สาวร้องคดีอืด ถูกลุงแท้ ๆ ลวงเยี่ยมแม่ป่วยพาเข้ารีสอร์ต เจ้าตัวโต้ไม่ขัดขืนถือว่าสมยอม (คลิป)

กรณีเพจเฟซบุ๊ก “เหตุการณ์ บ้านเมือง” โพสต์ภาพ พร้อมบรรยายข้อความว่า หญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 17 ปี ถูกลุงออกอุบายว่าจะพาไปรับแม่ที่รักษาตัวอยู่ รพ.แห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่นกลับบ้าน แต่ระหว่างทางกลับเลี้ยวรถพาเข้ารีสอร์ต และข่มขืนใจจนสำเสร็จความใคร่ และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โดยภายหลังเกิดเรื่อง หลานสาวได้เข้าแจ้งความ 2 โรงพักในพื้นที่ใกล้เคียงกลับเกี่ยงกันรับผิดชอบคดี ซึ่งผ่านมาเกือบ 2 เดือนคดียังไม่คืบ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ล่าสุดวันที่ 28 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหาย ภายใน ต.หนองไผ่ล้อม อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ได้พูดคุยกับ น.ส.ครีม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเริ่มจากวันที่ 10 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 08.00 น. แม่ได้โทรมาบอกว่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว เพราะแม่ป่วยรักษามะเร็งในมดลูก จึงให้ตนไปรับที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น หลังจากที่วางสายจากแม่เสร็จ ตนก็ทักแชตเฟซบุ๊กไปบอกลุงว่า "วันนี้แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ให้พาไปรับหน่อย" ก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วขึ้นรถไปกับลุง 2 คน เพื่อไปรับแม่

ระหว่างทางพอขับไปจนถึงรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ลุงก็พูดขึ้นมาว่า "ไปนอนนะ" ตนก็พูดไปว่า "จะไปรับแม่ เดี๋ยวแม่รอนาน" แต่ลุงก็ไม่ฟัง ขับรถเลี้ยวเข้าไปในรีสอร์ตแล้วจอดรถเดินลงไป ขณะนั้นตนที่นั่งอยู่ในรถ ก็อยู่ในอาการสั่น คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทักบอกใคร โทรหาใครก็ไม่มีใครรับ แถวนั้นก็ไม่มีคนเดินผ่านไปมา ก็ได้แต่นั่งอยู่ในรถ

จนเวลาผ่านไปสักพัก เมื่อลุงได้ห้องพัก ลุงก็เดินมาเปิดประตูแล้วบอกว่า ให้ตนลงจากรถ ตนก็เดินลงไป เพราะตกใจคิดอะไรไม่ออก ได้แต่เงียบ พอเข้าไปในห้องตนจึงตั้งสติแชตไปหาเพื่อน แต่เหมือนลุงจะไหวตัวทัน เลยจับโทรศัพท์ออกจากมือตนไปวางไว้ที่โต๊ะ จากนั้นก็ลงมือข่มขืนตน แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตนจึงรีบแชตปรึกษาเพื่อน-แฟน ถึงกรณีที่เกิดขึ้น เพราะยังไม่กล้าบอกที่บ้าน ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น กระทั่งวันที่ 11 ธ.ค.64 ตำรวจเลยส่งตัวไปตรวจที่ รพ.หนองสองห้อง หลังจากตรวจร่างกายเสร็จ ตำรวจก็บอกตนว่า ให้รอผลตรวจประมาณ 1 เดือน ตนเลยต้องกลับบ้าน

หลังจากนั้น 3-4 วันต่อมา ตนใจร้อน เลยเข้าไปหาตำรวจอีกครั้ง แต่ตำรวจกลับบอกว่า ให้ไปแจ้งความที่สภ.เมืองพล เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ สภ.เมืองพล ตนเลยเดินทางไปหาตำรวจที่ สภ.เมืองพล เพื่อแจ้งความ แต่ตำรวจที่สภ.เมืองพล กลับบอกว่า สภ.หนองสองห้อง รับเคสแล้ว แจ้งที่ไหนก็เหมือนกัน แต่อยู่ที่ตำรวจจะเดินเรื่องดำเนินคดีให้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพในวันนั้นยังคงฝังใจ และทำให้ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุตนเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 17 ปี ตัวเล็ก ๆ ไม่มีแรงไปสู้ลุงที่เป็นผู้ชายตัวใหญ่ได้ เลย ต้องจำยอมถูกข่มขืน

อีกทั้งหลังจากครอบครัวของตนทราบเรื่อง ก็ได้ไปพูดคุยกับลุงผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ปรากฏว่าลุงกลับทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพูดให้การว่าเสมือนตนเป็นฝ่ายผิด ตนจึงอยากจะให้ตำรวจเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เอาผิดผู้ก่อเหตุรายนี้ถึงที่สุด เนื่องจากหวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุรายนี้ได้ทำพฤติกรรมอนาจารกับตนมาแล้วหลายครั้ง เวลาที่คนในบ้านไม่อยู่ เช่น เดินเข้ามากอดจูบ โดยที่ตนไม่ได้สมยอม และตนไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างว่า เลยอยากให้ผู้ที่ก่อเหตุได้รับโทษกับสิ่งที่ทำ

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายประวิทย์ อายุ 62 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่า ตนมีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวจริง แต่ไม่ได้กระทำอนาจารหรือข่มขืนกระทำชำเรา แต่หลานสาวเป็นคนยินยอม เพราะมีความสนิทสนมกันมานาน

ส่วนที่หลานสาวกล่าวอ้างว่า ตนพาขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมนั้น ตนก็ยอมรับเช่นกันว่าเป็นความจริง ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นตอนกลางวัน หากตนมีการบังคับขืนใจจริง ก็ต้องมีคนเห็นแล้ว เพราะเป็นเวลากลางวันแสก ๆ แต่หลานสาวกลับไม่ได้ร้อง หรือขัดขืนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเกิดเหตุ ตนเห็นมีเจ้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ เนื่องจากหลานสาวและครอบครัวไปแจ้งความว่าโดนข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งตนก็ยอมไปให้ปากคำแต่โดยดี โดยที่ไม่ได้มีการขัดขืน ขณะนี้เรื่องก็ดำเนินการไปอยู่ในมือของตำรวจหมดแล้ว 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาตนในความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเรา พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ซึ่งตนก็สามารถให้ข้อมูลได้เพียงเท่านี้ หากข่มขืนจริงตนก็บอกว่าข่มขืน แต่ตนไม่ได้ข่มขืน เป็นการสมยอม ดังนั้นทางด้านคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน หรือไปสู้กันในชั้นศาลต่อไป