กรณีพบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ทับร่าง ริมถนนสายเอเชีย ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ขาล่องเข้า อ.หาดใหญ่ สภาพใบหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์ แต่ลำตัวไม่พบบาดแผล โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เร่งลงตรวจสอบพิสูจน์ทราบเบื้องต้นว่า เจ้าหน้าที่ตั้งสาเหตุ 2 ประเด็น หญิงสาวอาจหลับในขับรถมาจนตกลงไปข้างทางเสียชีวิต หรืออาจถูกฆ่า ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ล่าสุดวันที่ 28 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นร่องคูน้ำถนนสายเอเชีย เส้นทางสายหาดใหญ่-รัตภูมิ หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา บริเวณโดยรอบฝั่งมุ่งหน้าไป อ.บางกล่ำ เป็นสวนยางพารา ฝั่งถนนมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ เป็นโรงงาน ตามข้างทางไม่มีไฟส่องสว่างข้างทาง บริเวณที่พบศพน.ส.นิหน่า อายุ 15 ปี ผู้เสียชีวิต เป็นพงหญ้าแห้ง ต่ำลงไปจากพื้นถนนประมาณ 1 เมตร
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุหาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำไปประกอบสำนวนและเชื่อมโยงกับคดี พร้อมมีการยึดรถโตโยต้าโคโรลล่า สีบรอนซ์ ทะเบียนประจวบคีรีขันธ์ รถต้องสงสัยมาตรวจสอบ
โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานต่าง ๆ ภายในรถ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนแล้วเช่นกัน โดยรถต้องสงสัยตำรวจตรวจสอบพบปรากฏบนภาพจากกล้องวงจรปิดขับตามรถจักรยานยนต์น้องนิหน่าออกจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเซีย ห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นเบาะแสสำคัญที่ตำรวจมั่นใจว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือฆาตกรรมอำพรางศพ
จากนั้นทีมข่าวเดินทางเข้าไปพูดคุยกับนายอนันต์ อายุ 47 ปี พ่อผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนยังคงรู้สึกสงสัยกับปมการเสียชีวิต เนื่องจากร่องรอยบาดแผลคือไม่มีอะไรที่บอกว่าเกิดอุบัติเหตุ แขนขาไม่มีรอยล้มรอยถลอก กับตัวรถก็ไม่มีร่องรอยอะไร ตนจึงมั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องของอุบัติเหตุแน่นอน แต่น่าจะเป็นเรื่องฆ่าตรกรรม
ส่วนแฟนหนุ่มของลูกสาว คบกันมาได้ 3 ปีแล้ว แรก ๆ ก็ยังเป็นกังวลใจกับการที่ลูกสาวเดินทางไปหาแฟนหนุ่มเพียงลำพัง โดยมีการห้ามตลอดว่าไม่ให้ไป เพราะเป็นผู้หญิงไปบ้านผู้ชายจะไม่งาม หลัง ๆ มาตนคลายกังวลใจ เนื่องจากพ่อแม่ฝั่งของแฟนหนุ่มดูแลเอาใจใส่ลูกสาวตนเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเคยป่วยก็หาข้าวหายาให้กิน
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง 2 คน ตนก็เห็นว่ารักกันดี แต่เรื่องส่วนตัวลูกสาวจะไม่ค่อยคุยกับตน จะเข้าทางแม่มากกว่า เพราะวัน ๆ ตนจะเข้าสวนยางทั้งวัน เจอลูกสาวล่าสุดก็วันที่ 26 ก.พ.64 ก่อนลูกออกจากบ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอ สภาพจิตใจของครอบครัวยังไม่มีใครทำใจได้
นอกจากนี้ยังมีคลิปตอนที่น้องนิหน่า ถ่ายขณะขี่รถจักรยานยนต์คล้ายกับตัดพ้อแฟนหนุ่มที่ไม่ออกมาส่ง ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายของน้องนิหน่า ส่งไลน์ไปให้เพื่อนสนิทคนหนึ่งก่อนมาเสียชีวิต
โดยเฉพาะอาการของผู้เป็นแม่ที่ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็ต้องให้กำลังใจกันเรื่อย ๆ ว่ามันทำอะไรไม่ได้แล้ว ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้ เนื่องจากตนอยากรู้สาเหตุการตายของลูก และอยากจะถามคนก่อเหตุว่า ทำไปทำไม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายมิน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนได้ชักชวนให้แฟนสาว เดินทางมาหาตนที่บ้าน เนื่องจากจะพาไปทานข้าวกับครอบครัว โดยน้องนิหน่าเดินทางมาถึงบ้านของตน เวลาประมาณ 11.30 น. จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น. ก็เดินทางไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยไปกับทางครอบครัวของตน และได้มีการแวะทานไก่ทอด KFC ที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนกลับมาถึงบ้าน เวลาประมาณ 16.30 น. จากนั้นน้องนิหน่าก็บ่นหิว เพราะไม่สามารถกินไก่ได้ เนื่องจากเพิ่งจัดฟัน ยังปวดฟันกินของแข็งไม่ได้ ตนจึงพาไปกินก๋วยเตี๋ยว
ในระหว่างที่อยู่ในบ้านก็ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกัน หรือมีปากเสียงอะไร จากนั้นตนก็หลับไป รู้สึกตัวขึ้นมาเวลา 00.18 น. ไม่พบน้องนิหน่าที่บ้านแล้ว ก็ทักแชตไปแต่ไม่มีคนตอบ กระทั่ง 02.18 น. ตื่นมา โทรหาน้องนิหน่าหลายรอบ ก็ไม่มีใครรับ เข้าใจว่ากลับบ้านไปแล้ว
ทั้งนี้ตนคาดว่าน้องนิหน่า น่าจะหิว หรืออยากชวนไปไหน แต่ขณะนั้นตนหลับ ก็ไม่รู้ว่าน้อยใจอะไรหรือเปล่า กลับออกบ้านโดยที่ไม่ปลุกตน ถ้าปลุกตนก็ตื่นอยู่แล้ว แต่เพราะน้องนิหน่าไม่ปลุก เลยไม่ได้ไปส่งเหมือนปกติที่เคยทำ พอทราบข่าวก็รู้สึกช็อก ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าวันนั้นตนขับรถไปส่งก็อาจจะโดนทั้งคู่ก็ได้
ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดความยาวคลิป 2 นาที 28 วินาที จับภาพน้องนิหน่า ขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกจากบ้านแฟนหนุ่มเมื่อเวลาประมาณ 00.11 น. เดินออกมาจากบ้านวินาทีที่ 7 ขับรถออกนาทีที่ 2.15 วินาที
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับตัวคนร้ายได้แล้ว และอยู่ระหว่างนำตัวกลับมาสอบสวน เบื้องต้นคนร้าย เป็นชาย อายุ 49 ปี ชาวอ.กงหรา จ.พัทลุง รับสารภาพว่า ต้องการข่มขืน แต่เหยื่อขัดขืนจึงลงมือฆ่า โดยที่เกิดเหตุพบศพหญิงยังพบรองเท้าผู้ชายอีก 1 คู่
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.พรรวษา แก้วไฟ อายุ 17 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนเคยถูกคนร้ายขี่รถมอเตอร์ไซค์ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ เมื่อช่วงเดือนมี.ค.63 โดยขณะนั้นตนเพิ่งเลิกงาน ประมาณ 21.30 น. และกำลังเดินทางกลับบ้าน ใช้ถนนเส้นเอเชีย ที่เกิดเหตุ
ขณะนั้นตนขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเรื่อย ๆ จู่ ๆ มีผู้ชาย 2 คนขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเทียบข้าง แล้วพยายามใช้เท้าถีบรถให้ตนล้มเสียหลัก ตนจึงเบรกรถ ทันใดนั้นชายที่ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ก็มาคร่อมรถตน โดยให้ตนอยู่ด้านหน้า พร้อมเอาปืนจี้ ตนก็อาศัยช่วงทีเผลอวิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ซึ่งคนร้ายได้รถจักรยานยนต์ของตนไป แต่ในที่สุดก็สามารถจับตัวคนร้ายได้
สำหรับเคสน้องนิหน่า หากเป็นการชิงทรัพย์ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากสภาพแวดล้อมของถนนค่อนข้างมืด ไม่มีไฟถนน และชาวบ้านก็สัญจรไปมาถนนเส้นนี้บ่อย ในช่วงนั้นก็เกิดเหตุลักษณะเดียวกันหลายเคส ทั้งจับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง ตนจึงวอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งดำเนินติดตั้งไฟส่องสว่างให้กับชุมชนด้วย เพราะถ้าเกิดเหตุปล้นชิงวิ่งราว ก็อาจไม่ได้โชคดีเหมือนตนที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้
จากนั้นทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับน.ส.มายด์มิ้นต์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เห็นคลิปที่น.ส.นิหน่า ถ่ายเป็นคลิปสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ เหมือนกับว่าร้องไห้ ที่แฟนหนุ่มไม่สนใจ ไม่แคร์ความรู้สึกกัน ปล่อยให้ออกมาคนเดียว ก็ยังสงสัยว่าทำไมแฟนหนุ่มไม่มาส่ง เพราะปกติจะเห็นว่าขี่รถตามมาส่งที่บ้านทุกครั้ง ซึ่ง 2 คนนี้ก็รักกันดี อาจจะมีงอนกันบ้างตามประสาคนเป็นแฟนกัน แต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งน.ส.นิหน่า ก็มาปรึกษาตนบ้าง เวลาที่มีอารมณ์และความรู้สึกน้อยใจแฟนหนุ่มว่าไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยสนใจ ตนก็คอยปลอบใจว่าไม่เป็นอะไร
ในวันเกิดเหตุตนไม่ทราบว่านิหน่าเดินทางไปไหน เพราะไม่ได้มาชวน เลยเข้าใจว่าไปกับแฟนหนุ่ม ถ้าไปกับเพื่อนก็คงต้องบอกตนบ้าง ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่ไปเที่ยว นิหน่าไม่เคยหนีพ่อแม่ไปเลย จะขออนุญาตตลอด และที่บ้านก็ทราบเรื่องทุกครั้ง ตนมาทราบข่าวในตอนเช้าก็รู้สึกตกใจ จึงรีบโทรหาแฟนหนุ่มเพื่อบอกข่าวว่านิหน่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวก็ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โตมาด้วยกันก็ไม่คิดว่าจะจากไปอย่างกะทันหันแบบนี้ ซึ่งตนมีความเชื่อว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน
ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับน.ส.ไหมเหนาะ 46 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กำลังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ บอกกับทีมข่าวว่า ตั้งแต่ทราบข่าวก็ยังร้องไห้ไม่หยุด เนื่องจากตนมีความผูกพันกับลูกสาวมาก ๆ โดยลูกสาวเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี เวลาจะออกไปไหนมาไหนก็บอกแม่ตรง ๆ ไม่เคยโกหก
ส่วนนายมิน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ก็คบหากันมา 3 ปีแล้ว ก็อยู่ในสายตาของตนตลอด ทางบ้านนายมิน ก็รับรู้ว่ากำลังคบหากับลูกสาวของตน และวันหยุดก็จะขอตนไปเที่ยวเล่นบ้าง ซึ่งวันเกิดเหตุ น.ส.นิหน่า ลูกสาวของตน ขออนุญาตไปกินชาบูกับเพื่อนและจะไปหาแฟนที่บ้าน จากนั้นก็ออกจากบ้านไปประมาณ 11.00 น.
ต่อมาประมาณหัวค่ำ ตนโทรหาลูกสาวรอบแรกแต่ไม่มีคนรับ ก็เข้าใจว่าลูกสาวน่าจะยังเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ เลยไม่รับโทรศัพท์ ตนถึงโทรหาลูกเป็นครั้งที่ 2 ประมาณเที่ยงคืนโทรติดแต่ไม่มีคนรับ ครั้งนี้จึงเข้าใจว่า นอนบ้านแฟนหนุ่ม จากนั้นก็โทรหาลูกสาวอีกครั้งเวลา 03.00 น. ก็โทรไม่ติดแล้ว จากนั้นก็รู้สึกเป็นห่วง นอนไม่หลับ กระทั่งในตอนเช้าจึงทราบข่าวว่าลูกสาวกลายเป็นศพอยู่ร่องถนน ตนก็รู้สึกช็อกและเป็นลม
ทั้งนี้ลูกสะใภ้ของตนที่กำลังตั้งครรภ์ โทรศัพท์มาเล่าว่าน้องนิหน่ามากอด หอมแก้ม และจูบท้องที่มีเด็ก แล้วก็หายเข้าไปในท้อง ตนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็เชื่อว่าลูกสาวของตนไปหาลูกสะใภ้ ทั้งนี้หลังผลชันสูตรศพเสร็จจะนำศพลูกสาวไปสวดอภิธรรมที่วัดป่ายาง แต่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะสวดกี่คืน
สำหรับสภาพจิตใจในตอนนึ้ คือ ยังทำใจไม่ได้ ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับ ซึ่งก่อนหน้าเกิดเหตุ 2 วัน ลูกสาวบ่นกับตนว่าอยากกินไก่ทอด ซึ่งตนอยู่ตลาด แต่ไก่ทอดที่ตลาดหมดเลยไม่ได้ซื้อมาให้ พอตกกลางคืนลูกสาวก็บอกกับตนว่าให้มานอนกับตนในห้องนอน ซึ่งปกติจะนอนแยกห้องกัน แล้วบอกกับตนอีกว่า “แม่กอดหนูหน่อย กอดแน่น ๆ เลย” ในวันนี้ลูกไม่อยู่แล้ว ก็ขอให้ลูกดลบันดาลให้จับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
