จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ตับพัง เพราะตังค์เพื่อน" โพสต์เรื่องราวกรณีนายเสมา พุฒิสาร หรือ ท็อป อายุ 33 ปี เสียชีวิต หลังถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 64 ภายในพื้นที่เขตรามอินทรา กรุงเทพฯ ซึ่งระยะเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สุดโหดแก๊งโจ๋รุมฆ่ากลางเมืองมีดฟันไม้ง่ามแทง พ่อฉะตำรวจให้ท้ายฝูงนักล่า
วันที่ 27 ก.พ. 64 เวลา 12.00 น. ญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.บึงกุ่ม กรุงเทพฯ เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งความคืบหน้าในวันนี้ ตำรวจได้ให้ญาติชี้ตัวผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นใคร เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการออกหมายจับ แต่ขณะนี้ยังไม่ระบุว่าผู้กระทำความผิดมีกี่คน เพราะต้องตรวจสอบว่าบุคคลก่อเหตุที่อยู่ในซอยและอยู่ที่ปั๊มน้ำมันว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่
นางเม้า แม่เลี้ยงของผู้เสียชีวิต อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ตนก็ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมเรื่องเกิดตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งจะมาเรียกสอบปากคำ ในวันเกิดเหตุนั้น นายเสมาเกิดการอาละวาดทำร้ายคนในครอบครัว ตนจึงร้องขอความช่วยเหลือให้กลุ่มวัยรุ่นมาช่วย เพราะตนสู้แรงนายเสมาไม่ไหว
ขณะเดียวกันก็ได้แจ้งตำรวจด้วย แต่ในช่วงที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่ นายเสมาได้หนีไปแล้ว ตำรวจได้ขอให้กลุ่มวัยรุ่นช่วยกันจับนายเสมาและส่งให้ตำรวจ ไม่ใช่ไล่ตามกระทืบกันถึงตายขนาดนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งให้วัยรุ่นกระทืบนายเสมา เพียงแต่ขอให้ช่วยระงับเหตุเท่านั้น และในตอนที่เขาไล่ตามกันไปนั้นตนก็ไม่ได้ตามไปด้วย
ตนไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มวัยรุ่นต้องไล่ทำร้ายนายเสมาขนาดนั้น และตนก็ไม่ได้อยากให้เขาทำร้ายกันถึงตาย เพราะตนก็เลี้ยงนายเสมามาตั้งแต่เด็ก แม้จะมีกระทบกระทั่งกันในครอบครัว แต่ก็ไม่เคยคิดจะให้ใครทำร้ายถึงตาย หลังจากที่นายเสมาเสียชีวิต กลุ่มวัยรุ่นก็หายไปจากพื้นที่พักหนึ่ง แต่เมื่อเผาศพนายเสมา กลุ่มวัยรุ่นก็กลับมาเดินอยู่ในซอยนวมินทร์ 26 โดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร
แต่ล่าสุดหลังข่าวออกอากาศ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาซอยก็เงียบและไม่มีวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาเดินอยู่ในซอย แต่ตนก็ยังมีความกังวลใจว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร จะมีการจับคนร้ายได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคลิปที่มีการไล่กันในปั๊มน้ำมันนั้นมีตำรวจด้วย ทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ สน.ลาดพร้าว ที่ผ่านมาและช่วยระงับเหตุ
ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดข้างบ้านหลังที่เกิดเหตุ ในวันที่ 8 ก.พ. เวลาประมาณ 21.35 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน โดยในช่วงต้นคลิปมีเสียงการสนทนาของกลุ่มชาย ยืนพูดคุยอยู่นอกรัศมีกล้องวงจรปิด แต่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเสียงเอาไว้ได้ บางช่วงก็มีเสียงผู้ชายพูดว่า "ทืบมันก่อนเลย" และมีเสียงชายอีกคนตอบว่า "ผมกลัวมีความผิดครับ" แต่ชายอีกคนก็บอกว่า "ไม่มีความผิด แต่อย่าทำมันตายนะ และค่อยเรียกตำรวจมาจับอีกที"
ซึ่งในช่วงท้ายคลิปก็ปรากฏภาพที่คาดว่าเป็นต้นเสียงเป็นตำรวจในเครื่องแบบ 3 นาย และชาย 2 คนที่แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ เดินจากหน้าบ้านของผู้เสียชีวิตมุ่งหน้าไปทางปากซอย
ด้านนายหน่อง อายุ 52 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางเข้าพบตำรวจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุที่ปรากฏตัวอยู่ในวงจรปิด ซึ่งได้ชี้ตัวผู้ก่อเหตุ 7-8 คน ซึ่งมีทั้งรู้ชื่อและไม่รู้ชื่อ ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว เพียงแต่รู้ว่าเขาเป็นใคร และจากการพูดคุยกับตำรวจในวันนี้ ก็ให้ความมั่นใจกับตนว่าจะสามารถจับคนร้ายได้ภายในวันจันทร์ที่ 1 มี.ค. 64 และตนก็รู้สึกใจชื่นขึ้นมา เพราะถ้าตำรวจทำแบบนี้ ตนก็มีความหวังว่าจะสามารถจับคนร้าย และคืนความยุติธรรมให้กับนายเสมาได้ ตอนนี้ตนก็ไม่ได้มีความกังวลแล้ว เพียงแค่ขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วก็พอ เพราะวัยรุ่นก็อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของตน
นายหน่อง กล่าวต่อว่า กรณีที่มีข้อมูลว่าตำรวจเป็นคนสั่งให้วัยรุ่นกระทืบลูกชายของตนนั้น ตนก็ไม่ได้ถามข้อเท็จจริงจากตำรวจ เพราะถามไปเขาก็คงไม่ตอบ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้วัยรุ่น อย่าทำอะไรที่คึกคะนอง เพราะอาจจะทำให้เกิดเหตุบานปลายแบบนี้
