร้องให้กับมาคืนดี เมื่อตนปฎิเสธก็โดนทำร้ายร่างกาย และยังปาโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 มูลค่า 49,000 บาท ของตนเองลงพื้นจนแตกละเอียด

หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งควาเพื่อให้ดำเนินคดี ข้อsาทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย cต่คดีไม่มีความคืบหน้า และนายท๊อปยังโทรมาขู่ว่าเขาสนิทกับตำรวจ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้หรอก ให้ตนระวังตัวไว้ ตนเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยจึงต้องหลบมาอยู่บ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดก่อน

882016

ด้านนายกฤติเดช แช่มช้อย หรือ ท๊อป อายุ 27 ปี อาชีพเลี่ยมกรอบพระที่ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตนเองคบกันและรัก ๆ เลิก ๆ กับหญิงสาวมากว่า 1 ปี ยืนยันว่าทำร้ายร่างกายจริงเพียง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่หญิงสาวเดินทางกลับจากทำงานที่เมียนมา พบว่าเอารถยนต์ไปจำนำไว้ ตนเองเป็นห่วงและไม่อยากให้เสียดอกเบี้ยเดือนละ 13,000 บาท จึงคุยกันและไปไถ่ถอนรถออกมาให้ แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มขึ้นบ้าง ฝ่ายหญิงกลับไปเริ่มทำงานพีอาร์ ทั้งที่ตนเองก็เลี้ยงดู ปรากฎว่าเจ้าตัวตีตัวออกห่าง พร้อมกับเอารถยนต์ไปซ่อน และยืนยันว่าจะกลับไปทำงานขุดทองที่เมียนมา ตนเองจึงตามหาตัวจนเจอ วันนั้นจึงอุ้มขึ้นรถเพื่อนของเขาและบังคับให้ไปเอารถ เพื่อไปจำนำเอาเงินจำนวน 200,000 บาทคืนมา โดยไม่รวมดอกเบี้ยที่เคยจ่ายให้ไปเดือนละ 13,000 บาท มากกว่า 2 เดือน วันนั้นตนเองมีการตบหน้า 1 ครั้ง เพราะโมโหจริง ๆ

จนล่าสุดฝ่ายหญิงไปไม่รอด วนกลับมาหาตนเองช่วง 1-2 เดือน ก่อนวันที่ 14 ก.พ. 64 จนกระทั่งวันนั้นตามภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าตนเองตั้งใจไปหาเพื่อเอาดอกกุหลาบไปให้ และจะพาไปกินข้าว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงมีการฉุดกระชากเนื่องจากตนเองเป็นห่วง ไม่อยากให้ปาร์ตี้ เพราะมีเรื่องไม่ดีมาเกี่ยวข้อง แต่ฝ่ายหญิงร้องตะโกนให้คนช่วยว่า "ช่วยด้วย เขาติดยาพยายามจะฆ่าหนู" ตนเองจึงโมโห ประกอบกับมีการพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นทางโทรศัพท์ด้วย จึงโมโหหนัก มีลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงก่อนเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง เพราะคิดว่าโทรศัพท์คือตนเหตุทำให้ทะเลาะกัน และตนเองต้องเอาโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องให้ฝ่ายหญิงใช้ แต่เมื่อพบว่ามีร้านเพื่อนที่เสือป่าสามารถซ่อมได้ จึงนำไปซ่อมให้ เสียค่าซ่อมไปจำนวน 7,000 บาท

ส่วนปมที่หญิงสาวบอกว่าตนเองเป็นคนใหญ่โต โทรไปข่มขู่ อ้างว่าทำร้ายร่างกายถึง 4 ครั้ง มีการเอาปืนไปข่มขู่ถึงร้าน จนทำมาหากินไม่ได้ เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความจริง ที่ผ่านมายับยั้งชังใจได้ แต่เป็นฝ่ายหญิงต่างหากที่ช่วงคบกันก็ทะเลาะและทำร้ายตนเองจนหัวแตก เรื่องอื่นก็อยากให้หาหลักฐานมายืนยัน นอกจากนี้ วอนสังคมเข้าใจ และฟังความสองด้าน แต่ตนไม่โกรธที่สังคมด่าตนเองเลย ส่วนเรื่องคดีความ ฟ้องร้องตนเองนั้นยืนยัน ว่าจะไม่ยอมชดใช้ซื้อโทรศัพท์คืนแน่นอน และขอให้หญิงสาวไปฟ้องร้องที่ศาล ที่ผ่านมาตนเองทุมเท เสียเงินไปมากกว่านี้

585970

ด้านนางสาวกัลย์กลม ก่อไผ่ น้องสาวนายกฤติเดช ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพี่ชายได้ให้ผู้หญิงเลิกทำงานพีอาร์ มาช่วยงานที่ร้านซึ่งก็ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่เดินทางไปอยู่ที่ร้านกับพี่ชายด้วยกัน ตอนเย็นก็กลับมาอยู่บ้านด้วยกัน โดยไม่ต้องทำงานในบ้านเลย อยากกิน อยากได้หรืออยากเที่ยวที่ไหนพี่ชายก็พาไปทั้งหมด

ที่ผ่านมาระหว่างที่พี่ชายได้คบกับผู้หญิงคนนี้มีการทะเลาะตบตีกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ภาพที่เห็นคือพี่ชายเจ็บหนักทุกครั้ง ซึ่งล่าสุดก่อนที่จะเลิกรากันไป ผู้หญิงได้ใช้โทรศัพท์มือถือตีหัวพี่ชายแตกเย็บ 5 เข็ม พี่ชายก็ไม่ได้เอาเรื่อง เพราะพี่ชายรักผู้หญิงคนนี้มาก สำหรับเรื่องที่พี่ชายตบตีกับผู้หญิงคนนี้ที่คอนโดในวันนั้น ตนเองยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้มีเจตนาไปทำร้ายผู้หญิง แต่ตั้งใจจะนำดอกกุหลาบไปมอบให้ในวันวาเลนไทน์ ซึ่งดอกกุหลาบดังกล่าวนั้นตนเองก็เป็นคนจัดเตรียมซื้อหามาให้พี่ชาย

อย่างไรก็ตาม อยากจะบอกคนในสังคมว่าให้ฟังสองด้าน คนรักกันมีตีกันเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้กังวลเพียงเรื่องเดียวคือหน้าที่การงานของพี่ชาย เพราะร้านกรอบพระค่อนข้างมีชื่อเสียง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส